ตอน ตอนที่ 778 หมุยกุ้ยเฟย จาก พิษรักองค์ชายโฉมงาม – ความลับ ความรัก และการเปลี่ยนแปลง
ตอนที่ 778 หมุยกุ้ยเฟย คือตอนที่เปี่ยมด้วยอารมณ์และสาระในนิยายโรแมนซ์ พิษรักองค์ชายโฉมงาม ที่เขียนโดย ใบไม้แดง เรื่องราวดำเนินสู่จุดสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยใจตัวละคร การตัดสินใจที่ส่งผลต่ออนาคต หรือความลับที่ซ่อนมานาน เรียกได้ว่าเป็นตอนที่นักอ่านรอคอย
ตอนที่ 778 หมุยกุ้ยเฟย
ซางชิวพูดอย่างลังเลว่า “แต่ว่า จุดประสงค์ของฮ่องเต้ พวกเราเข้าใจดี ถ้าไท่ฮองไท่เฮากลับมา แล้วรู้ว่าอ๋องซื่อเจิ้งอยู่ในมือของฮ่องเต้แล้ว กลัวว่า......”
“กลัวอะไร?” อ๋องหนานหวยยิ้ม “ไท่ฮองไท่เฮาแก่มากแล้ว เจ้าคิดว่านางจะรู้ทันไปเสียทุกอย่างหรือ? ไม่มีใครเห็นข้าลงมือ แล้วจะมาสงสัยข้าหรือ? ข้าไม่ยอมรับเสียอย่าง นางจะทำอะไรได้?”
“แต่กลัวว่า มันจะพลาด” ซางชิวก็ยังคิดว่า ไท่ฮองไท่เฮาไม่ธรรมดาอยู่ดี
อ๋องหนานหวยม้วนแขนเสื้อ แล้วก็กวาดสายตามองซางชิวนิ่งๆ “ผู้ตนต่างก็บอกว่า เมื่อก่อนมือของไท่ฮองไท่เฮาร้ายกาจเพียงไหน แต่ข้าก็ยังไม่เคยเห็น ก็แค่ผู้หญิงคนเดียว ต้องอาศัยคนอื่นคลอดลูกให้ แล้วไต่เต้าได้เป็นใหญ่ กลายเป็นที่เคารพของแคว้นเรา ทั้งฮ่องเต้ฮู่ยจู่ ทั้งท่านพ่อ ต่างก็ยอมฟังนาง ข้าไม่เชื่อ ว่าผู้หญิงคนเดียว จะกลายเป็นเทพได้เชียวหรือ? ข้าอยากเห็นฝีมือนาง”
เขาเองก็เคยเชื้อฝีมือของไท่ฮองไท่เฮา เชื่อข่าวลือพวกนั้น แต่ว่า นานเข้า เขาก็คิดว่า ถ้าเก่งจริง ทำไมไม่ออกมาช่วยเหลือเมืองที่กำลังวุ่นวาย
อีกอย่าง ถ้านางสามารถช่วยไอ้ฮ่องเต้ชั่วนั้นได้ แล้วทำไมถึงยังอยู่เฉย
อย่างมาก ก็เป็นแค่ข่าวลือ บางเรื่อง เล่าต่อกันจนกลายเป็นนิทานไปเสียแล้ว
สมน้ำหน้าไอ้ฮ่องเต้ชั่วนั่น ทำเรื่องไว้มากมาย บังคับให้นางกลับ โดยคิดว่านางจะช่วยตนเอง สงสัยจะป่วยจนเลอะเลือนไปแล้ว
แต่ซางชิวไม่ได้คิดแบบนั้น ในทางวิชาการของเขา มีตำนานอีกแบบหนึ่ง
ในสามโลกนี้ มีหญิงที่คอยดูแลกฎหมาย จะมีขึ้นทุก500ปี แซ่หลง มือถือไม้เท้ามังกร แล้วก็มีคุกน้ำ มีไว้เพื่อลงโทษพวกปีศาจทำผิด
ถึงแม้นี่จะเป็นตำนาน แต่ว่า ถูกสืบทอดต่อมาในสายวิชาชีพของเขา ก็ต้องมีส่วนจริงอยู่บ้าง
ไท่ฮองไท่เฮาก็มีแซ่ หลง มีความอดทนสูง ถ้านางเป็นผู้หญิงตามตำนานที่ว่าละก็ ก็อาจจะเป็นไปได้
500ปี มันจะดูเกินไป บางทีอาจจะเป็น100ปี
อ๋องหนานหวยรู้ว่าซางชิวมีแผน แต่ว่า เขาเองก็ไม่คิดว่าตนเองคิดผิด เพียงแต่สั่งไปว่า “เสื้อผ้าที่คนของตึกเสหานจะใส่คืนนี้ พวกเจ้ารู้แล้วใช่ไหม?”
