พิษรักองค์ชายโฉมงาม นิยาย บท 657

ตอนที่ 657 โน้มน้าวฉินโจว

ได้ยินเสียงประตูเหล็ก หัวหน้าผู้คุมก็รีบบอกกับซูชิงว่า “ใต้เท้า ท่านต้องรีบหน่อยนะ เหลือเวลาไม่มากแล้ว”

ซูชิงคำนับ แล้วรีบเข้าไปในห้องขังของฉินโจว

ด้านในไม่ได้จุดตะเกียง อาศัยแต่แสงของทางเดินที่ส่องเข้าไป

ฉินโจวเห็นว่ามีคนมาก็เงยหน้าขึ้น แล้วก็มอง แล้วถามอย่างแปลกใจ “เจ้าเองหรือ?”

ซูชิงเห็นฉินโจวแย่ลงไปมาก ผมยุ่งไปหมด เสื้อผ้าก็ใส่ของนักโทษ ถึงจะเป็นเช่นนั้น แต่นางก็ยังไม่วายวางมาด

“อ๋องอิงจุ้น ท่านอ๋องให้ข้ามา” ซูชิงกล่าว

“ท่านอ๋องงั้นหรือ? ซือถูเย้นหรือ?” ฉินโจวลุกขึ้น สีหน้าเริ่มโกรธ “พวกเจ้ากลับไปกันแล้วไม่ใช่หรือ? กลับมาทำไมอีก เสี้ยหลีโม่ละ? นางกลับมาไหม?”

ซูชิงส่ายหัว “ไม่ มีแค่ท่านอ๋องและข้า พระชายาอยู่ที่แคว้นต้าโจวแล้ว”

ฉินโจวได้ยินดังนั้น ก็ถอนหายใจ แล้วก็ไม่ได้พูดต่อ

ซูชิงรีบถามต่อ “อ๋องอิงจุ้น เรื่องมันเป็นอย่างไรกันแน่? ใครเป็นคนฆ่าฮองเฮา”

ฉินโจวพูดเบาๆ ว่า “เจ้าให้ซือถูเย้นกลับไปเถอะ ไม่ต้องอยู่ที่แคว้นเป่ยม่อนี่ สถานการณ์ของแคว้นต้าโจวก็ไม่สู้ดีนัก หลีโม่อยู่ที่นั่นคนเดียวไม่ปลอดภัย ไม่ต้องเป็นห่วงข้า ทำตามที่สมควรเถอะ”

ซูชิงนิ่งไป “หมายความว่าเช่นไร? หรือว่าเจ้าเป็นคนฆ่าฮองเฮาจริงๆ?”

ฉินโจวมองเขา “จะเป็นข้าหรือไม่นั้น มันมีอะไรสำคัญ ที่สำคัญที่สุดก็คือ คนที่อยู่ในคุกคือข้า”

“เจ้าบ้าไปแล้วหรือ?” ซูชิงขึ้นเสียง “เจ้ารู้ไหม ถ้าเจ้าถูกลงโทษ ก็จะถูกยึดศักดิ์ความเป็นทหาร ถึงตอนนั้น อำนาจทหารก็จะไม่มีผู้นำ”

“ก็ไม่เป็นอะไร ฮ่องเต้ท่านฉลาด คงไม่เคลื่อนกำลังโดยพลการ อีกอย่างทั้งสองแคว้นเราก็เซ็นต์สัญญาสงบศึกแล้ว พวกเจ้าไม่ต้องมายุ่งเรื่องนี้ก็ได้” ฉินโจวกล่าว

ซูชิงหัวเราะ “เจ้าอาจจะยังไม่รู้ ว่าฉู่จิ้งยังไม่ตาย เขาไม่เพียงยังไม่ตาย และยังหมดยังเป็นแผนของเขา”

ฉินโจวหัวเราะ “คำของเจ้า ไปยินมาจากใคร? เขาเห็นศพเขากับตา ศพของเขาถูกสับจนเละ ถ้าแบบยังรอดมาได้ ก็ผีหลอกแล้ว”

“เจ้าอาจจะเห็นศพเขา แต่เจ้าได้ตรวจสอบไหม? วันนั้นหลิงลี่ปลอมเป็นเจ้า เจ้าดูออกไหม?” ซูชิงถามกลับ

ฉินโจวพูด “เป็นไปไม่ได้ ตามที่ข้ารู้ แคว้นเป่ยม่อไม่มีใครรู้วิธีแปลงโฉม แล้วยังหลอกได้ตั้งหลายคน ถ้ามีคนรู้ ก็คงไม่เก่งเช่นนั้น”

“แล้วถ้าไม่ใช่คนของแคว้นเป่ยม่อเล่า?”

