พิษรักองค์ชายโฉมงาม นิยาย บท 679

บทที่ 679แผนการของอ๋องลั่วชิน

เทียนจีจื่อเดินออกไปยังค่อนข้างเก้อเขิน ถึงหน้าประตู ก็ตบหน้าตัวเองแรงๆสองที “ดูเจ้าสิเหมือนอะไร? ทำตัวเหมือนวัยรุ่นโรคจิตใจแตก พูดจาไม่ฉะฉาน อะไรนิดอะไรหน่อยทำเป็นหน้าแดง เจ้าจะแดงทำไมกัน? น่าอับอาย น่าอับอาย”

เขาก้าวเท้ายาวๆจากไป กำลังจะลงบันใด กลับมองเห็นใบหน้าหนึ่งเคลื่อนไหวอยู่ตรงหน้าของเขา เขาตกใจอย่างมาก มองดูดีๆ แล้วก็พูดอย่างไม่พอใจว่า “เจ้ามาอยู่ที่นี่ทำไม?”

ซุนหยางเอามือเท้าเอว เบิกตาดำสองข้าง มองดูเขาอย่างแปลกประหลาด “ท่านท่านถูกมนต์สะกดหรือ? ตบหน้าตัวเองก่อน แล้วก็บอกว่าตัวเองเป็นโรคจิต ท่านชอบพอใครหรือ?”

“พูดจาเหลวไหล” เทียนจีจื่อหันมามองเขาในทันใด แล้วก็เอามือปิดปากเขาพร้อมลากเขาเดินลงไป “ห้ามพูดไปเรื่อย ข้าไม่เคยพูดจาแบบนั้น”

ซุนหยางร้องโอดอวย ก่อนหน้านี้ถูกองครักษ์ลับขององค์หญิงทุบตี ตอนนี้ร่างกายยังเจ็บปวดอยู่ ทนกับการผลักแบบนี้ของเขาได้ที่ไหน?

“ท่านท่านเสียสติไปแล้ว” ซุนหยางจับกิ่งไม้แห้งไว้ รักษาระยะห่างจากเทียนจีจื่อ “อย่าเข้ามา ปกติท่านพูดจาจะไม่แฝงไปด้วยอารมณ์ วันนี้ยังลงมือผลักข้า ท่านมีความรักแล้วก็ไม่ควรทำแบบนี้”

“หุบปาก” เทียนจีจื่อเหลือกตาใส่เขาอย่างโกรธเคือง “เมื่อกี้ข้าพูดว่า วันนี้ที่ห้องครัวซื้อถั่วเขียวมาเพิ่งเปิดออก สามารถต้มได้ องค์หญิงชอบทาน”

“อ๋า? ท่านพูดว่ากระหม่อมตลอด” ซุนหยางยิ่งอยู่ก็ยิ่งรู้สึกแปลกใจ “ถั่วเขียวปากอ้า? อย่าโกหกคิดว่ากระหม่อมไม่มีความรู้ กระหม่อมรู้ว่าถั่วเขียวปากไม่อ้าก็สามารถต้มได้”

เทียนจีจื่อเดินก้าวตรงไปข้างหน้า “ขี้เกียจพูดกับเขา”

ซุนหยางเดินกะโผลกกะเผลกไล่ตามมา “เล่ามาเถอะ ก็เล่ามา เล่าว่าทำไมตอนนี้ท่านถึงเกิดแตกหนุ่มขึ้นมา? ท่านอายุสามสิบแล้ว เมื่อก่อนฉันไม่เคยแตกหนุ่มหรือ? ที่ผ่านท่านคงจะมีความอดทนอย่างมาก กระหม่อมไม่เชื่อว่าท่านไม่เคยแตกหนุ่มมาก่อน”

“เจ้ายังพูดอีก ข้าจะฉีกปากเจ้าทิ้ง”

ในห้อง องค์หญิงอานฟังดูเสียงด้านนอกอยู่อย่างเงียบๆ นางมีความสามารถในการฟังที่ดีมาตลอด

นางเม้นริมฝีปาก หัวเราะเย้ย แล้วรอยยิ้มเย้ยก็ค่อยๆอ่อนโยน อ่อนหวานขึ้นมา

เทียนจีจื่อ…..