“ทราบหมดแล้ว”
“อืม ให้คนของเราเตรียมตัว ตอนที่เข้าวัง ก็แทรกซึมเข้าไปในกลุ่มพวกนั้น แต่ว่า ต้องจำไว้ ว่าจะมีจุดสังเกต จุดนี้มีแต่พวกเราที่รู้ ฝั่งตรงข้ามไม่รู้ ข้าอยากให้พวกมันเข่นฆ่ากับทหารองครักษ์ และเข่นฆ่ากันเอง” อ๋องหนานหวยพูดอย่างเลือดเย็น
“รับทราบ กระหม่อมจะไปเตรียมตัวเดี๋ยวนี้” ซางชิวขอตัวออกไป
เรื่องมาถึงขั้นนี้ ไม่ว่าจะอย่างไรก็ตาม ก็ต้องทำตามแผนแล้ว
ถึงกระนั้น ครั้งนี้ซางชิวก็รู้สึกสังหรณ์ใจไม่ดี
วันนี้ เขาก็ทำนายดวงชะตาดู กลับพบว่า ดวงของท่านอ๋อง เกิดการเปลี่ยนแปลง
หรือที่เข้าวังครั้งนี้ จะเป็นเหตุให้ดวงเปลี่ยน?
เขาเองก็ไม่รู้ แต่ว่า น่าจะเกี่ยวข้องกัน
ถ้าครั้งนี้พ่ายแพ้ ท่านอ๋อง ก็คงจะลุกขึ้นสู้อีกไม่ไหวแล้ว
ซางชิวถอยหายใจเบาๆ เดิมที ตอนที่ติดตามท่านอ๋อง คิดว่าเขาเป็นมองการไกล แล้วมีพระคุณที่ช่วยชีวิตเขา ตอนที่ตรวจดวงชะตาดู พบว่า เขามีดวงเป็นฮ่องเต้
เขาเองก็รู้ คนที่มีดวงฮ่องเต้ปรากฏ ก็ไม่แน่ว่าจะเป็นฮ่องเต้ แต่ว่า อย่างน้อยก็ยังมีโอกาส ต้องคว้าไว้ก่อน อาจจะสำเร็จ
ดังนั้น เขาก็เลยติดตามท่านอ๋อง จากแดนหนานโก๋วมาจนถึงเมืองหลวง ช่วยเป็นกุนซือให้ แต่กุ้ยไท่เฟยมาแพ้ไป เขาคิดว่า นี่อาจจะเป็นโอกาสเดียวในชีวิตของท่านอ๋อง แต่ไม่ได้คว้าไว้
ช่างเถอะ ถ้าแพ้ ก็ถือว่าทดแทนบุญคุณที่ช่วยชีวิต สนองความบ้าคลั่งของเขาครั้งสุดท้าย
นางพูดไป ก็สะอื้นไป แล้วก็กลั้นไว้ ไม่ได้ปล่อยโฮออกมาแรง
ความอดทนเช่นนี้ ฮ่องเต้เห็นก็พอใจ เพียงแต่นางบอกว่า ไม่เคยไม่ได้รับความรัก มันก็แน่นอน เพราะนางไม่เคยได้รับความรักเลย
พอคิดถึงจุดนี้ ฮ่องเต้ก็บอกว่า “ฮองเฮายังอายุน้อย ไม่มีประสบการณ์ แล้ววังหลังยังมาเสียกุ้ยเฟยไปทั้งสองคน จะต้องมีคนมาดูแลวังหลังเสียหน่อย”
เขาเงยหน้าขึ้น แล้วเรียกเปากงกงมา “เจ้า มาพบกุ้ยเฟย มาๆ”
เปากงกงนิ่ง แล้วก็รีบคุกเข่าลง “กระหม่อมถวายพระพรกุ้ยเฟย”
หมุยเฟยก็ชะงัก โดยไม่อยากจะเชื่อหูของตนเอง แล้วน้ำตาก็ไหล “ฝ่าบาท..........”