ฉินโจวเริ่มเปลี่ยนสีหน้า “เจ้าว่าทั้งหมดมันเป็นแผน มันน่าขันสิ้นดี คงจะไม่ได้บอกว่าเขาจะวางแผนให้ฉู่โยว่กลับมาครองราชย์หลอกนะ? จะให้ยกบัลลังก์ให้เขาหรือ?”

“จะยกให้ได้อย่างไร? เขายังไม่ตาย ยังมีอำนาจอยู่ แล้วยังมีย่าทวดของเจ้าทำงานให้เขา ถึงตอนนั้น พอเจ้าตาย อำนาจทหารก็จะตกอยู่ในมือเขา มันก็ดีกว่าตอนแรกไม่ใช่หรือ? ถ้าเป็นตอนแรก เจ้าจะเอาอำนาจทหารให้เขาไหม?”

ฉินโจวโมโหมาก “ซูชิง เจ้าก็พูดเกินจริงไปนะ ถึงขั้นบอกว่าย่าทวดข้าไปรู้เห็นด้วย นางเองก็ไม่อยากมีสงคราม ไม่ต้องพูดว่าสิ่งที่เจ้าบอกมันไม่จริง ถ้ามันเป็นจริง แล้วฉู่จิ้งยังไม่ตาย นางก็ไม่มีทางชวยเหลือเขา”

ซูชิงหัวเราะ “แล้วเจ้าคิดว่า ทำไมเจ้าถึงมาอยู่ที่คุกแห่งนี้? เจ้าไม่ได้เป็นคนฆ่าฮองเฮาหวาง แต่ย่าทวดของเจ้าฆ่าใช่ไหม? พวกเจ้าทะเลาะกันอยู่ด้านนอก ย่าทวดเจ้าก็ยื่นมือช่วยเหลือเจ้า ฆ่าฮองเฮาหวางตาย แต่เจ้าคิดดูนะ ย่าทวดของเจ้าเป็นใครกัน? นางจะวู่วามลงมือฆ่าคนเพียงเพราะฮองเฮาหวางทะเลาะกับเจ้างั้นหรือ? นั่นคือฮองเฮานะ อีกอย่าง เรื่องงานแต่งเจ้ากับหลานของแม่ทัพใหญ่หลง ก็เป็นย่าทวดเจ้าที่แนะนำใช่ไหม?”

ฉินโจวหน้าซีด “ไม่ใช่!”

ซูชิงเก่งเรื่องเดาใจคน พอเห็นนางมีท่าทางเช่นนั้น ก็รู้ว่าใจนางคิดอย่างไร “จริงๆ แล้ว ใจเจ้ารู้ดีที่สุด แต่เจ้าไม่อยากที่จะยอมรับมัน แล้วเจ้าก็ไม่กล้าสงสัยนาง”

ฉินโจวหน้านิ่ง “เจ้ากลับไปเถอะ แล้วให้ซือถูเย้นกลับแคว้นต้าโจวไป”

“เจ้าคิดว่าท่านอ๋องยอมอยู่ที่นี่งั้นหรือ? ถ้าไม่ใช่เพราะว่าสงครามของสองแคว้น ข้าจะต้องกลับมาที่นี่หรือ? จะถึงประตูบ้านตนเองอยู่แล้ว ยังต้องย้อนกลับมา” ซูชิงพูดอย่างโมโห

ฉินโจวส่ายหัว “ไปเถอะ ที่นี่ต้องไม่ต้องพวกเจ้า ข้าเชื่อฮ่องเต้ และข้าก็เชื่อสายตาที่ข้าเห็นทุกอย่าง ฉู่จิ้งตายแล้ว คนที่ตายไปแล้ว จะฟื้นได้อย่างไร?”

