พิษรักองค์ชายโฉมงาม นิยาย บท 704

บทที่ 704 ใช่ความรักหรือ

ซูชิงส่ายหัว “ข้าเคยพูดแล้ว ระหว่างพวกเราไม่ใช่ความรัก”

“ไม่ใช่ความรัก? งั้นทำไมเจ้าต้องเป็นห่วงนาง? สำหรับข้านอกจากหลิ่วหลิ่วแล้ว ข้าก็ไม่สนใจไม่เป็นห่วงผู้หญิงคนไหนอีกแล้ว”

ซูชิงถามว่า “เจ้าเป็นห่วงพระชายาไหม? พระชายาเศร้าโศกเสียใจ เจ้าจะดีใจไหม?”

“ไม่ดีใจอยู่แล้ว ข้ากับพระชายาเคยผ่านความเป็นความตายมาด้วยกัน”

ตอนนั้นที่ตกทะเลไปด้วยกัน พวกเขาจึงผูกพันกัน ผ่านความเป็นความตายมาด้วยกัน

“งั้นเจ้าอยากแต่งงานกับพระชายาไหม?” ซูชิงถาม

เซียวโธ่อ้าปากกว้าง เบิกตากลมโต “เจ้าบ้าไปแล้วหรือ? หากท่านอ๋องมาได้ยิน ข้าต้องถูกฆ่าตายแน่”

ซูชิงพูดอธิบายว่า “ข้าแค่กำลังบอกกับเจ้าว่า ความรู้สึกระหว่างคนเรา มีความรู้สึกหลายอย่าง เหมือนเจ้ากับหลิ่วหลิ่วแบบนั้น เป็นความรัก เหมือนข้ากับโหรวเหยาแบบนั้น เป็นมิตรภาพ ที่จริง มิตรภาพยั่งยืนมั่นคงกว่าความรักอีก เชื่อไหม?”

เขามองดูท่าทีเซียวโธ่ที่เงียบนิ่ง ก็รู้ว่าเขาไม่เข้าใจ

“ช่างเถอะ พูดไปเจ้าก็ไม่เข้าใจ ข้าไม่ได้อยากทำให้โหรวเหยาเสียใจ ข้ารู้ หากข้าสู่ขอโหรวเหยา โหรวเหยาจะดีกับข้ามากๆ...แต่ ไม่เหมือนกัน ยังไงก็ขาดอะไรไปอย่าง เจ้าเข้าใจไหม?”

“เข้าใจ” เซียวโธ่พยักหัว

ซูชิงมองดูเขา เขาเข้าใจ? ไม่เชื่อ

เซียวโธ่กลับนั่งลง พูดขึ้นว่า “ข้าเข้าใจจริงๆ พวกเจ้าต่างก็รู้ว่าหลิ่วหลิ่วไม่ดี ใช่ไหม? บางทีข้าควรที่จะแต่งงานกับคุณหนูตระกูลใหญ่ที่เป็นแม่ศรีเรือนกว่าหลิ่วหลิ่ว คุณหนูตระกูลใหญ่พวกนั้นบางทีอาจจะไม่กล้าขัดคำสั่งข้า เห็นข้าสำคัญกว่าทุกอย่าง แต่ข้าคิดว่าชีวิตแบบนั้นคงเงียบเหงาไม่มีรสชาติ พวกเขาล้วนไม่ใช่หลิ่วหลิ่ว”

ครั้งนี้ เปลี่ยนเป็นซูชิงที่อ้าปากกว้าง เบิกตาโตมองดูอย่างอึ้งๆ

เซียวโธ่เกิดฉลาดขึ้นมาแล้วหรือ?

เซียวโธ่พูดเองขึ้นอีกว่า “ในโลกนี้ มีหลิ่วหลิ่วเพียงคนเดียว...”

ซูชิงซาบซึ้งจนน้ำตาคลอ เซียวโธ่คนซื่อคนนี้ ในที่สุดก็โตเป็นผู้ใหญ่แล้ว

“ในโลกนี้ มีเพียงตระกูลเฉินที่มีอาวุธล้ำค่าขนาดนี้ หากข้าไม่แต่งงานกับหลิ่วหลิ่ว อาวุธพวกนั้นก็จะไม่มีบุญวาสนากับข้า...”

