บทที่ 624 ไอ้เจ็ดมาแล้ว
หลิงลี่สบตาหลีโม่ครู่หนึ่ง “พระชายานับว่าเข้าใจทุกเรื่องชัดเจน”
“ไม่เข้าใจหรอก ข้าไม่เข้าใจเรื่องราวภายนอกอะไรหรอก ข้ารักษาตัวเองมานานขนาดนี้ จะรู้ว่าภายนอกเกิดอะไรขึ้นได้อย่างไร?” หลีโม่บิดขี้เกียจขึ้น แผลไม่เจ็บแล้ว หลายวันที่รักษาแผลมาได้แต่นอนจนกระดูกแทบจะหักแล้ว
หลิงลี่เอ่ยขึ้น “ได้ยินมาว่า เหลาไท่ไท่ตระกูลฉินพบกับอ๋องเจิ้นโก๋ ยังบอกอีกว่าจะสนับสนุนเขาเป็นฮ่องเต้ อ๋องเจิ้นโก๋เลอะเลือนไปช่วงหนึ่ง จึงถูกหลอกเข้าให้”
“เหลาไท่ไท่ตระกูลฉินหรือ?” หลิ่วหลิ่วหันมามอง “ท่านย่าของฉินโจวหรือ?”
“ไม่ใช่ คือไท่หนายหนายของฉินโจว ซึ่งก็คือแม่ของแม่ทัพฉินผู้โง่เขลา”
“ฟังอย่างนั้นแล้ว นับเป็นบุคคลสำคัญทีเดียว!” “หลิงลี่ เล่าเรื่องมา”
หลิงลี่ทำท่าทางราวกับนักพูด ตอนนี้นางไม้ใส่ผ้าคลุมหน้าแล้ว ใบหน้าก็ไม่ได้แตกต่างอะไรกับตอนแรก และนับว่าไม่เห็นแผลใดๆ เลย
“เหลาไท่ไท่ตระกูลฉิน พูดไปแล้ว มีความเกี่ยวข้องกันกับไท่ฮองไท่เฮาแห่งราชวงศ์ต้าโจว แต่ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าเกี่ยวข้องกันอย่างไร สรุปแล้ว ในวันนั้นที่อ๋องอานหรานมาส่งยา กลับพบกับเหลาไท่ไท่ในจวน ทั้งสองคนพูดคุยกันนานมาก ก็ไม่รู้ว่าคุยอะไรกัน หลังจากนั้น เหลาไท่ไท่ก็เรียกฉินโจวกลับไป และก็พูดคุยกันอีกนาน หลังจากนั้นอีก เหลาไท่ไท่ตระกูลฉินนำยานั้นเข้าพบอ๋องเจิ้นโก๋ บอกว่าจะรักษาโรคให้กับเขา อ๋องเจิ้นโก๋เวลานั้นติดโรคระบาด เกือบจะสิ้นชีวิต ยาของฉินเหลาไท่ไท่ช่วยเขาไว้ เขาซาบซึ้งในพระคุณเป็นอย่างมาก จึงเรียนเชิญเหลาไท่ไท่ตระกูลฉินอยู่เป็นแขกที่จวน ในระหว่างที่เป็นแขกอยู่นั้น พวกเขาพูดหรือทำอะไร ต่างไม่มีใครรู้ สรุปแล้ว เมื่อเหลาไท่ไท่ตระกูลฉินจากไปแล้ว วันต่อมาอ๋องเจิ้นโก๋ก็ยกกองทัพมา ข้าคาดคะเนดูว่า เหลาไท่ไท่นั่นอาจจะสัญญาว่าจะช่วยเขาเป็นฮ่องเต้ เขาถึงพุ่งไปข้างหน้าโดยไม่สนอะไร ยิ่งไปกว่านั้น เมืองหลวงทุกวันนี้วุ่นวายอยู่แล้ว หากเขามีใจคิดจะกบฏ ก็นับเป็นเวลาที่เหมาะที่สุดแล้ว”
“อ๋องเจิ้นโก๋ผู้นี้ อาจจะคิดว่าฉินโจวเป็นเพียงผู้ช่วยเขา แต่เหลาไท่ไท่ก็ไม่อาจนับเป็นตัวแทนฉินโจวได้” หลีโม่หัวเราะขึ้น
“นับว่าเป็นตัวแทนไม่ได้ แต่ว่า ทุกๆ คนคงรู้ดี ฉินโจวผู้นี้นับว่าเชื่อฟังไท่หนายหนายทุกอย่าง”
“ดังนั้น” หลีโม่จับผมตัวเองเล่น สายตาล่องลอยไป “อ๋องเจิ้นโก๋นับว่าเข้าใจผิดไปแล้ว”
“หรือนั่นอาจจะเป็นความตั้งใจให้เขาเข้าใจผิด หากเขาไม่เข้าใจผิดฉินโจวจะชนะได้อย่างไร?” หลิ่วหลิ่วคิดว่าหลีโม่ไม่เข้าใจ จึงอธิบายขึ้น
หลิงลี่ชายตามองใบหน้าใสซื่อของหลิ่วหลิ่ว พลางถอนหายใจ “เจ้าหลิ่ว เมื่อไหร่เจ้าจะโตเสียที?”
