บทที่ 673 ข้าจะคิดให้เข้าใจ
อ๋องลั่วชินตกตะลึงอย่างมาก เขาแทบไม่อยากเชื่อว่า ผู้หญิงที่ตะคอกด่าอยู่เมื่อกี้จะล้มนอนจมกองเลือดอยู่ในตอนนี้
“ทหาร” เขารีบกระโจนเข้าไป อุ้มองค์หญิงอานขึ้นมา ร้องตะโกนอย่างคนบ้า
องค์หญิงอานชักดาบออกอย่างยากเย็น มือที่เปื้อนไปด้วยเลือดดึงแขนเสื้อของเขาไว้ พยายามลุกขึ้น น้ำตาไหลลงอาบแก้มของนาง “ท่านพี่สาม... ขอโทษ ในตอนนั้น.... ข้าปกป้องพี่สะใภ้สามไว้ไม่ได้ ข้าจะไปขออภัยจากนาง”
“ไม่ ไม่ ไม่...” ทุกสิ่งอย่างในหัวสมองอ๋องลั่วชิน เหมือนว่างเปล่าไปแล้วในพริบตา ในใจเจ็บปวดอย่างมาก เขาถึงขั้นไม่รู้เลยว่าเจ็บปวดตรงไหน
เทียนจีจื่อได้ยินเสียง ก็รีบเข้ามา มองเห็นภาพสถานการณ์ในตอนนี้ เขาก็ตกใจอย่างมาก ถึงแม้จะคิดไว้แล้วว่าองค์หญิงอานจะใช้วิธีค่อนข้างรุนแรง กลับคิดไม่ถึงว่าจะเป็นการทำร้ายตัวเอง
แต่แน่นอน นี่คือวิธีที่ดีที่สุด จะมีวิธีไหนที่จะทำให้ท่านอ๋องรู้ถึงสาเหตุที่พระชายาฆ่าตัวตาย? ทำให้เขายิ่งเจ็บปวดอย่างที่สุด?
เทียนจีจื่อมีความรู้ทางแพทย์ รีบสั่งให้พาองค์หญิงอานไปยังห้องด้านข้าง แล้วนอนราบ
“ท่าน ท่าน” มืออ๋องลั่วชินเต็มไปด้วยเลือด จับแขนของเทียนจีจื่อไว้ กัดฟันแน่น ใบหน้าขาวซีดจนน่ากลัว “ไม่ว่ายังไง ก็จะต้องช่วยนางไว้ให้ได้ อยากให้นางตายเด็ดขาด”
“ท่านอ๋องวางใจ กระหม่อมจะพยายามให้ดีที่สุด เชิญท่านอ๋องออกไปก่อน” เทียนจีจื่อรู้ว่าอาการสาหัส จะรีบไล่คนออกไปด้านนอก
หลังจากนั้นก็ปิดประตู องค์หญิงอานกลับลุกขึ้นมานั่งเอง เดินตรงไปตรงหน้ากระจก ถอดเสื้อผ้าออกต่อแน่เทียนจีจื่อ เผยบาดแผลที่ยังมีเลือดไหล
“มองอะไร? ยังไม่รีบมาช่วย?” องค์หญิงอานเห็นสีหน้าที่ตกใจของเทียนจีจื่อผ่านกระจก จึงพูดขึ้น
เทียนจีจื่อมองดูบาดแผลตรงท้องของนาง บาดแผลลึกมาก แต่กลับแทงเอียงไปทางขวา ฝั่งด้านข้าง จะเป็นตอนที่นางแทง แล้วตั้งใจเอียงตัว ทำให้ดาบที่แทงดากเอียงไปด้วย
แต่ถึงจะแถงเอียง บาดแผลลึกขนาดนี้ ก็น่าจะเจ็บมาก และยังมีเลือดไหลไม่หยุด
นางยังสามารถลุกยืนขึ้นมาได้ด้วยตัวเอง เดินเอง ยังถอดเสื้อผ้าเอง นางไม่รู้สึกเจ็บหรือ?
