พิษรักองค์ชายโฉมงาม นิยาย บท 737

บทที่ 737 วิธีแก้พิษ

สีหน้าของซือถูเย้นงอง้ำเป็นจวัก องครักษ์จะกล้ารีรอกันเสียที่ไหน?ลากเอานางออกไปข้างนอก

ในตอนที่ฉุดกระชากลากถูไปที่ด้านนอกห้องหนังสือนั้น พลันก็เห็นหลีโม่และหยางมามากำลังเดินเข้ามา

หยางมามาพอเห็นหวั่นหุ้ยที่ร้องห่มร้องไห้ถูกลากออกมานั้น ก็พอจะเข้าใจว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้น สีหน้าของนางเยียบเย็นแล้วพูดขึ้นว่า “คนชั้นต่ำไม่รักศักดิ์ศรี!”

หวั่นหุ้ยเมื่อเห็นหลีโม่เข้า ก็รีบปีนป่ายลุกขึ้นอ้อนวอนต่อนาง “พระชายา หม่อมฉันผิดแล้ว ผิดไปแล้ว ขอพระองค์บอกกับท่านอ๋องว่าอย่าไล่หม่อมฉันไปเลยนะเพคะ”

หลีโม่จ้องนาง พูดกับองครักษ์ว่า “เอาส่งกลับไปที่ตำหนักหลานรั่ว”

“พ่ะย่ะค่ะ!”

เมื่อหวั่นหุ้ยเห็นว่าหลีโม่ไม่ได้ขับไล่นาง สีหน้าก็ผ่อนคลายลงในทันที มือกำหมัดเอาไว้แน่น ขอเพียงแค่นางยังอยู่ในตำหนัก อย่างไรก็จะต้องมีโอกาส

ในตอนที่องครักษ์ลากนางไปแล้วนั้น หยางมามาก็พูดขึ้นอย่างไม่เข้าใจว่า “พระชายา ทำไมพระองค์ถึงยังปล่อยให้นางอยู่ในตำหนัก?ผู้หญิงคนนี้เป็นตัวหายนะ”

หลีโม่มองไปที่หยางมามา พูดขึ้น “ข้อแรกเลยนะ บัดนี้พวกเรายังไม่รู้ว่าคนที่ลงมือวางยาข้าเป็นใคร ถ้าหากว่าเป็นหวั่นหุ้ยล่ะ?ข้อสอง นางเป็นคนของฮองไทเฮา ต่อให้นับว่าส่งนางออกไป ก็ต้องส่งกลับไปหาฮองไทเฮาอยู่ดี”

“แต่ ถ้ายังปล่อยให้นางอยู่ที่นี่……”หยางมามาชำเลืองมองที่หลีโม่ คิดอยากจะพูดว่าหวั่นหุ่ยเป็นหญิงเจ้าเล่ห์ กลัวว่าจะทำให้ท่านอ๋องติดกับ แต่คิดถึงว่าในเมื่อท่านอ๋องไล่ให้นางไปแล้ว ก็ไม่มีทางที่จะเป็นเช่นนั้นได้

หลีโม่ยิ้มแล้วพูดขึ้น “มามา ข้ารู้ว่าเจ้าคิดอะไร แต่ว่า ข้าไว้ใจท่านอ๋อง”

หยางมามาพยักหน้า “เพคะ หม่อมฉันเองก็เชื่อใจท่านอ๋อง”

หลีโม่พยักหน้า “เจ้าไปทำอาหารให้พระองค์เถอะ ข้าจะไปกินอาหารร่วมกับเขา พูดคุยด้วยสักพัก”

“เพคะ!”พอหยางมามาได้ยินว่าทั้งสองจะพูดคุยเพื่อเชื่อมความสัมพันธ์ให้แน่นแฟ้น ก็รู้สึกดีอกดีใจ รีบออกไปในทันที

หลีโม่เดินเข้าไปในห้องหนังสือ เมื่อเห็นว่าสีหน้าของซือถูเย้นยังเขียวคล้ำด้วยความโกรธ ก็หัวเราะแล้วพูดขึ้น “ไม่ได้รู้จักเข้าอกเข้าใจผู้หญิงเลยสักนิด”

ซือถูเย้นกลอกตามองนาง “รสนิยมของข้ายังไม่แย่ถึงขนาดนั้นหรอก”

หลีโม่ก้าวเข้าไป เอาข้อศอกยันไว้บนโต๊ะยกมือขึ้นเท้าแก้ม “พูดเช่นนี้แล้ว ข้านับว่าเป็นของรสนิยมดี?”

