พิษรักองค์ชายโฉมงาม นิยาย บท 702

บทที่ 702 วันเวลาที่ดี

หลังจากที่ทั้งสองคนออกไปแล้ว หูฮวนซีก็ถามขึ้นว่า “เจ้าฝันเห็นอะไร? น่ากลัวมากเลย”

หลีโม่กลับถามกลับว่า “ตอนที่เจ้าเข้ามาเห็น ข้าเป็นยังไงบ้าง?”

หูฮวนซีพูดว่า “วันนี้ในเมืองหลวงคึกคักมาก บอกว่าต้อนรับความสงบสุขของประเทศที่อ๋องซื่อเจิ้งนำกลับมา ข้าขี้เกียจไปดู จึงคิดว่าจะมารอที่จวนอ๋องก่อน เมื่อมาถึงที่นี่ เย็นเอ๋อร์ก็ร้องไห้ออกมาบอกว่าจะหาหมอ บอกว่าเรียกเจ้าไม่ตื่น ข้าจึงเข้ามาดู เห็นเจ้าดึงขอบเตียงอยู่ หลับตาร้องไห้เสียงดัง ในปากไม่รู้ว่าร้องหาอะไร ท่าทางโศกเศร้ามาก เรียกเจ้ายังไงก็ไม่ตื่น ไม่รู้จะทำยังไง ข้าจึงตบเจ้าไปสองที เจ้าถึงค่อยตื่นมา”

หลีโม่ลูบหน้าตัวเอง ยังรู้สึกเจ็บแสบอยู่

“จะว่าไปก็น่าแปลก ความฝันนี้ เหมือนความจริงมาก” หลีโม่คิดถึงทุกอย่างในความฝัน ในใจยังคงหวาดกลัวอยู่ “ข้าฝันว่าข้ากำลังคลอดลูก เจ้ากับพวกโหรวเหยาต่างก็อยู่ แต่มีเพียงไอ้เจ็ดที่ไม่อยู่ ข้าได้ยินเจ้าพูดอยู่ข้างหูข้าว่า ตอนนี้ไอ้เจ็ดไม่รู้เป็นตายร้ายดียังไง ให้ข้ายังไงก็ต้องอดทนผ่านไปให้ได้ จากนั้น หยางมามาป้อนผงยาให้ข้าทาน หลังจากนั้นข้าก็คลอดออกมาแล้ว”

“เป็นแค่ความฝัน” หูฮวนซีค่อยโล่งใจ แต่ก็รู้สึกแปลกใจ นางก็เคยนอนฝัน แต่ไม่เคยตกอยู่ในความฝัน จนเรียกยังไงก็เรียกไม่ตื่น

หลีโม่เปิดผ้าห่มออกแล้วลุกขึ้น รู้สึกว่าขาทั้งสองข้างไม่มีแรงเลย ทั้งตัวก็มึนเวียนไปหมด นางเหยียบบนพื้น เหมือนดั่งเหยียบบนปุยนุ่น นุ่มจนเกือบล้มลง

หูฮวนซีรีบประคองนางไว้ “เจ้าอย่าพึ่งลุกขึ้นมา นอนลงก่อน”

หลีโม่นั่งอยู่ข้างเตียง มองดูด้านนอก “เวลากี่โมงแล้ว?”

“เที่ยงแล้ว” หูฮวนซีพูด

“ข้านอนไปนานขนาดนี้เลยหรือ?” หลีโม่ตีหัวตัวเอง ไม่รู้ว่าเพราะเมื่อคืน.... ตอนนี้ไม่เพียงปวดเมื่อยไปทั้งตัว แม้แต่แรงสักนิดก็ไม่มี

“เจ้าไม่สบายหรือเปล่า?” หูฮวนซีเอามือแตะดูหน้าผากของนาง “ก็ไม่เป็นไข้นี่”

“ข้าไม่เป็นไร คงเป็นเพราะฝันร้ายนี้เหมือนความจริงมาก ข้ายังทำใจไม่ได้” หลีโม่ไม่อยากให้นางเป็นกังวล จึงฉีกยิ้มให้นางดู

“เจ้านอนลงก่อน ท่านอ๋องคงยังไม่กลับมาเร็วขนาดนี้ ในเมืองหลวงคึกคักมากเลย ล้วนกำลังยินดีที่เขากลับมา ทุกคนต่างก็พูดว่า ทั้งนี้ อ๋องซื่อเจิ้งเป็นวีรบุรุษผู้ยิ่งใหญ่”

หูฮวนซีพูดอยู่แบบนี้ แต่กลับดูไม่ได้ดีใจเลย คิ้วขมวดขึ้นมาเสียกว่า

หลีโม่ก็หัวเราะอย่างข่มขื่น “สิ่งต่างๆจะต้องกลับกัน ชื่อเสียงบารมีแบบนี้ ไม่ได้เป็นสิ่งที่ดีเสมอไป”

“ใครว่าไม่ใช่ล่ะ? มีฮ่องเต้ที่ขี้สงสัย บวกกับก่อนหน้านี้ท่านอ๋องเคยรักษาการว่าราชการ เป็นที่รักของประชาชน ตอนนี้ยิ่งมีคุณงามความดี เกรงว่าความรุ่งเรืองนี้จะมีได้แค่ชั่วขณะ”