หลิ่วหลิ่วใจหล่นวูบ “ข้าแต่งงานแล้วเชียวนะ?เจ้าที่ยังไม่ได้แต่งงานเลยจะมาบอกว่าข้ายังไม่โตได้อย่างไร?”
หลีโม่ส่งเสียงหัวเราะออกมา
วันต่อมา ซือถูเย้นพาท่านอ๋องฉู่โยว่มายังเมืองอาวุธ
เขารู้เรื่องที่หลีโม่บาดเจ็บมาก่อนหน้าแล้ว ดังนั้น เมื่อส่งตัวอ๋องฉู่โยว่ให้กับฉินโจวแล้ว จึงรีบรุดไปยังห้องนอนของหลีโม่
ฉินโจวรั้งเขาไว้ “เจ้าดูโกรธมากเลยนะ”
“หือ?” ซือถูเย้นเลิกคิ้วขึ้นข้างหนึ่ง
“ไม่ใช่ความผิดของเสี้ยหลีโม่ นางทำไปเพราะต้องการช่วยข้า” ฉินโจวพูดอธิบาย
“อืม?” ซือถูเย้นยังคงเลิกคิ้วอีก
“อย่าว่าร้ายนาง!” ฉินโจวรู้สึกได้ว่า เบื้องหน้าท่าทางของบุรษผู้แข็งแรง ตัวนางเองดูช่างบอบบาง พลันเอ่ยขึ้นเสียงเบา
“เหลวไหล!” ซือถูเย้นพ่นคำลอดไรฟันออกมาสองคำ ก็พุ่งออกไปดุจพายุ แคว้นเป่ยม่อนี่ช่างไม่มีคนปกติเลยสักคน
ฉินโจวมองตามเงาหลังของเขาไป แววตาทอดมองไปไกล มีแววความหวาดกลัวและความสะท้อนใจ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พิษรักองค์ชายโฉมงาม
จบแบล้วววววว...
900 ตอนแล้ว ชีวิตของหลีโม่แทบหาความสุขไม่เจอเลย แถมลูกก็ถูกคนอื่นเอาไปทิ้งอีก สงสารจับใจ...
ตะว่าไปเรื่องนี้หมุยเฟยกับฮ่องเต้เลวร้ายแบบกินกันไม่ลงนะ ทำร้ายทุกคนที่ดีกับตัวเอง แล้วแางว่าจำเป็นๆ กลับเป็นพวกอี๋เฟยซะอีกที่แย่งแยกพวกำองชัดเจนไปเลย หมุยเฟยนี่นับว่าเป็นคนที่ได้ดีจากการเนรคุณผู้คนรอบข้างโดยแท้...
ฮ่องเต้กับลู่กงกงนี่ ตอนตายคงมีกันแค่ 2 คนละนะ...
อี๋เฟยนี่คือนางฉลาดสุดละในบรรดาเมียของเต้...
ท่านซือถูเย่นใจเย็นๆจากสุราก่อนเจ้าค่ะ สนใจยัยน้องด่วนเด่วจะโดนมิใช่น้อย55555...
โธ่ๆท่านซือถูเย่น เค้าลางกลัวว่าที่ภรรยาในอนาคตมาแต่ไกล รีบซ่อนสุราเลยนะ แต่ไม่น่าจะทัน หลอกใครก็หลอกได้แต่ไม่ใช่กับแม่นางหลีโม่555555...