พิษรักองค์ชายโฉมงาม นิยาย บท 745

บทที่ 745 ค้นเจอหลักฐาน

หลีโม่สั่งหวังจุ้นค้นสถานที่พักของซุนมามา แล้วก็ค้นพบเงินหนึ่งร้อยตำลึงกับปิ่นปักผม

ปิ่นปักผมอันนี้หยางมามาเอามาตรงหน้าหลีโม่ นางพูดว่า “ปิ่นปักผมอันนี้ บ่าวเคยเห็น เป็นของหมุยเฟยเหนียงเหนียง”

ปิ่นเงินกิ๊บหางหยกนี้ ไม่ถือว่าล้ำค่า แต่ฝีมือการทำประณีต เป็นของที่มาจากในวัง

ปิ่นอันนี้ หลีโม่เคยเห็นหมุยเฟยสวม แต่เพราะเป็นรูปแบบปิ่นธรรมดา เหนียงเหนียงในวังใครๆก็มี

“พระชายา จะให้ลงโทษนังบ่าวนั่นอย่างไรดี?” หวังจุ้นถาม

หลีโม่พูดว่า “ขังไว้ก่อน”

“ขอรับ” หวังจุ้นรับคำ

กลับมาถึงวังเหอสวี้ ยังไงหลีโม่ก็นอนไม่หลับ

นางไม่ได้เชื่อหมุยเฟย นางไม่เชื่อว่าหมุยเฟยจะหายาแบบนี้ได้ หมุยเฟยอยู่ในวังไม่มีอำนาจอะไร ทางตระกูลก็ไม่ให้ความช่วยเหลือ อยากได้เงินก็ไม่มีเงินให้ อยากได้อำนาจก็ไม่มีอำนาจให้ได้พึ่งพา และนางก็ไม่ได้โง่ขนาดนี้ รู้ทั้งรู้ว่าสถานการณ์ตอนนี้ค่อนข้างคับขัน เอายังจะหาเรื่องให้กับตัวเองในเวลาแบบนี้หรือ

“พระชายา เกรงว่าองค์หญิงจะตรงไปหาหมุยเฟย” หยางมามาพูด

หลีโม่คิดอยู่ประเดี๋ยว “ไม่เป็นไร ให้นางไปเถอะ”

“แต่หากองค์หญิงไป แล้วหมุยเฟยเหนียงเหนียงบริสุทธิ์ใจ เกรงว่าจะนางจะเปลี่ยนใจ” หยางมามาพูดขึ้นอย่างเป็นกังวล

“หากนางไม่ได้ทำจริงๆ ก็หนีไม่พ้น นางจะเกลียดเท่านั้น เกลียดคนที่ใส่ร้ายนางอยู่เบื้องหลัง เรื่องนี้ หากข้าเดาไม่ผิด จะต้องมีคนหลอกใช้นาง ตงหมุยนั่น คงจะหักหลังนานแล้ว”

หลีโม่ร้องเรียกว่า “หลิงลี่”

“เพคะ” หลิงลี่เข้ามาทางประตู

“เจ้าไปสืบประวัติตงหมุย ดูว่าก่อนหน้านี้นางรับใช้อยู่ที่ไหน”

หลิงลี่พูดว่า “ไม่ต้องไป เป็นคนในตำหนักหมุยเฟย ข้าสืบมาหมดแล้ว เดิมตงหมุยเป็นคนบ่าวใช้ทำความสะอาดในวังคนหนึ่ง ต่อมาได้เข้าไปรับใช้ในตำหนักเล่อชิง แต่ก็ทำเพียงพวกงานหนักๆ เดือนเจ็ดเมื่อปีที่แล้ว หมุยเฟยเหนียงเหนียงลื่นล้มข้างทะเลสาบ นางแบกหมุยเฟยเหนียงเหนียงกลับมา ตั้งแต่ครั้งนั้น ก็ได้เข้าไปรับใช้ในตำหนัก เมื่อสองเดือนก่อน ได้ถูกยกให้เป็นหัวหน้าดูแลตำหนักเล่อชิง”

“ไม่เคยรับใช้คนอื่นในวัง?”

“ไม่เคย”

หลีโม่แอบสงสัย บ่าวใช้ทำความสะอาดคนหนึ่ง กลับเพียงช่วงเวลาสั้นๆภายในหนึ่งปี สามารถได้ขึ้นเป็นหัวหน้าดูแลตำหนักเล่อชิง?

นี่เป็นการได้ขึ้นตำแหน่งอย่างผิดปกติ หมุยเฟยน่าจะไม่สามารถขึ้นตำแหน่งนางได้ด้วยตัวเอง บ่าวใช้นางกำนัลในวังล้วนต้องคำนึงถึงการมาก่อนการมาทีหลัง

และนางเคยไปตำหนักเล่อชิง เหมือนจะไม่เคยเห็นตงหมุยคนนี้ อย่างน้อย คนที่รักใช้ภายในตำหนัก ไม่มีตงหมุย ล้วนเป็นบ่าวใช้คนก่อนของหมุยเฟย

อีกอย่าง นางชื่อตงหมุย รับใช้หมุยเฟย กลับไม่มีการลบหลู่ชื่อหรือ?