ในใจหลีโม่ หวาดหวั่นขึ้นมาอย่างไม่รู้ตัว

ทั้งสองเงียบไปสักพัก หลีโม่ก็พูดขึ้นว่า “ก็ไม่มีอะไร ยังคงเป็นประโยคนั้น ทหารมาใช้ขุนพลต้านรับ น้ำมาใช้ดินต้าน (ไม่ว่าจะมาวิธีไหนก็สามารถรับมือได้)”

หูฮวนซีหัวเราะ “ประโยคนี้ กลายคำฮิตติดปากเจ้าแล้ว”

“จะมีวิธีอะไร?” หลีโม่ยักไหล่อย่างไม่รู้จะทำยังไง “เรื่องต่างๆเรื่องแล้วเรื่องเล่า ไม่มีที่สิ้นสุด ข้าจะคาดคิดได้อย่างไรว่า ต่อไปคนอื่นจะคิดทำอะไรข้าต่อ”

“ก็ถูก วุ่นวายยิ่งนัก” หูฮวนซีถอนหายใจเบา “พี่สาวของข้าคนนั้น หลังจากเข้าวังไปแล้ว คนทางครอบครัวของนางต่างก็เหิมเกริมขึ้นมาทันที โดยเฉพาะพี่ชายฝั่งพ่อคนนั้น ตอนนี้เอาเรื่องใหญ่แล้ว”

“ต้องการให้ช่วยไหม?” หลีโม่ถาม

หูฮวนซีส่ายหัว “ตอนนี้ยังไม่ต้องการ เมื่อไหร่ที่ต้องการ ข้าจะมาหาเจ้า”

หลีโม่เข้าใจเรื่องราวปัญหาในตระกูลใหญ่ ยังไงคนอื่นก็ไม่ควรที่จะเข้าไปยุ่ง เพียงแต่ หูฮวนซีช่วยนางไว้มาก หากนางต้องการให้ช่วยจริงๆ ยังไงตนเองก็ต้องช่วยนาง

หูฮวนซีพูดว่า “ที่จริงข้าไม่อยากให้ตาแก่ผิดหวัง บ้านหลังนี้ ยังไงก็ต้องมีคนดูแล กิจการของตระกูลใหญ่โตมาก”

“ฮ่องเต้อภิเษกกับหูฮวนหลิง สิ่งที่ต้องการชัดเจนมาก ก็คือต้องการทรัพย์สินของตระกูลหู เจ้าจะต้องเฝ้าดูให้ดี” หลีโม่พูด

หูฮวนซีโบกมือ “พูดตามจริง หากสามารถใช้เงินแก้ปัญหาได้ ข้าไม่สนใจ เพียงแต่ สิ่งที่ฮ่องเต้ต้องการไม่ใช่เรื่องเล็กเลย ตอนนี้เริ่มใช้บ้านหลังใหญ่แล้ว ได้ยินว่ากำลังแต่งตั้งให้ลุงของข้าเป็นขุนนาง ตอนนี้เขามีบารมีมาก แต่ไม่ได้มองการณ์ไกล ไม่รู้จุดประสงค์ที่แท้จริงของฮ่องเต้”

“ตระกูลหูทำการค้าขายมานานหลายปี ถึงแม้จะเป็นเศรษฐีระดับต้นๆ ยังไงสถานะของคนทำมาค้าขายก็ไม่เหมือนขุนนาง ตอนนี้สามารถอดทนฝ่าฟันความยากลำบาก จนประสบความสำเร็จได้ ทำไมถึงจะไม่หลงระเริง? กลัวว่าต่อไปจะทำให้เจ้าลำบากไปด้วย” หลีโม่อดที่จะถอนหายใจไม่ได้

หูฮวนซีพยักหัว “ทางด้านข้าเจ้าไม่ต้องเป็นห่วง เป็นห่วงตัวเองก่อน ตอนนี้ไอ้เจ็ดกลับมา คิดว่าสองสามเดือนนี้ พวกเจ้ายังนับว่ามีวันที่เวลาดีอยู่ แต่หลังจากนั้น...”

หูฮวนซีไม่ได้พูดออกมาอย่างชัดเจน หลีโม่กลับก็รู้ดี

ตอนนี้ไอ้เจ็ดได้ความดีความชอบกลับมา ตอนนี้ฮ่องเต้ยังไม่ทำอะไรเขาแน่ กระทั่ง ยังจะประทานสิ่งของมาให้มากมาย

อีกอย่าง ฮ่องเต้ก็ยังต้องใช้เวลารักษาอาการป่วยของเขา

ตอนนี้รอเพียงช่วยเสี้ยฮ่าวหรานออกมา ก็จะได้มีชีวิตที่สงบสุขสักเดือนสองเดือน

เย็นเอ๋อร์จัดเตรียมอาหารมาให้ หูฮวนซีทานอยู่เป็นเพื่อน ทานอาหารลงท้องแล้ว หลีโม่ ค่อยรู้สึกสบายขึ้นมาหน่อย แต่สีหน้ายังคงไม่น่ามอง

หูฮวนซีพูดขึ้นว่า “เจ้าจะนอนอีกสักหน่อยไหม?”

