บทที่ 734 จื่นเฉิงกลับมาแล้ว
โหรวเหยาใช้ปลายเล็บจิกขึ้นมาวางบนกลางมือแล้วบิไปมา ถามขึ้นว่า “เกิดอะไรขึ้น?”
“มีคนวางยาในถุงผ้าหอมและเครื่องสำอางของข้า”หลีโม่กล่าว
โหรวเหยาตะลึงไปพักหนึ่ง “ของติดตัวของเจ้า มีคนวางยาได้หรือ?ใครทำกัน?”
“ไม่ต้องไปสนว่าใครเป็นคนทำ เจ้ารู้ไหมว่านี่คืออะไร?”หลีโม่ถามขึ้น
โหรวเหยาส่ายหน้าไปมา “ข้าดูไม่ออก”
นางให้กลุ่มหมอนั้นเข้ามา กล่าวขึ้น “พวกเจ้าดู มองออกไหมว่ามันคืออะไรกัน?”
แต่ละคนพุ่งขึ้นมาดู ลองดมอยู่สักพัก มีคนหนึ่งในกลุ่มนั้นใช้ลิ้นแตะ ๆ ที่ปลายนิ้ว จากนั้นเขาก็ขมวดคิ้ว แล้วใช้ผ้าเช็ดหน้าเช็ดออก
“วูชิซานหรือเปล่า?”หลีโม่ถามขึ้น
หมอคนนั้นกล่าวว่า “คล้ายอยู่บ้าง แต่ไม่น่าจะใช่วูชิซาน”
“พอจะเห็นทางไหม?”โหรวเหยามองไปที่เขาแล้วถามขึ้น
หมอผู้นั้นเงยหน้าแล้วจ้องมองไปที่โหรวเหยา จากนั้นก็มองไปทางหลีโม่ พูดขึ้นว่า “พระชายา ตามหที่หม่อมฉันเคยได้พบกับยาพิษเซียวหวุนสั่นประเภทหนึ่ง ดูแล้วช่างมีลักษณะเหมือนกับสิ่งนี้ยิ่งนัก ”
“ยาพิษเซียวหวุนสั่น?” หลีโม่นิ่งตะลึงไป นางไม่เคยได้ยินของสิ่งนี้มาก่อน
หมอผู้นั้นกล่าวต่อไปว่า “ใช่แล้ว ยาพิษเซียวหวุนสั่น ของประเภทนี้ จริง ๆ แล้วปรับแต่งวูชิซานแล้วเอามาประกอบเข้าด้วยกัน เป็นนักพรตคนหนึ่งที่ทำขึ้น มีชื่อเสียงโด่งดังในหมู่เด็กหนุ่มของตระกูลชั้นสูง เมื่อใช้ไปแล้วนั้น จะทำให้คนเกิดอาการประสาทหลอน หลับลึก ตกอยู่ในห้วงภวังค์ของความฝัน เพราะว่าในดินแดนแห่งความฝันนั้น มีระดับที่แตกต่างกัน ถ้าหากว่าวันไหนมีความสุขใจ ในความฝันก็จะเต็มไปด้วยความสวยงาม ถ้าหากว่าวันไหนเดือดร้อนใจ ฝันร้ายก็จะปรากฏขึ้นอย่างไม่หยุดยั้ง พวกเหล่าคุณชายจากสังคมชั้นสูง ทุกวันพบเจอแต่เรื่องมีความสุข จะมีวันไหนบ้างที่จะเดือดร้อนใจ?ดังนั้น ก็จะอาศัยยาพวกนี้ให้หลับสนิท จะให้ตื่นก็ไม่ยาก ในตอนที่หลับสนิทนั้นก็ให้คนเอาโสมและหลิงจือมาอบเป็นยาลูกกลอน ก็จะทำให้ตื่นขึ้นมาได้”
โหรวเหยาตกใจมาก “นี่มันเป็นอาการของเจ้าเมื่อก่อนไม่ใช่หรือ?”
