พิษรักองค์ชายโฉมงาม นิยาย บท 81

บทที่ 80 สืบค้นประวัติของเขาให้ถึงที่สุด

ทุกคนมองเห็นหลีโม่ผลักกุ้ยไท่เฟยโดยที่ไม่คาดคิด แล้วต่างพากันตกตะลึง

อ๋องอานชินจึงรีบเข้ามาพยุงนางทันที“ไม่เป็นไรใช่มั้ย?ไม่ได้ล้มลงไปใช่หรือมั้ย?”

กุ้ยไท่เฟยโมโหจนหน้าเปลี่ยนสี ตลอดทั้งชีวิตนางยังไม่เคยถูกรังแกแบบนี้เลย ความโกรธแค้นครั้งนี้นางจะยอมได้อย่างไร? นางจึงกัดฟันแล้วพูดขึ้นมาอย่างเสียงแข็ง:“ทหาร จับนางไปให้ตระกูลอายส่งกลับไปที่ตำหนัก ตระกูลอายต้องคอยอบรมสั่งสอนนางแทนอ๋องเสี้ยง”

หลีโม่ถูกลากตัวออกไปอย่างรุนแรง ซือถูจิ้งอยากขอร้องเพื่อช่วยนาง แต่หลีโม่ลงมือผลักกุ่ยไท่เฟยขนาดนั้น นางเองก็หมดหนทางที่จะช่วยนางได้ ทำได้แค่มองนางโดนลากตัวออกไปอย่างนั้น

หลังจากที่หลีโม่ถูกนำตัวออกไปแล้ว กุ้ยไท่เฟยก็มีรับสั่งทันที ว่าต้องนำตัวซือถูเย้นกลับไปรักษาตัวที่ตำหนัก

“ไท่เฟย ข้าขออนุญาตออกวามคิดเห็นว่าตอนนี้อย่าพึ่งเคลื่อนย้ายไปไหนเลยพ่ะย่ะค่ะ จะได้ไม่ทำให้บาดเจ็บมากกว่าเดิม”อ๋องอานชินพูดขึ้น

กุ้ยไท่เฟยพูดขึ้นมาอย่างเสียงดัง:“อยู่ที่นี่ก็มีแค่ตายอย่างเดียว ตระกูลอายต้องการเอาตัวเขากลับไป แล้วเชิญหมอหลวงออกมาดูอาการ”

นักพรตที่ถูกคลายจุดชีพจรก็พูดขึ้น:“ใช่พ่ะย่ะค่ะ กุ้ยไท่เฟย ตอนนี้ในตำหนักก็เป็นการปกครองเขตของฮ่องเต้ ในตำหนักก็จะยิ่งมีการคุ้มครองจากสวรรค์ ข้าเองก็จะร่วมมือกับหมอหลวงเพื่อรักษาอาการของท่านอ๋องให้หายอย่างแน่นอนพ่ะย่ะค่ะ ข้าน้อยเคยทำนายชะตาของท่านอ๋องแล้ว ครั้งนี้ท่านอ๋องจะสามารถผ่านช่วงร้ายๆนี้ไปได้พ่ะย่ะค่ะ“

เซียวโธ่ที่ได้ยินว่าต้องการจะเรียกหมอหลวง ก็พลันพูดขัดขึ้นมาทันที“กุ้ยไท่เฟย เรื่องอาการบาดเจ็บของท่านอ๋อง ไม่ควรจะแพร่งพรายออกไปนะพะย่ะค่ะ และไม่ควรให้คนในวังรู้เรื่องด้วย“

“ไร้สาระ“กุ้ยไท่เฟยพูดขึ้นอย่างหงุดหงิด:”คนในวังรู้เรื่องเข้าแล้วจะทำไม?ตอนนี้หมอของสถานแพทย์ฮุ่ยหมินก็ไม่ใช่ว่ารู้เรื่องหมดแล้วหรือ?“

