ตอนที่ 776 ลงมือคืนนี้เลย
อ๋องเย่เอาแผนที่วังหลวงออกมา แล้วก็ตั้งใจวิเคราะห์ตำหนักซีเวย
“จริงๆ แล้วพวกเราจะต้องป้องกัน มือธนู ถึงแม้องครักษ์จะมีฝีมือมากมาย แต่พวกเราก็สู้ได้ ถ้าเทียบกันแล้ว พวกเราเก่งกว่า แต่ว่า อาวุธของพวกเรา ไม่สามารถสู้ทหารองครักษ์ได้ เพราะว่า ถ้าทางนั้นเตรียมมือธนูไว้ พวกเราก็จะถูกพบโดยง่าย”
ซือถูเย้นพยักหน้า “ใช่แล้ว ดังนั้น ข้าก็เลยเตรียมเสื้อเกราะอ่อน คนที่เข้าไปข้างใน จะต้องใส่เสื้อเกราะอ่อน เหล็กที่ใช้ทำอาวุธให้ทหารในวังเป็นเหล็กกล้า มันแข็งแรงและคมมาก ป้องกันเพิ่มไว้ ก็ไม่เสียหาย”
อ๋องเย่มองเขา แล้วพูดว่า “จริงๆ แล้ว ข้าคิดว่า พี่เจ็ดไม่ต้องไปเอง”
ซือถูเย้นส่ายหัว “ไม่ได้ ข้าคุ้นเคยกับตำหนักซีเวยดี คนตึกเสหานของเจ้ามองแค่แผนที่ กลัวจะผิดพลาด ให้ข้านำเข้าไป จะได้บาดเจ็บน้อยลง”
“แต่ว่า ถ้าเจ้าเป็นอะไรไป แล้วข้าจะอธิบายกับพี่สะใภ้เจ็ดอย่างไร” อ๋องเย่กังวล
“วางใจเถอะ พวกนั้นทำอะไรข้าไม่ได้” ซือถูเย้นปลอบ
อ๋องเย่ก็นิ่งไป แล้วก็ถอนหายใจ “แต่ว่า ถ้าเช่นนั้น ความสัมพันธ์ของเรา กับฝั่งนั้น ก็คงจะกลับมาเป็นเหมือนเดิมไม่ได้แล้ว”
ซือถูเย้นก็ไม่ตอบอะไร ครู่หนึ่ง ก็พยักหน้า “ใช่!”
อ๋องเย่ก็พูดอย่างหัวเราะผสมเสียดาย “คิดถึงครั้งนั้น เขาเป็นพี่ชายที่ดีมาก ทำไมถึงยังมีภาพตอนเด็กๆ ลอยมาตรงหน้า พอผ่านไป ก็เปลี่ยนไปเป็นคนละคน”
“คนเราก็ต้องมีเปลี่ยนบ้าง” ซือถูเย้นดูสัญลักษณ์ในแผนที่ มีแต่จุดสีแดงๆ และจุดแดงๆ นั้นก็ทำให้เขาคิดอะไรขึ้นได้
เขาก็ไม่อยากเป็นแบบนี้ วันที่แสนสบาย ใครก็อยากเสพสุข แต่มันทำไม่ได้ และพยายามเป็นแบบนั้นก็ไม่ได้
ครั้งนี้ เขาทำเพื่อผู้หญิง ตายก็ไม่เสียดาย
เพียงแต่ทำเพื่อหลีโม่และลูก ถึงอย่างไรเขาก็ต้องป้องกันตัวเองด้วย
“อืม ไม่อยากคิดเรื่องอดีต พอคิดขึ้นมาก็ใจอ่อน เดี๋ยวจะทำการใหญ่ไม่ได้ พวกเรามีประชุมกัน ว่าคืนพรุ่งนี้จะจัดการอย่างไร” อ๋องเย่ตั้งสติอีกครั้ง
“ตอนนี้ในวังวางกำลังทหารเป็นเวลา หนึ่งวันแบ่งเป็น3กะเวรยาม แสดงว่า พวกเราจะหลบจากสายตามือธนูไม่ได้ แต่ว่า ตอนที่เปลี่ยนเวรยาม มีช่องว่างประมาณครึ่งก้านธูป พวกเราจะอาศัยจังหวะนี้ แยกเป็นสามทาง บุกทางด้านหน้า ด้านข้าง และทางหลังคา”