นางคุกเข่าลง แล้วก็ดีใจจนร้องไห้ “หม่อมฉันขอบพระทัยฝ่าบาท!”
ฮ่องเต้ยิ้ม แล้วตบไหล่นาง พร้อมพูดว่า “ลุกขึ้นเถิด เจ้าสมควรจะได้รับมัน”
หมุยเฟยลุกขึ้น แล้วก็ทำอะไรไม่ถูก “หม่อมฉัน ฝันมานาน ในชีวิตนี้ได้มีโชคขนาดนี้ ฝ่าบาท หม่อมฉันพูดอะไรไม่ออกเลยเพคะ ขอประทานอภัย”
นางทำอะไรไม่ถูกอีก ทำให้ฮ่องเต้เอ็นดู แล้วก็ขำ “ดูเจ้าสิ อายุตั้ง30กว่าแล้ว ยังทำตัวเหมือนเด็กอีกไปได้ ก็แค่ยศกุ้ยเฟย ถ้าข้อพอใจ ข้าให้ยศฮองเฮาก็ได้ จะให้เจ้าให้หมด”
ฮ่องเต้พูดแบบนั้นออกไป ก็รู้สึกผิด แค่พูดเล่นๆ เท่านั้น แต่ถ้านางคิดจริงขึ้นมาก็จะลำบาก
หมุยเฟยก็พูดชัดๆ ว่า “ฝ่าบาท หม่อมฉันได้เป็นกุ้ยเฟย ก็ถือว่ามีวาสนามากพอแล้ว”
มิกล้าจะอาจเอื้อมเบื้องสูง
ฮ่องเต้ก็ยิ้ม “อืม เจ้าเป็นคนเข้าใจอะไรง่าย”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พิษรักองค์ชายโฉมงาม
จบแบล้วววววว...
900 ตอนแล้ว ชีวิตของหลีโม่แทบหาความสุขไม่เจอเลย แถมลูกก็ถูกคนอื่นเอาไปทิ้งอีก สงสารจับใจ...
ตะว่าไปเรื่องนี้หมุยเฟยกับฮ่องเต้เลวร้ายแบบกินกันไม่ลงนะ ทำร้ายทุกคนที่ดีกับตัวเอง แล้วแางว่าจำเป็นๆ กลับเป็นพวกอี๋เฟยซะอีกที่แย่งแยกพวกำองชัดเจนไปเลย หมุยเฟยนี่นับว่าเป็นคนที่ได้ดีจากการเนรคุณผู้คนรอบข้างโดยแท้...
ฮ่องเต้กับลู่กงกงนี่ ตอนตายคงมีกันแค่ 2 คนละนะ...
อี๋เฟยนี่คือนางฉลาดสุดละในบรรดาเมียของเต้...
ท่านซือถูเย่นใจเย็นๆจากสุราก่อนเจ้าค่ะ สนใจยัยน้องด่วนเด่วจะโดนมิใช่น้อย55555...
โธ่ๆท่านซือถูเย่น เค้าลางกลัวว่าที่ภรรยาในอนาคตมาแต่ไกล รีบซ่อนสุราเลยนะ แต่ไม่น่าจะทัน หลอกใครก็หลอกได้แต่ไม่ใช่กับแม่นางหลีโม่555555...