บทที่ 628 เล่าเรื่องราวในใจ
ก่อนที่จะกลับแคว้น ฮ่องเต้องค์ใหม่ได้จัดเตรียมพิธีเฉลิมฉลอง และได้เชิญซือถูเย้นและหลีโม่และคนระดับเดียวกันมาในงาน
เมื่อครั้งมาในตอนแรก กลับไม่ได้รับการต้อนรับที่ดีนัก แต่เมื่อจะลาจาก ฮ่องเต้องค์ใหม่ไม่ต้องการทำลายน้ำใจของผู้มีพระคุณต่อแคว้นเป่ยม่อ
ดังนั้น ในพิธีเฉลิมฉลองในครั้งนี้ จึงเป็นงานพิธียิ่งใหญ่ ขุนนางระดับสามขึ้นไปเท่านั้น ทั้งยังพาครอบครัวมาได้อีกด้วย
นี่เป็นเพียงงานเลี้ยงเชิญสองสามีภรรยาซือถูเย้นเท่านั้นหรือ?ไม่ ฮ่องเต้องค์ใหม่ต้องการจะใช้โอกาสนี้เอาชนะใจบรรดาขุนนางอีกด้วย
อ๋องฉู่โยว่ในฮ่องเต้... ตอนนี้ควรเรียกว่าฮ่องเต้พระองค์ก่อน อ๋องฉู่โยว่ในบรรดาพระราชโอรสของฮ่องเต้พระองค์ก่อนทั้งหมด เป็นคนที่ไม่โดดเด่นที่สุด นอกจากพระราชโอรสของฉาวฮองเฮาแล้ว พระราชโอรสทั้งหมด ต่างไม่เป็นที่โปรดปรานเลย ต่างถูกกดขี่ แล้วจะโดดเด่นได้อย่างไร?คนที่มีความสามารถหน่อย ต่างพากันเก็บดาบไว้ในฝัก หลีกหนีความตาย
พระชายาของฮ่องเต้พระองค์ใหม่ คือบุตรีภรรยาของใต้เท้าหวางหลี่ปู้ซื่อหลาง ท่านอ๋องที่แต่งกับบุตรีภรรยารอง นี่เดิมทีก็นับเป็นเรื่องน่าหัวร่อ
แต่ทว่า การราชภิเษกครั้งนั้นมีฉาวฮองเฮาเป็นผู้ตัดสินใจ แล้วใครจะสงสัยอะไรได้?
ท่านอ๋องจากตระกูลสูงศักดิ์กลับแต่งกับบุตรีภรรยารองของใต้เท้าซื่อหลาง ในวันนี้บุตรีภรรยารองคนนี้ กลับถูกแต่งตั้งเป็นฮองเฮา ช่างเป็นเรื่องพลิกชะตาชีวิตเสียจริง
เมื่อหลีโม่มาถึงวังหลวงแล้ว ได้เอ่ยคำปราศรัยกับฮองเฮาหวางแล้ว ในการพูดคุยนั้น หลีโม่จับความกังวลในน้ำเสียงของฮองเฮาหวางท่านนี้ออก
ความกังวลของนางมีที่มาจากที่เดียว นั่นคือฉินโจว
เป็นเหมือนกับสตรีทั่วไป ความกังวลของสตรีมีเพียงเรื่องเดียว นั่นก็คือเกรงว่าฮ่องเต้จะแต่งตั้งให้ฉินโจวเป็นฮองเฮา
เนื่องเพราะว่า ตำแหน่งฮองเฮาที่ได้มาอย่างง่ายดายของนางก็มาจากฉินโจว แม้ตำแหน่งฮ่องเต้ก็เป็นฉินโจวสนับสนุนขึ้นไป จะให้รางวัลที่ดีที่สุดแก่ฉินโจว ไม่ใช่การให้ตำแหน่งอ๋องอิงจุ้น แต่คือการมอบตำแหน่งฮองเฮาให้นาง เมื่อถึงเวลา ต่างก็เป็นครอบครัวเดียวกันแล้ว ฉินโจวกุมอำนาจทหารไว้ทั้งหมด แล้วจะยังต้องกลัวอะไร?