“ก็พอไหวอยู่”ซือถูเย้นหยิบเอาบัญชีมาเคาะที่หัวนาง “กระดูกไปทั้งตัวแบบนี้ ถ้ามีเนื้อหมูมาหน่อย ก็ดีขึ้นมากโข”

หลีโม่หัวเราะแหะ ๆ ออกมา “เจ้าอย่าได้พูดไป มีบางยุคบางสมัย ที่นับว่ามีแต่กระดูกแบบนี้แหละถึงจะสวย”

“มีบางสมัย?”ซือถูเย้นจ้องมองไปที่นาง ปล่อยสมุดบัญชีในมือลง “หลีโม่ ระหว่างพวกเราทั้งสอง มีเรื่องก็ต้องพูดกันอย่างเปิดอกนะ”

“อืม?”เมื่อหลีโม่เห็นว่าเขาดูจริงจังขึ้นมาในทันใด ก็ปรับสภาพอารมณ์ให้ดูเหมาะสม

ซือถูเย้นหยัดกายลุกขึ้น ดึงให้นางนั่งลงบนเก้าอี้ พูดขึ้นว่า “อันดับแรกเลยนะ ข้ามีเรื่องหนึ่งที่จะพูดกับเจ้าอย่างตรงไปตรงมา หวังว่าเจ้าจะให้อภัยข้าได้”

“เจ้าทำอะไรหรอ?”ในหัวของหลีโม่ประมวลผลอย่างรวดเร็ว ลางสังหรณ์กำลังทำงานขึ้น คงไม่ใช่ว่า เมื่อครู่โดยหญิงชั้นต่ำนั้นเขมือบไปแล้วหรอกนะ?

ซือถูเย้นกระแอมคอให้โล่ง “คือว่า เรื่องพิษท่งหมิง เจ้ารู้เรื่องใช่ไหม?”

“อืม!”เมื่อหลีโม่ได้ยินเขาพูดเรื่องพิษทงหมิงออกมา พลันก็รู้สึกหนักอึ้งขึ้นในใจ

ใช่น่ะสิ ตอนนี้ยังหาวิธีแก้พิษท่งหมิงไม่ได้

“พิษประเภทนี้ ร้ายกาจ รุนแรงยิ่งนัก เอาจริง ๆ ก็ดูเหมือนว่าจะไม่มีวิธีที่จะแก้พิษได้ เชื่อว่าเจ้าเองก็คงจะถามซุนฟางเอ้อร์แล้ว ซึ่งซุนฟางเอ้อร์เองก็จะเป็นตัวหลักในการแก้พิษ แต่ว่า แม้กระทั่งตัวนางเองก็ยังไม่มีอะไรที่รับประกันว่าจะสามารถทำได้ ”

หลีโม่กุมมือของเขาเอาไว้ กระซิบพูดขึ้น “พวกเราจะต้องคิดหาวิธีได้ ไม่สำคัญหรอก”

ซือถูเย้นอ้าปากขึ้น นัยน์ตาฉายแววสับสน

ประโยคนี้ ก็ยิ่งพูดไม่ออก

“หมอเวินทิ้งหนังสือแพทย์เอาไว้ ข้ายังอ่านไม่จบ บางที หนังสือแพทย์เล่มนี้ของนางจะมีบันทึกวิธีแก้พิษ ดังนั้น เจ้าไม่ต้องกังวลใจไป”

ซือถูเย้นมองคิ้วที่ขมวดจนเป็นปมของนาง ก็ยกมือขึ้นไปลูบปัดไปมา “ข้าเชื่อเจ้า ว่าเจ้าจะต้องคิดหาวิธีได้ แต่อย่าเหนื่อยให้มันมากนัก เพราะว่า……ข้ารู้ว่าจะแก้พิษท่งหมิงได้อย่างไร”

หลีโม่เบิกตาโตจ้องมองที่เขา “เจ้าว่ายังไงกันนะ?เจ้ารู้วิธีแก้พิษท่งหมิง?”

“ไม่ใช่ข้าที่รู้ ข้ารู้ว่ามีคนรู้”

“ใครกัน?”

“อาเซ่อกูกู!”

“ทำไมไม่รีบพูด?”หลีโม่กระโดดลุกขึ้น “พวกเรารีบไปหานางกัน”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พิษรักองค์ชายโฉมงาม