บทที่735 หิวมานาน
จื่นเฉิงส่งเสียงร้องหึ “พอและ กลับไปจะต้มไก่ จะไม่แบ่งให้เจ้าเลยคอยดู”
เย็นเอ๋อร์แมวน้อยขี้ตะกละรีบเอ่ยปากขอโทษขอโพย “ข้าผิดไปแล้ว ข้ายอมรับผิดก็ไม่ได้หรอ?ข้าจะไปรินน้ำให้เดี๋ยวนี้!”
พูดพลางก็วิ่งห้อแน่บเข้าไป ยกเอาน้ำถ้วยหนึ่งออกมา
หยางมามาพูดขึ้น “ขอน้ำกินแล้ว ก็รีบเอาไก่นี่ไปวางไว้ในสวน ตรงนี้สกปรกไปหมดแล้วเนี่ย”
“ข้ารู้แล้ว อยากจะพบกับพระชายาก่อน”
“อืม เจ้าไปอาบน้ำก่อน อาบเสร็จแล้วค่อยมา ข้ามีเรื่องจะหาเจ้า”จื่นเฉิงเมื่อได้ยินเข้าดังนั้น ก็ตอบรับ ดื่มน้ำลงไปอย่างรวดเร็ว แล้วหยิบของวิ่งเข้าไปในสวน
เขากลับไปที่ห้อง อาบน้ำชำระร่างกายเสร็จแล้วก็กลับมา
“พระชายา มีเรื่องอันใดพ่ะย่ะค่ะ?”เมื่ออาบน้ำเสร็จแล้ว เขาก็รู้สึกสดชื่นสบายตัวไปทั่วทั้งร่างกาย “พี่สะใภ้สบายดีไหม?”หลีโม่ถาม
“สบายดีพ่ะย่ะค่ะ” จื่นเฉิงยิ้มแล้วพูดไปด้วย “ลำบากพระชายาแล้วที่ต้องเป็นห่วง”
“อืม พอเจ้าว่างก็กลับไปดูนางบ่อย ๆ เสีย หญิงสาวเพียงคนเดียว ก็ลำบากไม่น้อย” หลีโม่กล่าว
พี่ชายของจื่นเฉิง ได้เสียชีวิตไปแล้ว มีเพียงพี่สะใภ้ที่ดูแลหลานใช้ชีวิตเพียงลำพัง
“กระหม่อมทราบแล้ว!”จื่นเฉิงตอบรับ
หลีโม่เชิญให้เขานั่งลง จากนั้นก็พูดขึ้น “ข้ามีเรื่อง อยากจะให้เจ้าไปจัดการ แต่ว่าตอนที่ยังไม่ทันได้หาหลักฐานพบ เจ้าห้ามพูดกับใครเป็นอันขาด”
“แม้แต่ท่านอ๋องก็ห้ามพูดหรือ?”จื่นเฉิงถาม
หลีโม่พยักหน้า “ถูกต้อง แม้แต่ท่านอ๋องก็ให้รู้ไม่ได้”
ตอนที่ยังจับคนนั้นไม่ได้ อย่าให้ไอ้เจ็ดรู้ ถ้าไอ้เจ็ดเป็นเดือดเป็นร้อนต่อนาง จะต้องไม่ยอมปล่อยเรื่องนี้ไปอย่างแน่นอน ในตอนนั้นก็คงจะได้กระทำความผิดต่อฮองไทเฮา
ถึงแม้ไม่กลัวว่าจะเป็นการสร้างความลำบากต่อนาง แต่เรื่องนี้ก็หาได้จำเป็นไม่
หลีโม่เล่าเรื่องโดยตลอดอีกครั้ง จากนั้นก็พูดกับจื่นเฉิงว่า “เริ่มในวันพรุ่งนี้ ในห้องของข้าจะเพิ่มจำนวนคน เจ้าก็ทำงานอยู่ในสวนของข้า ไม่จำเป็นต้องจับตาโดยตลอด แต่ทว่า ให้ใส่ใจต่อท่าทีของทุกคน”
จื่นเฉิงเป็นคนฉลาดเฉลียว เมื่อได้ยินหลีโม่พูดเข้าดังนั้น ก็รับรู้ได้ว่าหลีโม่กำลังสร้างโอกาสให้กับคนที่เป็นคนวางยา เขาตอบรับขึ้นว่า “กระหม่อมทราบแล้ว”
ในตอนที่กำลังกำชับจื่นเฉิงนั้น ซือถูเย้นก็กลับมา
เขาเข้ามาในห้อง เมื่อเห็นว่าจื่นเฉิงอยู่ ใบหน้าที่ดูเคร่งขรึมโดยตลอดก็มีรอยยิ้มปรากฏขึ้น “กลับมาแล้วหรอ?”