ดังนั้น ฮองเฮาหวางพูดอ้อมมาทั้งหมด กลับดูเหมือนหลีโม่ยังไม่เข้าใจถึงความหมายของนาง จึงถามออกไปตรงๆ “ได้ยินมาว่าพระชายาและอ๋องอิงจุ้นสนิทชิดเชื้อกันมาก ไม่แน่ใจว่าในตอนนี้นางมีคนในใจแล้วหรือไม่?”
เมื่อนางเอ่ยจบ จึงแย้มยิ้มออกมาเบาๆ “ปีนี้อายุของอ๋องอิงจุ้นก็ไม่น้อยแล้ว สตรีไม่ว่าจะเก่งเพียงใด ก็ต้องแต่งงานมีบุตร ครั้งนี้นางรบเคียงบ่าเคียงไหล่กับฮ่องเต้ ข้าคิดว่า ที่ฮ่องเต้ทรงประทานตำแหน่งอ๋องอิงจุ้นให้ เป็นเพียงแค่ภายนอกเท่านั้น หากคิดเผื่ออ๋องอิงจุ้นจริงๆ จะดีกว่าหากหาคู่ครองที่เหมาะสมให้กับนาง”
ในใจของหลีโม่ลอบทอดถอนใจ ฮองเฮาเอ๋ยฮองเฮา หากระหว่างฉินโจวและฮ่องเต้องค์ปัจจุบันมีความสัมพันธ์กัน เกรงว่าแม้เป็นเจ้าก็คงขัดขวางอะไรไม่ได้
ในใจคิดไปอย่างนั้น ภายนอกกลับยังต้องพูดบางคำให้ดูเหมาะสม “เหนียงเหนียง ที่จริง แล้วข้าและอ๋องอิงจุ้นนับเป็นเพียงแค่ความสัมพันธ์แบบผิวเผิน ไม่นับว่ารู้จักลึกซึ้ง เรื่องที่ว่านางมีคนในใจหรือไม่ ข้าก็ไม่รู้จริงๆ ความเป็นห่วงเป็นใยของเหนียงเหนียงข้าฟังแล้วรู้สึกตื้นตันยิ่งนัก เหนียงเหนียงวางใจเถิด เหลาไท่ไท่ตระกูลฉินยังแข็งแรงอยู่ นางต้องเป็นห่วงเรื่องพิธีสมรสของอ๋องอิงจุ้นมากยิ่งกว่าเหนียงเหนียง วันนี้นับว่าเหนียงเหนียงพึ่งเข้าวัง วังหลังยังมีเรื่องราวอีกมากให้เหนียงเหนียงจัดการ”
คำพูดนี้นับว่าอ้อมค้อม แท้จริงคือการบอกฮองเฮา จัดการเรื่องของตัวเองให้ดีก่อน เรื่องของฉินโจวต่างมีคนตระกูลฉินจัดการ
ฮองเฮาเมื่อเห็นหลีโม่ไม่ร่วมวง ก็รู้ได้ว่าคงถามอะไรไม่ได้อีก จึงแย้มยิ้มอย่างไร้ความสนใจอีก “จริงสิ วังหลังยังมีเรื่องอีกมากมายให้จัดการ เอาเถอะ เรื่องที่ข้าพูดกับเจ้า เจ้าก็อย่าได้เอ่ยกับอ๋องอิงจุ้น เกรงว่านางจะคิดเป็นอื่น”
หลีโม่เอ่ยตอบ “ต้องเป็นเช่นนั้นอยู่แล้ว”
หลีโม่เดินจากมาแล้ว ฉินโจวกลับรออยู่ด้านนอก
วันนี้นางแต่งเป็นชาย อาภรณ์สีเหลืองชุดตำแหน่งอ๋องอิงจุ้น คอปกกว้างสลับไปมา ขอบปกเป็นสีดำ ปักลายมังกรทั่วตัว ฝีเข็มละเอียดงดงาม ดูสูงศักดิ์เกินเอ่ย