“องค์หญิงท่านนอนลงก่อนไหม” เทียนจีจื่อพูดขึ้นด้วยเสียงเบา
“เจ้าไม่เคยเห็นร่างกายผู้หญิงหรือ? หน้าแดงหมดแล้ว” องค์หญิงอานหันไปหัวเราะเยาะ “เอายาแก้อักเสบมา ข้าทำแผนเอง”
“ให้กระหม่อมช่วยท่านเถอะ” เทียนจีจื่อมองดูหน้าที่ขาวซีดของนางแต่ก็ยังดื้อรั้น ที่จริงนางเหมือนกับท่านอ๋องมาก เหมือนทั้งหน้าตาและนิสัย
องค์หญิงอานเอาผ้าผืนเล็กมาเช็คเลือดบนบาดแผล “ไม่เป็นไร หลายปีมานี้ ล้วนเป็นข้าจัดการบาดแผลด้วยตัวเอง ไม่จำเป็นต้องพึ่งพาคนอื่น”
เทียนจีจื่ออึ้งไปพักหนึ่ง แล้วมองดู...ร่างกายนาง พบว่ามีบาดแผลใหญ่เล็กนับไม่ถ้วน
เขาไม่ถามอะไร เอายายื่นให้นางอย่างเงียบๆ
องค์หญิงรับมา สะกดจุดตรงบาดแผล แล้วเอาผงยาโรยตรงบาดแผล
“องค์หญิง ท่านควรล้างแผลก่อน” เทียนจีจื่อทนดูไม่ไหวจึงพูดเตือน
“ไม่จำเป็น” องค์หญิงอานพูดขึ้นอย่างเย็นชา
นางทำไปทำมา แล้วบาดแผลก็ถูกจัดการเรียบร้อยอย่างรวดเร็ว สวมเสื้อผ้าเสร็จ แล้วค่อยไปนอนลงบนเตียง น้ำเสียงก็อ่อนโยนขึ้นแม่ “ท่าน ข้าไม่ได้ตั้งใจที่จะล่วงเกิน ขออภัย”
เทียนจีจื่อเป็นแรงกระทำทุกอย่างทุกขึ้นตอน ด้วยความชำนาญ แสดงว่า ที่ผ่านมานางจัดการบาดแผลด้วยตัวเองจริงๆ
“องค์หญิงไม่ต้องใส่ใจ” เทียนจีจื่อฉีกยิ้ม หันไปมองทางอื่นอย่างทำตัวไม่ถูก มักคิดว่าตัวเองเป็นคนรู้แผนการล่วงหน้ามาตลอด ฉลาดมาก แต่ผู้หญิงตรงหน้าคนนี้ ไม่ได้ฉลาดน้อยไปกว่าเขาเลย
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พิษรักองค์ชายโฉมงาม
จบแบล้วววววว...
900 ตอนแล้ว ชีวิตของหลีโม่แทบหาความสุขไม่เจอเลย แถมลูกก็ถูกคนอื่นเอาไปทิ้งอีก สงสารจับใจ...
ตะว่าไปเรื่องนี้หมุยเฟยกับฮ่องเต้เลวร้ายแบบกินกันไม่ลงนะ ทำร้ายทุกคนที่ดีกับตัวเอง แล้วแางว่าจำเป็นๆ กลับเป็นพวกอี๋เฟยซะอีกที่แย่งแยกพวกำองชัดเจนไปเลย หมุยเฟยนี่นับว่าเป็นคนที่ได้ดีจากการเนรคุณผู้คนรอบข้างโดยแท้...
ฮ่องเต้กับลู่กงกงนี่ ตอนตายคงมีกันแค่ 2 คนละนะ...
อี๋เฟยนี่คือนางฉลาดสุดละในบรรดาเมียของเต้...
ท่านซือถูเย่นใจเย็นๆจากสุราก่อนเจ้าค่ะ สนใจยัยน้องด่วนเด่วจะโดนมิใช่น้อย55555...
โธ่ๆท่านซือถูเย่น เค้าลางกลัวว่าที่ภรรยาในอนาคตมาแต่ไกล รีบซ่อนสุราเลยนะ แต่ไม่น่าจะทัน หลอกใครก็หลอกได้แต่ไม่ใช่กับแม่นางหลีโม่555555...