หลีโม่พูดขึ้นด้วยเสียงเคร่งขรึม “ใช่แล้ว แป้งพวกนี้เล็กละเอียด สูดดมเข้าไปได้ง่าย อีกทั้ง ยังอยู่ในถุงเครื่อหอม ยังมีกลีบดอกมันดาลา ล้วนแต่ทำให้แตกละเอียดแล้วแช่อยู่ในน้ำดอกไม้นั้น มีความเข้มเข้นสูงมาก”
“จริง ๆ แล้วเป็นใครกัน ทำให้เจ้าฝันร้ายได้หลายต่อหลายครา?”โหรวเหยากล่าวขึ้นอย่างโกรธเคือง
หมอผู้นั้นส่ายหน้าขึ้น “ไม่ การฝันร้ายเช่นนี้ เกิดจากอาการประสาทหลอน เป็นเพียงขั้นแรกเท่านั้น ถ้าหากว่าสูดดมเป็นเวลานาน คนจะเกิดอาการสับสน มีสติไม่สมประดี ถ้าหากว่าในตอนที่เกิดอาการสับสนมึนงง ก็จะดุร้ายเกรี้ยวกราดอย่างผิดปกติ สามารถทำพฤติกรรมทำร้ายผู้คนได้”
“อะไรนะ?”โหรวเหยาหยัดกายลุกขึ้นพรวด นัยน์ตามีเปลวไฟปะทุขึ้น “จิตใจต่ำช้าเลวทราม จริง ๆ แล้วเป็นใครกัน”
“ผู้ต้องสงสัยชั่วคราวก็คือซุนมามา แต่ยังไม่มีหลักฐาน”หลีโม่พูดด้วยเสียงกระซิบ
“คนแก่เยี่ยงนั้นกล้าทำอะไรแบบนี้ได้ยังไง?”โหรวเหยาโกรธแค้นจนไร้สติไม่มีเหตุผล
หลีโม่ยื่นมือออกไปดึงนางให้นั่งลง เพราะว่าหมอคนอื่น ๆ อยู่ในเหตุการณ์ด้วย ถึงไม่ได้พูดถึงรายละเอียดอะไรมากมาย เพียงแค่พูดออกไปว่า “ก็แค่สงสัย ตอนนี้ยังหาอะไรได้ไม่ชัดเจน ทุกคนก็ล้วนแต่เป็นผู้ต้องสงสัย”
โหรวเหยาพลันก็นึกขึ้น “ใช่แล้ว เมื่อก่อนเจ้าเคยบอกไม่ใช่หรอว่าเจ้าไม่โดนยาพิษ?หมอหลวงเคยตรวจอาการดูแล้วว่าเจ้าไม่ได้โดนยาพิษ”
หมอผู้นั้นพูดขึ้น “พิษของยาพิษเซียวหวุนสั่นไม่รุนแรงมากนั้น ต่อให้มี ก็น้อยมากจนตรวจสอบไม่ได้”
โหรวเหยารู้ว่าต่อไปเรื่องที่จะต้องพูดถึงคือเรื่องใครเป็นผู้ลงมือ จึงได้พูดขอบคุณกับกลุ่มหมอเหล่านั้น พร้อมกับกล่าวย้ำอีกครั้งว่าอย่าได้ให้เรื่องนี้แพร่งพรายออกไป
คนพวกนั้นล้วนมีสายสัมพันธ์แน่นแฟ้นในชีวิตของนาง อย่างไรก็ไม่มีทางพูดเรื่องพวกนี้ออกไป
ในตอนที่หยางมามาได้ส่งพวกเขานั้น ก็ยัดเงินเข้าไปให้ พวกเขาบอกว่าไม่ต้องการอะไรทั้งนั้น หยางมามาจึงทำได้แค่เพียงกล่าวขอบคุณซ้ำแล้วซ้ำเล่า แล้วส่งให้พวกเขาขึ้นรถม้า
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พิษรักองค์ชายโฉมงาม
จบแบล้วววววว...
900 ตอนแล้ว ชีวิตของหลีโม่แทบหาความสุขไม่เจอเลย แถมลูกก็ถูกคนอื่นเอาไปทิ้งอีก สงสารจับใจ...
ตะว่าไปเรื่องนี้หมุยเฟยกับฮ่องเต้เลวร้ายแบบกินกันไม่ลงนะ ทำร้ายทุกคนที่ดีกับตัวเอง แล้วแางว่าจำเป็นๆ กลับเป็นพวกอี๋เฟยซะอีกที่แย่งแยกพวกำองชัดเจนไปเลย หมุยเฟยนี่นับว่าเป็นคนที่ได้ดีจากการเนรคุณผู้คนรอบข้างโดยแท้...
ฮ่องเต้กับลู่กงกงนี่ ตอนตายคงมีกันแค่ 2 คนละนะ...
อี๋เฟยนี่คือนางฉลาดสุดละในบรรดาเมียของเต้...
ท่านซือถูเย่นใจเย็นๆจากสุราก่อนเจ้าค่ะ สนใจยัยน้องด่วนเด่วจะโดนมิใช่น้อย55555...
โธ่ๆท่านซือถูเย่น เค้าลางกลัวว่าที่ภรรยาในอนาคตมาแต่ไกล รีบซ่อนสุราเลยนะ แต่ไม่น่าจะทัน หลอกใครก็หลอกได้แต่ไม่ใช่กับแม่นางหลีโม่555555...