ผมดำขมับรวบตึง ครอบด้วยมงกุฎสีทอง ใบหน้าคมคาย คิ้วเรียวดวงตาเด่นชัด ริ้วรอยบนใบหน้าปรากฏร่องรอยความอ่อนโยน ไม่เหมือนกับความเข้มแข็งเย็นชาดังแต่ก่อน
ในบางครั้งหลีโม่ก็รู้สึกว่าฉินโจวเป็นดั่งบุรุษ
โดยเฉพาะในตอนนี้นางที่นางยืนอยู่ใต้ต้นไม้ตั๊กแตน แสงไฟส่องลงมาระยิบระยับ เงาของใบไม้กระทบร่างดูราวกับเป็นผีเสื้อตัวน้อย แววตาลึกล้ำนั้น จ้องมองมายังนางเงียบๆ
“มาถึงแล้วหรือ?” หลีโม่เดินลงมา ในวันนี้นางก็ตั้งใจแต่งตัวมาเช่นกัน อาภรณ์ที่สวมเป็นสีเหลืองฤดูใบไม้ร่วง ปักลายเมฆและดอกโบตั๋นบนชุดกระโปรงยาว เย็นเอ๋อร์ตั้งใจมวนผมทรงหลังม้า ปักด้วยปิ่นเงินผีเสื้อสองเล่ม ทั้งยังประดับปิ่นเงินพู่ระย้าพัดใหญ่ที่สะบัดพริ้วไหวตามก้าวย่างเดิน เหนือหน้าผากประดับเข็มกลัดผมทอง ไม่เหมือนการแต่งกายเรียบง่ายในวันอื่นๆ ราวกับเป็นคนละคน
เมื่อยามนางย่างเดิน ชายกระโปรงพัดสะบัด เผยให้เห็นรองเท้าสีดำประดับหยกเขียวใส ไข่มุกที่ปลายรองเท้าบ้างผลุบบ้างโผล่ให้เห็น ช่างดูสูงส่งยิ่งนัก
ฉินโจวประเมินนางอยู่ เมื่อเห็นนางเดินมาข้างกาย กลิ่นหอมแตะโดนจมูก ฉินโจวกลับหัวเราะขึ้น “นี่เจ้าถึงกับใช้แป้งหอมเชียวหรือ?”
หลีโม่ประหม่าไปชั่วครู่ และจึงสั่นศีรษะ “ข้ากลับไม่ได้ใช้ อาจมาจากที่ฮองเฮาเข้าใกล้ข้าเมื่อครู่ จึงติดกลิ่นนางมา”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พิษรักองค์ชายโฉมงาม
จบแบล้วววววว...
900 ตอนแล้ว ชีวิตของหลีโม่แทบหาความสุขไม่เจอเลย แถมลูกก็ถูกคนอื่นเอาไปทิ้งอีก สงสารจับใจ...
ตะว่าไปเรื่องนี้หมุยเฟยกับฮ่องเต้เลวร้ายแบบกินกันไม่ลงนะ ทำร้ายทุกคนที่ดีกับตัวเอง แล้วแางว่าจำเป็นๆ กลับเป็นพวกอี๋เฟยซะอีกที่แย่งแยกพวกำองชัดเจนไปเลย หมุยเฟยนี่นับว่าเป็นคนที่ได้ดีจากการเนรคุณผู้คนรอบข้างโดยแท้...
ฮ่องเต้กับลู่กงกงนี่ ตอนตายคงมีกันแค่ 2 คนละนะ...
อี๋เฟยนี่คือนางฉลาดสุดละในบรรดาเมียของเต้...
ท่านซือถูเย่นใจเย็นๆจากสุราก่อนเจ้าค่ะ สนใจยัยน้องด่วนเด่วจะโดนมิใช่น้อย55555...
โธ่ๆท่านซือถูเย่น เค้าลางกลัวว่าที่ภรรยาในอนาคตมาแต่ไกล รีบซ่อนสุราเลยนะ แต่ไม่น่าจะทัน หลอกใครก็หลอกได้แต่ไม่ใช่กับแม่นางหลีโม่555555...