“ท่านอ๋อง!”จื่นเฉิงหยัดกายลุกขึ้นกำมือทั้งสองแสดงความเคารพ
“อืม กำลังพูดอะไรกับพระชายาหรือ?”ซือถูเย้นนั่งลง จ้องมองไปทางหลีโม่ โดยที่ยังไม่ทันได้รอให้จื่นเฉิงได้ตอบ ก็ถามหลีโม่ไปว่า “วันนี้รู้สึกเป็นอย่างไรบ้าง?”
“ไม่เป็นไร วันนี้อารมณ์ดีมากเลยล่ะ”หลีโม่รีบยิ้มแล้วตอบกลับไป
เขาจับมือของหลีโม่จากที่ใต้โต๊ะ พูดขึ้น “ถ้าหากว่าไม่สบาย ก็ให้รีบบอกข้านะ”
“รู้แล้ว”หลีโม่รู้สึกชอบใจเวลาที่เขาแสดงท่าทีหวงหาอาทรเป็นห่วงเป็นใย ราวกับว่านางคือหนึ่งยอดดวงใจของเขา
ถึงแม้ว่าความคิดแบบนี้จะเป็นของพวกเด็กสาวแรกรุ่น แต่มีผู้หญิงคนไหนกันบ้างล่ะที่จะไม่ชอบ?
กลับเป็นจื่นเฉิงที่ต้องเบิกตาโพลง แล้วก็ยื่นมือออกไปหยิก ดูไม่ผิดหรอกใช่ไหม?ถึงแม้จะพูดได้ว่าในเมื่อก่อนท่านอ๋องก็ปฏิบัติกับพระชายาเป็นอย่างดี แต่มีที่ไหนกันที่จะดูอ่อนโยนทะนุถนอมเช่นนี้? นุ่มนวลอ่อนโยน?
“เจ้ายังมีเรื่องอะไรอีกไหม?”ในตอนที่ซือถูเย้นหันกลับมาพูดกับจื่นเฉิงนั้น สีหน้าก็ไม่ได้ดูดีสักเท่าไหร่แล้ว แค่สายตาก็หาได้แลไม่ ไม่เคยเห็นเจ้านายของเจ้าออกไปตลอดทั้งวัน แล้วต้องการจะเรียกร้องพระชายาอย่างนั้นรึ?
จื่นเฉิงพูดขึ้นอย่างทื่อๆ “เมื่อครู่ท่านอ๋องถามว่ากระหม่อมมาทำอะไรที่นี่ กระหม่อมยังไม่ได้ทูลตอบ เมื่อตอบแล้วก็จะรีบไปพ่ะย่ะค่ะ”
“ถ้าอย่างนั้นเจ้ามาทำอะไรที่นี่?”ซือถูเย้นโบกมือไปมา บ่งบอกให้เห็นว่าให้เขารีบตอบแล้วก็รีบออกไปเสีย
จื่นเฉิงยิ้มแล้วพูดขึ้น “กระหม่อมมาถวายความเคารพต่อพระชายา”
“เสร็จหรือยัง?”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พิษรักองค์ชายโฉมงาม
จบแบล้วววววว...
900 ตอนแล้ว ชีวิตของหลีโม่แทบหาความสุขไม่เจอเลย แถมลูกก็ถูกคนอื่นเอาไปทิ้งอีก สงสารจับใจ...
ตะว่าไปเรื่องนี้หมุยเฟยกับฮ่องเต้เลวร้ายแบบกินกันไม่ลงนะ ทำร้ายทุกคนที่ดีกับตัวเอง แล้วแางว่าจำเป็นๆ กลับเป็นพวกอี๋เฟยซะอีกที่แย่งแยกพวกำองชัดเจนไปเลย หมุยเฟยนี่นับว่าเป็นคนที่ได้ดีจากการเนรคุณผู้คนรอบข้างโดยแท้...
ฮ่องเต้กับลู่กงกงนี่ ตอนตายคงมีกันแค่ 2 คนละนะ...
อี๋เฟยนี่คือนางฉลาดสุดละในบรรดาเมียของเต้...
ท่านซือถูเย่นใจเย็นๆจากสุราก่อนเจ้าค่ะ สนใจยัยน้องด่วนเด่วจะโดนมิใช่น้อย55555...
โธ่ๆท่านซือถูเย่น เค้าลางกลัวว่าที่ภรรยาในอนาคตมาแต่ไกล รีบซ่อนสุราเลยนะ แต่ไม่น่าจะทัน หลอกใครก็หลอกได้แต่ไม่ใช่กับแม่นางหลีโม่555555...