ที่จริง หากเจ้าสู้รบคนเดียวลำพังมาตลอด เจ้าจะคาดหวังอยากที่จะมีใครสักคนมาหนึ่งมายืนอยู่ด้านข้างเจ้า พูดกับเจ้าว่า ไม่ต้องกลัว ไม่ว่าเรื่องอะไรข้าก็จะทำให้เจ้าทุกอย่าง

หากมีใครมาพูดกับเจ้าแบบนี้ ใจของเจ้าจะต้องหวั่นไหว โดยเฉพาะ คนคนนั้นยังมีรูปร่างหน้าตาที่ดี

เทียนจีจื่อไล่ซุนหยางที่น่ารำคาญเหมือนแมลงวันไป จัดการเสื้อผ้าให้เรียบร้อย ปรับท่าทีให้ดูดี แล้วเคาะประตูห้องหนังสือ

เพิ่งเข้ามา ก็เห็นอ๋องลั่วชินเขียนจดหมายเสร็จแล้วฉบับหนึ่ง เห็นเขาเข้ามาจึงพูดว่า “จดหมายฉบับนี้ เจ้าสั่งม้าเร็วส่งไปยังเมืองหลวง บอกกับเสด็จพี่ว่า ข้าจะให้ความช่วยเหลือ ไม่นาน แล้วจะรีบนำทัพไป”

“ท่านอ๋อง....” เทียนจีจื่ออึ้ง

อ๋องลั่วชินพูดว่า “ท่านไปทำตามก็พอ”

หลังจากนั้น เขาเอาจดหมายอีกฉบับหนึ่งออกมา ยื่นให้กับเทียนจีจื่อ “จดหมายฉบับนี้ เอาไปให้ซือถูเย้น ให้เขาทำทุกอย่างเพื่อช่วยฉินโจวออกมา แล้วพาฉินโจวไปยังต้าโจว ภายในครึ่งปี ไม่ต้องกลับมา”

เทียนจีจื่อกลับไม่ค่อยเข้าใจ “ท่านอ๋องท่านคิดจะทำอย่างไร? จะนำทัพกลับไปจริงๆ?”

“ไม่ผิด” อ๋องลั่วชินหัวเราะเยาะ หางตาฉายแววเจ้าเล่ห์ “ถ้าควรที่จะคิดบัญชีความแค้นที่แย่งเมียฆ่าลูกของข้าแล้ว”

ในใจเทียนจีจื่อซาบซึ้งใจและตื่นเต้นมาก “ท่านอ๋องคิดจะทำอย่างไร?”

อ๋องลั่วชินเดินลงมา พูดว่า “เขาอยากได้ทหารของฉินโจวมาตลอดไม่ใช่หรือ? แต่คนพวกนี้ หากฉินโจวยังมีชีวิตอยู่ เขาจะสั่งการไม่ได้ เหลาไท่ไท่ตระกูลฉินสามารถสั่งการคนเก่าแก่ได้บ้าง แต่ยังไงคนเก่าแก่ก็มีไม่มากแล้ว ดังนั้น หากฉินโจวไปแล้วก็เท่ากับว่าทหารม้าหลายแสนนี้ก็จะว่างอยู่ตรงนั้น เขามองดู แตะต้องไม่ได้ ทหารกลุ่มเดียวที่เขาสามารถใช้ได้ ก็คือทหารอารักษ์ขากับทหารประจำเมืองหมื่นกว่าคน ข้านำกองกำลังทหาร แสนห้ากลับไป เมืองหลวงก็จะตกอยู่ภายใต้อำนาจของข้า ถ้าจะแกล้งให้ได้ความเชื่อใจจากเขากับท่านฮูหยินฉิน หลังจากนั้น ก็ค่อยๆเปิดเผยใบหน้าที่แท้จริงของเขา ข้าลองคิดดูแล้ว เวลาภายในครึ่งปี เพียงพอแล้ว”

เทียนจีจื่อเผยรอยยิ้ม “เป็นวิธีปิดประตูตีสุนัขที่ดี กระหม่อมเข้าใจแล้ว จดหมายฉบับนี้ เท่ากับให้เขาวางใจ ถึงแม้ฉินโจวจะหายสาบสูญ แต่ก็จะยุ่งหรือเคลื่อนไหวแบบสุ่มสี่สุ่มห้าไม่ได้ ให้ซือถูเย้นพาฉินโจวไปได้อย่างปลอดภัย เพราะท่านอ๋องได้นำทัพไปแล้ว ทุกอย่างต้องรอท่านอ๋องไปถึงแล้วค่อยคิดแผนการระยะยาว”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พิษรักองค์ชายโฉมงาม