“เจ้าไปตายเสียเถอะ”

ซูชิงลุกขึ้น ต่อยเซียวโธ่ไปหนึ่งที

ตอนที่ซือถูเย้นกลับมา ตะวันก็ใกล้ตกดินแล้ว

ซือถูเย้นยังกลับไปไม่ถึงวังเหอสวี้ เย็นเอ๋อร์ก็เดินเข้ามาด้วยความโกรธเสียก่อน

“เป็นอะไร? ใครกันที่ทำให้เย็นเอ๋อร์ของเราโมโห?” โหรวเหยามองดูหน้าเย็นเอ๋อร์ที่โกรธจนกลมนั่นอย่างล้อเลียน

เย็นเอ๋อร์พูดอย่างโกรธเคืองว่า “เจ้าเมืองท่านอย่าหัวเราะเยาะบ่าวเลย บ่าวโกรธมาก โกรธมากๆจริงๆ”

“เป็นอะไรหรือ?” หลีโม่เห็นปกติเป็นคนที่อารมณ์ดีอย่างเย็นเอ๋อร์ ก็ยังโกรธจนหน้าแดงจึงถามขึ้น

“ท่านอ๋องกลับมาแล้ว” เย็นเอ๋อร์พูด

“ท่านอ๋องกลับมาแล้วเจ้าโมโหด้วยเรื่องอะไร?” หลีโม่ถามอย่างแปลกใจ

เดิมเย็นเอ๋อร์ก็อยากอดทนไว้ สุดท้ายก็อดทนไว้ไม่ไหว “พระฉายา ท่านไม่รู้ ท่านอ๋องเพิ่งเข้าประตูมา เดิมก็จะตรงมาที่วังเหอสวี้ กลับคิดไม่ถึง หวั่นหุ้ยของตำหนักหลานรั่วคนนั้นกลับปรากฏตัวขึ้น ยังล้มข้อเท้าพลิกตรงหน้าท่านอ๋อง เจ็บจนร้องไห้น้ำตาไหล”

“แล้วท่านอ๋องของพวกเจ้าทำยังไง?” หลิ่วหลิ่วสนใจขึ้นมาทันที ชอบฟังเรื่องแบบนี้ที่สุด

“ท่านอ๋องไม่แม้แต่จะมองนางอยู่แล้ว นางกลับดี เดินขากระเผลกไล่ตามท่านอ๋อง พูดจา พูดได้อย่างน่าสงสารมาก พูดว่าพ่อตัวเองทำผิดสมควรได้รับโทษ ยังพูดว่าหากไม่มีท่านอ๋อง พ่อของนางยังโกงแบบนี้ต่อไป ไม่ช้าก็เร็วอาจจะต้องทำให้ครอบครัวเดือดร้อน นางบอกว่าท่านอ๋องมีรับสั่งให้สืบสวน เป็นการช่วยนางไว้ เป็นคนที่มีบุญคุณต่อนาง”

ทุกคนฟังอยู่อย่างแปลกใจ ยังมีลูกสาวที่ “เด็ดเดี่ยวและองอาจผึ่งผาย”?

หลิ่วหลิ่วถามอย่างตื่นเต้น “งั้นต่อจากนั้นล่ะ”

“ต่อจากนั้น ท่านอ๋องก็วนใจนาง ถามนางว่าเป็นลูกสาวของใคร ยังถามว่าทำไมถึงอยู่ตรงนี้ ตอนที่ข้ากลับมา ท่านอ๋องถูกนางพากลับไปตำหนักหลานรั่วแล้ว” เย็นเอ๋อร์พูดอย่างโมโห

“เขาก็ไป?” ทุกคนอึ้ง นี่ไม่เหมือนนิสัยไอ้เจ็ด

“ไม่ใช่หรอหรือ? ไปแล้ว” เย็นเอ๋อร์ร้องห่มร้องไห้

หลิ่วหลิ่วพูดพึมพำว่า “หรือว่า ลูกสาวขุนนางต้องโทษ สวยหน้าตาดี?”

เย็นเอ๋อร์พูดขึ้นอย่างโมโหว่า “สวยแค่ไหน ก็นางจิ้งจอก”

“งั้นก็แสดงว่าสวยมากนะสิ” หลิ่วหลิ่วมองดูหลีโม่ “เจ้าต้องระวัง ยังไงก็รีบไล่ออกไปดีกว่า”

หลีโม่หัวเราะพร้อมพูดว่า “สาวสวยมีเต็มบ้านเต็มเมือง หากเขาถูกผู้หญิงสวยดึงดูดไปได้ ข้าก็ต้องไล่ไปหนึ่งคน ยังจะมีมาอีก งั้นต่อไปฉันก็จะไม่ต้องทำอะไรอย่างอื่นแล้ว ตั้งหน้าตั้งตาขับไล่นางจิ้งจอกก็พอ”

“เจ้าอย่ามัวแต่ใจเย็นเกินไป” หูฮวนซีพูด

หลีโม่พูดว่า “ถ้าไม่ได้ใจเย็น เพียงแต่ ในตัวเมืองนี้ สิ่งยั่วยวนมีเต็มไปหมด ข้าจะตามไล่ได้มากขนาดนั้นหรือ? หากใจของเขาอยู่ที่ข้า ก็จะไม่หวั่นไหวกับสิ่งใด หากใจไม่อยู่ที่ข้า ข้าใจร้องไปก็ไม่มีประโยชน์”

หลีโม่พูดอยู่แบบนี้ ตัวเองก็อึ้งไปพักหนึ่ง นางเริ่มพูดเรื่องใจเป็นตั้งแต่เมื่อไหร่?

