พิษรักองค์ชายโฉมงาม นิยาย บท 627

บทที่ 627 ทำให้แคว้นเป่ยม่อสงบสุข

อ๋องเจิ้นโก๋ยังใจดีต่อฉาวฮองเฮานัก ให้ฉาวฮองเฮาเป็นพยาน พูดว่าก่อนที่ฮ่องเต้จะ “ป่วยจนสิ้นพระชนม์” ได้ตรัสมอบตำแหน่ง

ฉาวฮองเฮาก็เป็นคนรู้วิธีปฏิบัติตัวเป็นอย่างดี เมื่อรู้ว่าอำนาจไม่อยู่กับตัวแล้ว แต่ก็ยังคงอยากจะแย่งมันมาเพื่อบุตรชายตัวเองอยู่ ยิ่งไปกว่านั้นตอนนี้บุตรชายของนางเป็นถึงองค์รัชทายาท

ดังนั้น นางจึงเอ่ยกับอ๋องเจิ้นโก๋ เช่นนั้นไม่สู้เจ้าขอให้ฮองไทเฮาเป็นพยาน ฮองไทเฮามีกำลังในการโน้มน้าวมากกว่า

อ๋องเจิ้นโก๋เชื่อคำนางแล้ว จึงเสาะหาฮองไทเฮา

ทว่าฮองไทเฮาได้แขวนคอตนเองสิ้นพระชนม์ภายในวังหลวงแล้ว พระศพยังอุ่นอยู่ อ๋องเจิ้นโก๋มาช้าเพียงก้าวเดียว

เหล่าทหารอารักษ์ล้มเลิกการป้องกันแล้ว ต่างพากันวางอาวุธพร้อมให้คำสัตย์ พวกเขาไม่พอใจฮ่องเต้มาแต่เดิม เพียงแต่ยังไม่มีผู้นำเท่านั้น

เวลานั้นมีผู้นำแล้ว พวกเขาพร้อมสละความมืดก้าวสู่แสงสว่าง

คำพูดเหล่านี้ พวกเขาก็ใช้พูดกับฉู่โยว่อ๋องในเวลาต่อมา

ตอนนี้จะพูดถึงเรื่องที่สอง นั่นคือเมื่อฉินโจวยกพลเข้าวัง อ๋องฉู่โยว่ช่วยเหลือฉาวฮองเฮาจากเงื้อมมืออ๋องเจิ้นโก๋มาได้

เมื่อคนของอ๋องเจิ้นโก๋และคนของฉินโจวตั้งพลพร้อมจะสู้กันอย่างเอาเป็นเอาตายนั้น ไม่รู้ว่าเป็นความตั้งใจหรือไม่ ฉาวฮองเฮามักจะอยู่ในวงต่อสู้ โดยไม่ระวังต่างรับคมดาบมาบ้าง

เมื่ออ๋องฉู่โยว่เห็นดังนั้น ใจมีความสงสารแม่บุญธรรม จึงพุ่งตรงไปช่วยเหลือ ได้ยินมาว่าในเวลานั้น มือไม้อ่อนจนบาดเจ็บ คนของฉินโจวต่างประหลาดใจ ท่านอ๋องช่างเป็นผู้กตัญญูรู้คุณนัก

เป็นดังนั้น ฉาวฮองเฮาจึงได้รับความช่วยเหลือจากอ๋องฉู่โยว่ส่งกลับไปยังพระตำหนัก และยังสั่งให้หมอหลวงมาดูแลอีกด้วย

หมอหลวงช่วยรักษาบาดแผลฉาวฮองเฮา ภายใต้การจดจ้องมองของอ๋องฉู่โยว่

ฉาวฮองเฮาผ่านความเป็นความตายมา จึงได้รับการช่วยเหลือไว้ เมื่อเห็นว่าผู้ที่ช่วยเหลือนางคือบุตรคนละแม่ที่นางมักจะรังแกอยู่เสมอ พลันเปลี่ยนแสดงบทบาทเป็นแม่บุญธรรมขึ้นมาทันที สั่งให้เขาไปรับองค์รัชทายาทกลับวัง

ฉาวฮองเฮาหลายปีมานี้ควบคุมรัชกาลไว้ มีอำนาจอยู่ในมือ นางเกรงกลัวอ๋องเจิ้นโก๋ และเกรงกลับฉินโจว มีเพียงคนที่มิกริ่งเกรงคือลูกคนแม่คนนี้

นั่นก็มีเหตุผลของมันอยู่ ก็เป็นดังเช่นหากเราเลี้ยงสุนัขสักตัว เจ้าสุนัขตัวนี้ต้องคอยส่ายหาง ทำท่าทางน่าสงสารถึงจะมีข้าวกิน ต่อไปเราจะมองสุนัขตัวนี้อย่างเชิดชูหรือ?