“ไม่แล้ว อยากออกไปเดินเล่น” หลีโม่พูด

“ได้ ข้าไปเป็นเพื่อนเจ้า”

หลีโม่เห็นหน้าตัวเองในกระจกขาวซีด จึงแต่งหน้าเล็กน้อย เห็นหูฮวนซีมองดูนางอยู่ตลอด ก็หัวเราะพร้อมพูดว่า “ในภพก่อนข้าแต่งหน้าน้อยครั้งมาก ในหนึ่งปีมีสามร้อย กว่าวันที่ต้องออกไปทำภารกิจ”

“ภพก่อน....เป็นเรื่องที่นานมากแล้ว” หูฮวนซีพูดขึ้น

“ใช่ เป็นเรื่องที่นานมากแล้ว” หลีโม่กะพริบตาแล้วยิ้ม “เจ้าคิดว่า อยู่ในสมัยโบราณดีกว่าหรืออยู่ในสมัยปัจจุบันดีกว่า?”

หูฮวนซีคิดอยู่ประเดี๋ยว “ไม่มีอันไหนดีเลย”

“ใช่ ไม่มีอันไหนดีเลย เห็นได้ชัดว่า การมีชีวิตอยู่ไม่ใช่เรื่องง่ายเลย การมีชีวิตอยู่อย่างสงบสุข ยิ่งไม่ง่ายเลย”

หลีโม่เพิ่งพูดเสร็จ ก็ได้ยินเสียงหนึ่งดังขึ้น “อะไรไม่ง่ายหรือ?”

เหงาร่างชุดสีเขียวคนหนึ่ง เดินเข้ามาจากประตู

ทั้งสองคนหันไปมอง ไม่ใช่โหรวเหยาแล้วจะเป็นใคร?

หลีโม่รีบลุกขึ้นยืน แล้วเข้าไปกอดนางไว้ “เจ้ากลับมาแล้ว ช่างเป็นเรื่องที่ดีจริงๆ”

โหรวเหยาสะอึกสะอื้น “คิดไม่ถึงว่าเจ้าจะเป็นห่วงข้าขนาดนี้ รู้แบบนี้แต่แรก เจ้าไม่ต้องแต่งงานกับท่านพี่ แต่งกับข้าดีกว่า”

นางพูดพร้อมหัวเราะ เหมือนดั่งล้อเล่น แต่ก็ซาบซึ้งมากจริงๆ

หลีโม่ตีนางไปหนึ่งที “พูดเหลวไหล”

“เหลวไหล เหลวไหลแค่ไหน” โหรวเหยาพูดพร้อมหัวเราะ

หลีโม่มองดูนาง แล้วดวงตาก็เต็มไปด้วยน้ำตา “อาการบาดเจ็บหายดีหรือยัง?”

“ไม่เป็นไรแล้ว หายดีแล้ว” โหรวเหยามองดูหูฮวนซี แล้วก็เปลี่ยนไม่พูดถึงเรื่องน่าเศร้า “รู้ว่าวันนี้จวนอ๋องคึกคัก เจ้ามาเพื่อดื่มเหล้าฉลองหรือ?”

หูฉวนซียิ้มพูดว่า “ไม่ใช่หรอกหรือ? วันนี้ฮ่องเต้จะต้องพระราชทานสิ่งของล้ำค่ามาให้ ข้ามาดู ว่ามีสิ่งของอะไรดีๆข้าจะได้เอาไปก่อน”

โหรวเหยาหัวเราะอย่างหนัก “หน้าไม่อาย ตระกูลหูของเจ้าสิ่งของดีอะไรจะไม่มี? ยังจะมาอยากได้ของพระราชทานในจวนอ๋องที่ยากจนนี้”

“นั่นจะไปเหมือนกันได้อย่างไร? ยังไงก็เป็นของพระราชทาน ล้ำค่าแน่ น่าจะเก็บเอาไว้ให้ลูกหลานของตระกูล จะได้เป็นสิ่งของล้ำค่าสืบตระกูล”

โหรวเหยายิ่งหัวเราะหนัก “ดูเจ้าสิ? ไม่รู้จักอับอาย ผู้หญิงที่ยังไม่ออกเรือน ก็คิดเรื่องลูกหลานสืบสกุลแล้ว หรือว่ามีคนที่รู้ใจแล้ว?”

“ไม่มี” หูฮวนซีปฏิเสธทันที

“พูดไปเรื่อย เจ้ากับอ๋องเย่ ดูยังไงก็...เชอะ” โหรวเหยาหัวเราะเยาะ

“เจ้าสิพูดไปเรื่อย” หูฮวนซีหน้าแดงขึ้นมาทันที

หลีโม่มองดูทั้งสองคนเถียงกัน ในใจดีใจอย่างบอกไม่ถูก ดีจริงๆ หากวันเวลาเป็นแบบนี้ไปตลอด จะดีแค่ไหน

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พิษรักองค์ชายโฉมงาม