แต่งงานกับไอ้เจ็ด อยู่ด้วยกันสองคน ยังไงก็มีความผูกพันกัน นางก็ค่อยๆมีความรู้สึกว่า นี่คือความรัก แต่ความจริงแล้ว ระหว่างพวกเขาไม่เคยมีความรู้สึกอย่างบ้าคลั่งแบบนั้น

นางยังรู้สึกว่า หากไอ้เจ็ดหลงรักผู้หญิงคนอื่น นางก็จะเสียใจ แต่ไม่ถึงขั้นเจ็บปวด

แต่ ตอนนี้มีผู้หญิงคนหนึ่งปรากฏขึ้น ดูเหมือนจะไม่มีผลกระทบอะไร นางพูดอยู่ได้อย่างใจเย็น กลับก็อดคิดไม่ได้ว่าต่อไป หากมีผู้หญิงแบบนี้ปรากฏขึ้นจริงๆล่ะ?

นางก็ยังจะสามารถใจเย็นได้ขนาดนั้นจริงๆหรือ?

หูฮวนซีตบบ่าของนาง “ในเมื่อท่านอ๋องเจ้ากลับมาแล้ว งั้นข้าขอตัวก่อน ไม่อยากเป็นก้างขวางคอพวกเจ้าสองสามีภรรยาพลอดรักกัน”

หูฮวนซีไป คนก็บอกว่าจะไปเหมือนกัน ยังไง คนอื่นก็จากกันตั้งนานขนาดนี้ ต้องมีเรื่องยุ่งอีกมากมาย

“อย่าเพิ่งสิ อยู่ทานข้าวด้วยกันก่อน” หลีโม่ชวน

“พรุ่งนี้เถอะ วันนี้ให้พวกเจ้าสองคนสามีภรรยาอยู่ด้วยกันก่อน” หูฮวนซีพูด

หลิ่วหลิ่วยังไม่ค่อยอยากกลับ นางบอกกับเซียวโธ่แล้วว่าจะมาทานข้าว เพียงแต่ หูฮวนซีพูดก็ถูก คนอื่นเขาห่างกันตั้งนานเพิ่งจะได้เจอกัน

นางกับเซียวโธ่เองก็ห่างกันตั้งนาน แต่ เซียวโธ่กับพานางวิ่งไปทั่วเมือง กลับไปบ้านแม่ มาจวนอ๋อง ยังไม่ได้มีเวลาคุยกันดีๆเลย

ตอนที่ซือถูเย้นเข้ามาในวังเหอสวี้ พวกหูฮวนซีเพิ่งกลับกัน

“แก้วเยอะขนาดนี้ เมื่อกี้มีคนเยอะหรือ?” ซือถูเย้นเข้ามา ก็เห็นบนโต๊ะมีแก้ววางไว้บนโต๊ะหลายใบ ถึงถามว่า

“อืม พวกฮวนซีเพิ่งกลับ” หลีโม่ลุกขึ้น แล้วก็ช่วยเขาถอดเสื้อตัวนอกออก ความเป็นแม่ศรีเรือนนี้ทำบ่อยแล้ว บางครั้งก็จะกระทำเองอย่างไม่รู้ตัว

“ไม่ชวนพวกเขาอยู่ทานข้าวหรือ?” ซือถูเย้นถาม

เย็นเอ๋อร์กำลังเก็บแก้ว ตอบขึ้นว่า “ท่านอ๋อง เถ้าแก่หูบอกว่าให้ท่านอ๋องกับพระชายาได้อยู่กันตามลำพัง”

นางพูดเน้นคำว่าอยู่กันตามลำพัง

ซือถูเย้นอมยิ้ม “หูฮวนซีรู้กาลเทศะดีมาตลอด”

หลีโม่แขวนเสื้อไว้เรียบร้อยแล้ว ก็ถามขึ้นว่า “เพิ่งกลับมาถึง?”

“อืม เพิ่งมาได้ไม่นาน” ซือถูเย้นนั่งลง ใบหน้าหล่อเหลาอมยิ้ม “คิดถึงข้า?”

“อืม” หลีโม่มองดูเขา เห็นท่าทางเขาดูอารมณ์ดี “มีเรื่องน่ายินดี?”

“ฮ่องเต้พระราชทานสิ่งของมาให้เยอะมาก รับรองว่าเจ้าต้องชอบ” ซือถูเย้นยื่นมือลูบหน้าของนางหนึ่งที แล้วดึงนางมานั่งใกล้ๆ มองดูสีหน้าของนาง “ทำไม? ใครทำให้เจ้าไม่พอใจ? ต้องเป็นเฉินหลิ่วหลิ่วแน่”

เย็นเอ๋อร์มองดูหลีโม่ เห็นหลีโม่ไม่พูดอะไร นางก็ไม่กล้าพูด เก็บของเสร็จแล้วก็ออกไป

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พิษรักองค์ชายโฉมงาม