พิษรักองค์ชายโฉมงาม นิยาย บท 680

บทที่ 680 ทรยศกันเอง

ในช่วงสองสามวันที่ตำหนักอ๋องลั่วชินโหรวเหยาและจิ่งก็ถือว่าโล่งออกไปชั่วครู่ เพราะว่านอกจากอ๋องลั่วชินที่ดูเหมือนจะเชื่อพวกเขาแล้ว ยังได้พบกันองค์หญิงอานด้วย

องค์หญิงอานเห็นโหรวเหยาถูกไฟไหม้ได้รับบาดเจ็บ รู้สึกทุกข์ใจมาก และก็โกรธมากเช่นกัน นางกล่าวคำขอโทษกับโหรวเหยาจากใจจริง และยังกล่าวกับโหรวเหยาว่า หลีโม่และหลิ่วหลิ่วพวกนางเป็นห่วงนางมาก คิดว่านางตายไปแล้ว

โหรวเหยาอยากกลับจนใจจะขาด แต่ก็ต้องเชื่อฟังหมอเพื่อรักษาอาการบาดเจ็บ ทักษะทางการหมอของเทียนจีจื่อไม่ถือว่าสูงส่ง แต่ให้ยาถูกอาการ เวลาผ่านไปไม่กี่วัน บาดแผลของโหรวเหยาก็หายเป็นสะเก็ดแล้ว

เขาได้เพียงแต่เสียใจแล้วบอกกับโหรวเหยาว่า รอยแผลเป็นบนขาของนาง เกรงว่าจะต้องติดตัวนางไปตลอดชีวิต

เมื่อโหรวเหยาได้ยินเช่นนี้ ก็แค่ยิ้มเล็กน้อย “ไม่เป็นไร จะดีชั่วก็ไม่มีใครต้องการอยู่แล้ว มีรอยแผลเป็นก็ไม่เป็นไร”

เมื่อเทียนจีจื่อได้ยินคำพูดนี้ หันไปจ้องมองจิ่งที่ยืนหัวโด่เป็นเสาไม้ไม่ขยับเขยื้อน เขาดูเหมือนไม่สะทกสะท้าน แล้วกล่าวว่า “ทำไมไม่มีใครต้องการล่ะ? เจ้าเมืองมีความงามโดดเด่นเช่นนี้ จิตใจงดงาม จะต้องมีผู้ชายมากมายคอยตามท่านไม่ห่าง”

โหรวเหยากล่าวด้วยรอยยิ้ม “ขอบคุณหมอที่คอยให้กำลังใจ ข้าคิดว่าคนคนนี้เป็นคนดีนะ แต่ข้ารู้ตัวเองดี ข้าเคยผ่านการแต่งงานแล้ว เกรงว่าไม่มีใครจะมาสนใจข้า”

เทียนจีจื่อกล่าวด้วยความสนใจว่า “เกรงว่าไม่จำเป็น”

โหรวเหยาเห็นท่าทีเขาที่ไม่อาจคาดเดาได้ ไม่เพียงแต่กล่าวด้วยรอยยิ้ม “หมออย่าบอกข้านะว่า จะแต่งงานกับข้านะ?”

จิ่งเงยหน้าและจ้องไปที่เทียนจีจื่อทันที เทียนจีจื่อกระแอมไอ รีบปกปิดอาการของตัวเอง “ข้าน้อยอายุมากแล้ว ก็ไม่มีใครต้องการ เจ้าเมืองล้อข้าเล่นแล้ว”

“หมออายุเพียงแค่สามสิบกว่า อายุแก่ได้อย่างไรกัน?”

เทียนจีจื่อสะดุ้งเล็กน้อย “ข้าน้อยคิดเสมอว่าตัวเองอายุเจ็ดแปดสิบแล้ว ที่จริงก็แค่สามสิบกว่าเองหรือ?”

โหรวเหยายิ้ม “หลายปีมานี้หมอ น่าจะผ่านประสบการณ์อะไรต่อมิอะไรมามากมายสินะ?”

ภายใต้ดวงตาของเทียนจีจื่อที่เต็มไปด้วยความซับซ้อน “บางทีอาจเป็นเช่นนั้น เรื่องหลายสิ่งหลายอย่างพอย้อนมองกลับไป เหมือนชีวิตในอดีตชาติ”

สีหน้าของโหรวเหยาตะลึงไปชั่วขณะ ย้อนกลับไปมองเรื่องอดีต นางเองไหนจะไม่รู้สึกว่าเป็นเรื่องราวในอดีตชาติ?

จิ่งเห็นโหรวเหยาพูดอย่างมีความสุข กลับถูกเทียนจีจื่อโยงถึงความเสียใจขึ้นมา อดไม่ได้ที่พูออย่างหงุดหงิดว่า “เจ้าเมืองท่านควรที่จะพักผ่อนแล้ว เชิญท่านหมอกลับไปก่อนเถอะ”

เทียนจีจื่อจ้องมองจิ่ง เห็นสีหน้าตึงเครียดของเขา แล้วก็ยิ้มแย้ม กล่าวกับโหรวเหยาว่า “ท่านเจ้าเมือง บางครั้ง ความสุขอาจอยู่รอบตัว เพียงแต่ว่าท่านมองไม่เห็นเท่านั้น เอาล่ะ ข้าน้อยไม่รบกวนเวลาพักผ่อนของเจ้าเมืองท่านแล้ว ขอลา”

“จิ่ง ส่งท่านหมอ” แม้ว่าโหรวเหยาจะรู้สึกว่าคำพูดของเขาแฝงไปด้วยอะไรบางอย่าง แต่ก็ไม่ได้ไถ่ถาม

“ขอรับ” จิ่งคารวะกล่าวเชิญ “ท่านหมอ เชิญ”

เทียนจีจื่อคารวะกลับ

ในห้องหนังสือของอ๋องลั่วชิน

พระชายารองหยางพาสาวใช้ มาปรากฏตัวที่ประตูทางเข้าห้องหนังสือ

ซุนหยางเปิดประตู กล่าวว่า “พระชายารองหยาเชิญ”

พระชายารองหยางจัดทรงผม มุมปากเต็มไปด้วยรอยยิ้มที่อ่อนโยน แล้วผลักประตูเข้าไป

“ข้าน้อยคารวะท่านอ๋อง” นางทำตัวเหมือนปกติ คารวะด้วยการถอนสายบัว

อ๋องลั่วชินเงยหน้าขึ้นจากกองหนังสือราชการ หนวดเคราปกคลุมครึ่งค่อนใบหน้า เผยให้เห็นดวงตาที่แหลมคม

ตอนนี้ ดวงตาคู่นี้เหมือนดั่งคมใบมีด ผ่านตรงมาที่ใบหน้าของพระชายารองหยาง

ในใจของพระชายารองหยางรู้สึกตื่นตระหนกเล็กน้อย แต่ก็สงบจิตใจไว้ “ท่านอ๋องคะท่านเรียกตัวข้ามา มีอะไรให้รับใช้คะ?”

“อยู่หนานจุ้นมาหลายปี เจ้าคิดถึงเมืองหลวงไหม? คิดถึงพ่อแม่ของเจ้าไหม?” อ๋องลั่วชินถาม

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พิษรักองค์ชายโฉมงาม