ไม่หรอก เราก็จะมองมันเป็นเพียงสุนัข เพราะว่า วันนี้เป็นสุนัข ชาตินี้ก็ยังคงเป็นสุนัข

เมื่อชินชากับการชี้นิ้วออกคำสั่ง แม้สุนัขตัวนั้นจะนั่งอยู่บนบัลลังก์ เราก็จะไม่เคารพเลยสักนิดเดียว

เมื่ออ๋องฉู่โยว่นำราชโองการออกมา เอ่ยให้นางมอบให้กับเขาต่อหน้าผู้คนจำนวนมาก ฉาวฮองเฮาด่ากราด ว่าเขาเป็นคนอกตัญญู เป็นเพราะนางที่คอยประทานอาหารให้เขากินเขาจึงเติบโตมาเป็นคนได้ ตอนนี้เจ้ากลายเป็นจะหันกลับมาแว้งกัดเจ้านายตัวเองหรือ?

อ๋องฉู่โยว่กลับไม่โกรธ ยิ้มพลางฟังนางด่ากราด เมื่อด่าจนสาแก่ใจ จึงถามขึ้น “ท่านแม่ของข้าตายได้อย่างไร?

หลีโม่ได้ยินผู้ที่อยู่ในเหตุการณ์เล่าให้ฟัง เมื่ออ๋องฉู่โยว่ถามคำถามนี้ออกไป สีหน้าฉาวฮองเฮาก็เปลี่ยนไปเลย ราวกับอุณหภูมิบรรยากาศโดยรอบต่ำลงทันที เพราะฉาวฮองเฮาเริ่มตัวสั่นเทา

ทว่า อ๋องฉู่โยว่ยังนับว่าเป็นคนจิตใจดี เขาเอ่ยกับฉาวฮองเฮาว่า “ท่านแม่ท่านวางใจเถิด ข้าไม่ฆ่าท่าน อย่างมากก็เพียงตัดมือเท้าท่านเท่านั้น ส่งข้าวน้ำให้วันละสามมื้อเหมือนปกติ นางกำนัลทั้งหลายก็รับเป็นคนเดิมที่ท่านเคยใช้ ท่านต้องดูแลสุขภาพให้ดี ให้อายุยืนนาน คอยดูบุตรเลี้ยงท่านรับราชสมบัติ จริงด้วย ไม่รู้เหมือนกันว่าตอนนี้ท่านพี่ไปไหนเสียแล้ว?แม้จะมีความโลคดีขิงท่านแม่ ท่านพี่ก็ควรกลับมาเสวยสุขกับท่านแม่จึงจะถูก”

ฉาวฮองเฮาตัวสั่นอยู่ครู่หนึ่ง แล้วก็เป็นลมล้มลงไป

ฉาวฮองเฮาครู่เดียวก็ฟื้นกลับมา เพราะฉินโจวรู้สึกว่ามีคำพูดบางอย่างควรพูดกับฉาวฮองเฮาให้ชัดเจน ดังนั้น จึงเรียกคนให้สาดน้ำเย็นปลุกนาง

คำพูดของฉินโจวนั้นเรียบง่าย คำพูดคำจาชัดเจน สรุปคร่าวๆ คือ ตระกูลฉาวคร่าชีวิตประชาชนมากมาย คนตระกูลฉาวเช่นพวกเจ้าสมควรตาย ดังนั้น เจ้าและราชโอรสยังมีชีวิตตามความต้องการของท่านอ๋องฉู่โยว่ แต่คนภายในตระกูลคนอื่นที่ต้องขังคุกก็ขัง ที่ต้องประหารชีวิตก็นำไปประหารชีวิต

ฉาวฮองเฮาที่กำลังโกรธแค้น ถ่มน้ำลายใส่ฉินโจว พลางเอ่ยขึ้น “เป็นข้าเองที่เชื่อใจเจ้าผิด”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พิษรักองค์ชายโฉมงาม