“ใครเป็นคนยกให้ตงหมุยเป็นหัวหน้านางกำนัล?” หลีโม่ถามขึ้น

“ฮ่องเต้”

ดวงตาหลีโม่ประกายแววเยือกเย็น ฮ่องเต้? จะเป็นเขาไหม?

“ทำไมฮ่องเต้ถึงได้แต่งตั้งให้ตงหมุยเป็นหัวหน้านางกำนัล?”

หลิงลี่พูดว่า “เห็นบอกว่าตอนที่หมุยเฟยเอาน้ำซุปไปถวายฮ่องเต้ แล้วพานางไปด้วย พอดีกับที่ฮ่องเต้กำลังมีเรื่องให้หงุดหงิดที่จะต้องตัดสินเกี่ยวกับเรื่องการเมือง จึงได้พูดคุยกับหมุยเฟย หมุยเฟยคิดอะไรไม่ออก แต่ตงหมุยกลับเสนอความคิดเห็นที่ดี ฮ่องเต้ประทับใจ จึงยิ้มพูดกับหมุยเฟยว่า ทางกายเจ้ามีคนฉลาดหลักแหลม ดีกว่าหัวหน้านางกำนัลในตำหนักเล่อชิงในตอนนี้มาก อีกอย่าง ชื่อตงหมุยนี้ ก็เป็นชื่อที่ฮ่องเต้ประทานให้”

“อืม?” ทำไมฮ่องเต้ต้องประทานตั้งชื่อให้กับบ่าวใช้คนหนึ่ง

“ใช่ บอกว่านางมีรูปร่างหน้าตาเหมือนดั่งดอกเหมยในหิมะฤดูหนาว งดงามอย่างมีความภาคภูมิใจ”

“ฮ่องเต้ทำแบบนี้ เหมาะสมหรือ? ประทานชื่อว่าตงหมุย นี่ไม่เป็นการต้องห้ามไปแล้วหรือ?”

“ฮ่องเต้คงไม่ได้คิดถึงจุดนี้ในทันใด เมื่อพูดออกไปแล้ว ก็เอากลับมาไม่ได้แล้ว” หลิงลี่พูดขึ้น

หลีโม่คิดถึงก่อนหน้านี้ที่ไปหาหมุยเฟย ก็ไม่เห็นหัวหน้านางกำนัลคนนี้ หากหมุยเฟยเห็นความสำคัญนางจริงๆ ก็ต้องเรียกนางเข้ามารับใช้ในตำหนัก แต่ก็ไม่เห็นมี

แสดงว่า หมุยเฟยยกนางให้เป็นหัวหน้านางกำนัล ก็ไม่ได้เป็นไปด้วยความเต็มใจ

“หลิงลี่ เจ้าเชื่อหมุยเฟยไหม?” หลีโม่ถาม

หลิงลี่คิดอยู่ครู่หนึ่ง “ไม่รู้ ในวังหลังนั้นน้ำลึก และก่อนหน้านี้หมุยเฟยเหนียงเหนียงก็เคยทรยศเจ้า จะทรยศอีกครั้งก็ไม่ใช่เรื่องแปลก”

“แต่ในตอนนี้ นางทรยศข้า ไม่ได้มีผลดีอะไรกับนางเลย นางจะทำอะไรที่เป็นการเสียผลประโยชน์ทำไม?”

หากมีผลประโยชน์ต่อหมุยเฟยเพียงสักนิด ความสงสัยนี้ถึงจะเป็นจริง

คงจะไม่ใช่เพราะอารมณ์ชั่ววูบ เกิดอยากวางยาพิษนางก็เลยวางยาพิษ

ยังจะอ้อมโลกขนาดนี้อีกล่ะ

เพราะก่อนหน้านี้หมุยเฟยเคยทรยศหักหลังหลีโม่ คนรอบข้างนางจึงล้วนไม่ไว้ใจหมุยเฟย

ดังนั้น หลีโม่จึงไม่กล้าพูดเข้าข้างหมุยเฟย ทำให้หยางมามากับหลิงลี่ต่างก็เป็นห่วงว่าหลีโม่จะหลงกลอีกครั้ง

เพียงแต่ ทั้งสองคนก็ไม่ได้พูดอะไรที่เป็นการกระตุ้น

หลีโม่ครุ่นคิดอยู่นาน เอาปิ่นยื่นให้หลิงลี่ “เจ้าไปตำหนักองค์หญิง เอาปิ่นนี้ให้องค์หญิง บอกว่าค้นได้มาจากซุนมามา”

หลิงลี่อึ้ง “พระชายา เจ้าจะให้องค์หญิงหมุยเฟยไปหาหรือ?”