ซูชิงโมโหพูด “ทำไมเจ้าถึงหัวดื้อเช่นนี้? เจ้ายอมเชื่อย่าทวดที่ทำร้ายเจ้า แต่ไม่เชื่อสิ่งที่เจ้าสงสัย”

หัวหน้าผู้คุมตะโกนเข้ามา “รีบไป จะมีการตรวจตราแล้ว”

ซูชิงกลั้นความโกรธ แล้วพูดอีก “การเผาภูเขาหางหมาป่า ก็คือแผนของฉู่จิ้ง ก็คือจะบังคับเจ้า ก่อนที่เจ้าจะกบฏ เขาก็ให้อ๋องเจิ้นโก๋กบฏก่อน”

“ที่อ๋องเจิ้นโก๋กบฏ ก็เพราะข้า”

“เจ้าให้ย่าทวดเจ้าไปทำ แต่ว่า ก็เป็นแผนของฉู่จิ้งด้วย”

หัวหน้าผู้คุมเห็นทั้งสองคนยังคุยกัน ก็เข้ามาลากซูชิง “พูดต่อไม่ได้แล้ว รีบไป”

ซูชิงเห็นหน้านางนิ่งๆ ก็ตัดใจพูดว่า “ได้ ข้าคงต้องเขียนจดหมายให้หลีโม่ ให้นางมาที่นี่ด้วยตัวเอง นางเป็นคนฉลาด คงจะแก้เกมส์ครั้งนี้ได้”

ฉินโจวรีบเงยหน้า ตะหวาดว่า “เจ้าจะลากนางมายุ่งทำไม? ไม่เกี่ยวอะไรกับนาง พวกเจ้ารีบกลับไป ไม่ต้องมายุ่งเรื่องนี้ ข้าจัดการเอง”

หัวหน้าผู้คุมออกแรงดึงเขา ซูชิงก็พูดว่า “เจ้าคิดดูเองก็แล้วกันดูว่าย่าทวดของเจ้าสมควรจะถูกเชื่อถือไหม?”

พูดจบ เขาก็ออกไปกับหัวหน้าผู้คุม

ฉินโจวนั่งลง เอามือจับหน้า แล้วหายใจเข้า นางไม่ใช่ไม่อยากจะเชื่อซูชิง แต่นางไม่กล้า

นั่นเป็นย่าทวดของนาง เป็นคนที่นางเคารพที่สุดในชีวิต

อีกอย่าง จุดยืนของนางก็ชัดเจน นางไม่ใช่คนของพวกยึดมั่นทำสงคราม

“ท่าย่าทวด ข้าไม่อยากจะเชื่อเลย” นางบ่นคนเดียว เดิมทีนางเป็นคนของพวกยึดมั่นทำสงคราม เคยทำให้ท่าย่าทวดโมโหหลายรอบ ย่าทวดเป็นคนโหยหาความสันติ

แต่ว่า แต่ว่า ถ้านางโหยหาความสันติ ทำไมนางถึงไม่เข้าร่วมพวกยึดมั่นสันติภาพ

หลังจากซูชิงกลับไป แล้วออกไปเล่าเรื่องที่ฉินโจวบอก ก็โมโหว่า “จริงๆ ในใจนางก็รู้ว่าย่าทวดตนเองไม่น่าเชื่อถือ แต่นางกลับไม่ทำอะไรเลย”

ซือถูเย้นฟังแล้วก็ครุ่นคิด “ทั้งหมดมันเป็นแผน นางติดกับลงไปด้วย จะแก้ก็คงไม่ง่าย อีกอย่างนางอยู่ในคุก ไม่รู้เรื่องด้านนอก เจ้าวางใจเถอะ นางจะเข้าใจเอง ฉินโจวไม่ใช่ใครที่ไหน ในใจนาง มีแต่ประเทศชาติ มีแต่ราษฎรและเหล่าทหารหาญ ดังนั้น นางคงไม่ยอมหลบอยู่ภายใต้การหลอกลวงของย่าทวดตนเอง”

ได้ยินซือถูเย้นวิเคราะห์ ซูชิงก็โล่งอก “หวังว่านางจะเข้าใจได้เร็ววัน ไม่เช่นนั้น ตอนที่พิพากษา นางจะยังยอมรับแทนย่าทวดตนเอง ยอมว่าเป็นคนฆ่าฮองเฮา อำนาจทหารก็ต้องส่งออกไปทันที”

“ยังเหลือเวลาอีก5วัน ภายในช่วงนี้ หวังว่าอ๋องฉีจะสามารถเข้าร่วมการสอบสวนได้” ซือถูเย้นกล่าว

“กลัวว่าจะเป็นไปไม่ได้!” เซียวโธ่กล่าว “อ๋องฉีจัดการทำงานไม่ดี”

ซูชิงและซือถูเย้นมองหน้ากัน แม้แต่เซียวโธ่ยังรู้เรื่อง ดูเหมือนว่า อ๋องฉีจะไม่ได้เรื่องเอาเสียแล้ว

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พิษรักองค์ชายโฉมงาม