อ๋องเย่พยักหน้า คิดว่าเขาวิเคราะห์ได้ถูกมาก เพราะว่ามือธนูจะฟังคำสั่งคนเดียว ถ้าแยกเป็นสามทาง มือธนูก็จะสับสนง่าย จะทำให้ลดความรุนแรงของกำลังทหารมือธนูไปได้ และเพิ่มโอกาสให้ฝั่งเรา
ซือถูเย้นพูดต่อ “พวกเราแบ่งเป็นสามกอง แต่ข้าจะนำจำนวนหนึ่งไปด้วย ให้คนทั้งสามกองนั้น ป้องกันให้พวกข้าไปช่วยคน พอช่วยได้ ก็รีบถอย ไม่ยืดเยื้อ เรื่องนี้ เจ้าต้องพูดกับคนของเจ้าให้เข้าใจ”
ชาวยุทธ มักจะชอบการฆ่าฟัน ถ้ามัวมาโกรธที่เพื่อนตนถูกฆ่า ก็จะทำให้บาดเจ็บกันมากขึ้น
อ๋องเย่เห็นเขาวางแผนการทหารได้อย่างแยบยล ในใจก็ถอนหายใจ ถ้าฮ่องเต้ใช้การเขา เขาก็จะเป็นแม่ทัพที่ไม่มีใครสู้ได้ ขอแค่มีเขา ก็ไม่มีศัตรูไหนมารุกราน
เพราะเขาเป็นยอดฝีมือทางการทหาร
“เป็นอะไรไป?” ซือถูเย้นพูดไปพูดมา ก็เห็นเขาเหม่อไป ก็เลยคิดว่าไม่เห็นด้วยกับแผนตน “ถ้าเจ้าคิดอย่างไร ก็พูดออกมา พวกเราจะได้เอาแผนที่ดีที่สุดไปโจมตี”
อ๋องเย่ทำหน้ายิ้มๆ “ไม่มี ข้าแค่คิดว่า ตอนนั้นท่านพ่อมองเจ้าไม่ผิดจริงๆ เจ้าเป็นคนเก่งรอบด้านจริงๆ”
พอนึกถึงท่านพ่อ ก็ทำให้ใจซือถูเย้นนิ่งลงไปบ้าง
คำที่ท่านพ่อสอน ยังคงดังอยู่ข้างหู “พวกเจ้าล้วนเป็นลูกหลานตระกูลซือถู ต้องจำไว้ ว่า พี่น้องกัน ต้องไม่ทำร้ายกันเอง แต่เย้นเอ๋อร์ยังเล็กไม่รู้ความ จำคำข้าไว้ ต่อไปจะต้องช่วยเหลือพี่เจ้า พี่เจ้าเป็นคนใจดี จะต้องดูแลเจ้าอย่างดีแน่”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พิษรักองค์ชายโฉมงาม
จบแบล้วววววว...
900 ตอนแล้ว ชีวิตของหลีโม่แทบหาความสุขไม่เจอเลย แถมลูกก็ถูกคนอื่นเอาไปทิ้งอีก สงสารจับใจ...
ตะว่าไปเรื่องนี้หมุยเฟยกับฮ่องเต้เลวร้ายแบบกินกันไม่ลงนะ ทำร้ายทุกคนที่ดีกับตัวเอง แล้วแางว่าจำเป็นๆ กลับเป็นพวกอี๋เฟยซะอีกที่แย่งแยกพวกำองชัดเจนไปเลย หมุยเฟยนี่นับว่าเป็นคนที่ได้ดีจากการเนรคุณผู้คนรอบข้างโดยแท้...
ฮ่องเต้กับลู่กงกงนี่ ตอนตายคงมีกันแค่ 2 คนละนะ...
อี๋เฟยนี่คือนางฉลาดสุดละในบรรดาเมียของเต้...
ท่านซือถูเย่นใจเย็นๆจากสุราก่อนเจ้าค่ะ สนใจยัยน้องด่วนเด่วจะโดนมิใช่น้อย55555...
โธ่ๆท่านซือถูเย่น เค้าลางกลัวว่าที่ภรรยาในอนาคตมาแต่ไกล รีบซ่อนสุราเลยนะ แต่ไม่น่าจะทัน หลอกใครก็หลอกได้แต่ไม่ใช่กับแม่นางหลีโม่555555...