หลีโม่พยักหัว “ใช่ หากเรื่องนี้เป็นหมุยเฟยกระทำจริงๆ องค์หญิงไปอาราวาด ใช่ว่าจะไม่ได้ หากเรื่องนี้ไม่ใช่หมุยเฟยทำ แบบนั้น คนที่อยู่เบื้องหลังก็ต้องการที่จะยิงธนูนัดเดียวได้นกสองตัว ใส่ร้ายหมุยเฟยและก็ทำร้ายข้า งั้นก็ให้คนคนนั้นคิดว่าตนเองทำสำเร็จแล้ว”

หลิงลี่พยักหัว “เข้าใจแล้ว ข้าจะไปเดี๋ยวนี้”

หลังจากที่ซือถูจิ้งกลับมาแล้วก็ยังคงโกรธมาก ฉินจือพูดปลอบอยู่หลายคำก็ไม่ฟัง ฉินจือจึงไม่รู้จะทำยังไง ได้แต่ออกไปต้มชาสงบจิตใจมาให้นางดื่ม

“องค์หญิงยังโกรธอยู่ พูดปลอบยังไงก็ไม่ฟัง” ฉินจือให้โฉงหวาไปเอายามา พร้อมถอนหายใจพูด

“องค์หญิงคงเบื่อมากแล้ว เรื่องพวกนี้ไม่จบไม่สิ้นเสียที แต่ก็เป็นห่วงพระชายา พระชายาทำอะไรเพื่อต้าโจวบ้าง ทุกคนต่างก็เห็น ทำไมถึงไม่ได้รับผลตอบแทนที่ดี?” โฉงหวาก็พูดบ่นขึ้น

“ใช่ไหมล่ะ? ไม่รู้ว่าชาติก่อนพระชายาไปทำอะไรไว้ ชาตินี้ถึงต้องมาเจอแต่เรื่องวุ่นวายขนาดนี้”

โฉงหวาลังเลอยู่ประเดี๋ยว แล้วสุดท้ายก็ไม่พูดอะไร

ฉินจือเห็นนางอยากพูดก็พูดไม่ออก จึงพูดขึ้นว่า “เป็นอะไร?”

โฉงหวามองดูรอบๆ แล้วกระซิบพูดว่า “วันนี้ข้าออกไปซื้อของ ได้ยินคนในร้านชาพูดกันว่าพระชายาเป็นสุนัขจิ้งจอกกลับชาติมาเกิด เป็นภัยต่อประเทศ”

ฉินจือโกรธมาก “ใครกันที่พูดเหลวไหลแบบนี้? ไม่กลัวปากเน่าหรือ?”

“เฮ้อ เรื่องนี้หากองค์หญิงรู้เข้า องค์หญิงคงโกรธแย่แน่”

“เจ้าอย่าบอกองค์หญิงเป็นอันขาด”

“รู้แล้ว ข้าจะกล้าพูดหรือ?” โฉงหวาเงียบสักพัก แล้วพูดว่า “เห็นว่าคำร่ำลือพวกนี้ถูกพูดกันมาทางด้านฉื้อโจว พอดีที่ท่านอ๋องก็ไปฉื้อโจว ไม่รู้ว่าไปสืบเรื่องนี้หรือเปล่า?”

“ช่างเหลวไหลจริงๆ ประชาชนคงไม่เชื่อมั้ง?” ฉินจือพูดไปด้วย แล้วก็เป็นห่วงขึ้นมา

“หากพูดเพียงคนเดียว คงไม่เชื่อแน่ แต่ใครๆก็พูดแบบนี้ ยังไงก็ต้องมีคนเชื่อ คำร่ำลือก็เป็นแบบนี้อยู่แล้ว”

ทั้งสองคนต่างก็เป็นกังวล คิดไม่ถึงว่า เรื่องหนึ่งยังไม่ทันสงบก็เกิดอีกเรื่องหนึ่งแล้ว

หลังจากที่ต้มชาสงบจิตใจเสร็จแล้ว หลิงลี่ก็มาถึง

ซือถูจิ้งกำลังเพิ่งดื่มชา ก็เห็นหลิงลี่มาถึง จึงพูดขึ้นอย่างประชดว่า “เจ้านายของเจ้าใช้ให้เจ้ามาพูดโน้มน้าวข้าหรือ? เจ้ากลับไปบอกนาง นางจะทำตัวเป็นเต่าหัวหด ข้าไม่เป็น พรุ่งนี้เช้า ค่าจากไปตำหนักเล่อชิง”

หลิงลี่ยิ้มพูดว่า “องค์หญิงเข้าใจผิดแล้ว พระชายาไม่ได้ใช้ให้ข้ามา ข้ามาเองต่างหาก ยังไงพระชายาก็ยังคงเชื่อหมุยเฟย เพียงแต่พวกข้ากลับไม่เชื่อ”

นางหยิบปิ่นออกมา ยื่นให้องค์หญิง “ปิ่นอันนี้ ข้าเคยเห็นหมุยเฟยสวมใส่ คนได้มาจากห้องของซุนมามา ซุนมามาก็ให้การสารภาพว่า หมุยเฟยให้นางหนึ่งร้อยตำลึงกับปิ่นอันนี้เป็นการตอบแทนในการวางยาพิษ”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พิษรักองค์ชายโฉมงาม