เซียวโธ่พูดขึ้น:“นั่นมันไม่เหมือนกันพ่ะย่ะค่ะ หมอไม่กี่คนนี้ ล้วนแต่เป็นคนที่จงรักภักดีต่อท่านอ๋องพ่ะย่ะค่ะ ยังไงพวกเขาก็ไม่มีทางเอาเรื่องนี้ไปแพร่งพรายอย่างแน่นอนพ่ะย่ะค่ะ ถึงแม้ว่าคนข้างนอกจะรู้ว่าท่านอ๋องได้รับบาดเจ็บ แต่ก็ไม่มีทางรู้ว่าบาดเจ็บมากน้อยเพียงใด แต่ถ้าหากให้ท่านหมองหลวงออกมาดูอาการละก็ อาการบาดเจ็บของท่านอ๋องก็จะถูกเปิดเผยอย่างแน่นอนพ่ะย่ะค่ะ และจะยิ่งไม่ดีต่อตัวของท่านอ๋องด้วย“

“ไม่มีอะไรสำคัญกว่าชีวิตของเขาอีกแล้ว ถ้าหากว่ามีคนคิดจะลงมือทำร้ายเขา ก็ให้มาเลย ตระกูลอายไม่กลัวอยู่แล้ว “กุ้ยไท่เฟยพูดจบ ก็พลันรับสั่งให้ทหารเข้ามาเตรียมการเคลื่อนย้าย

อ๋องอานชินกำลังจะพูดโน้มน้าวอีกครั้ง แต่สีหน้าของกุ้ยไท่เฟยจ้องมองเขาเขม่งพลันพูดขึ้น:“ซือถูจื่อ เป็นลูกชายของตระกูลอาย ยังไงก็ขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของตระกูลอาย ถ้าหากเจ้ายังจะขัดขืนอยู่แบบนี้ แล้วเกิดอะไรกับเขาขึ้น เจ้ารับผิดชอบทุกอย่างได้อย่างนั้นหรือ? “

อานชินพูดขึ้น:“ไท่เฟย เคลื่อนย้ายนี้ จะยิ่งทำให้อาการแย่กว่าเดิมนะพ่ะย่ะค่ะ ลองไตร่ตรองอีกครั้งนะพ่ะย่ะค่ะ“

ซือถูจิ้งก็พลันพูดขึ้น:“ใช่มั้ย?พี่สะใภ้ ท่านฟังความเห็นของคนอื่นเถอะนะ ยิ่งท่านดันทุรังจะเอาตัวของน้องเจ็ดกลับไปที่ตำหนักจะยิ่งเป็นการทรมานเขานะ ท่นจะลำบากไปทำไมกัน?ยิ่งท่านจะเรียกให้หมอหลวงให้มาดูอาการอีก ข้าว่าท่านเรียกหมอหลวงมาที่นี่จะไม่ดีกว่าหรือ?“

“เจ้าหุบปาก เรื่องนี้เกี่ยวอะไรกับเจ้า?เรื่องของผู้ชายเจ้าก็รู้ดีงั้นหรือ มีความสามารถแบบนี้ พยายามทำตัวเองให้ดี แล้วหาผู้ชายสักตระกูลไปแต่งงานด้วยจะดีมาก จะได้ไม่ทำให้ฮองเฮาต้องกังวลใจ“กุ้ยไท่เฟยรู้สึกรังเกียจผู้หญิงคนนี้ยิ่งนัก เมื่อครู่ก็พยายามจะล่อลวงนาง จนคาดไม่ถึงว่านางจะกล้าพูดโกหกว่า เซี่ยหลีโม่กับซือถูเย้นได้มีความสัมพันธ์กันอย่างลึกซึ้ง

คนที่พูดไม่ไว้หน้าใครอย่างกุ้ยไท่เฟยที่โมโหขนาดนี้ แล้วยังพูดออกมาแค่นี้ ก็ถือว่าเป็นการไว้หน้าของซือถูจิ้งมากพอแล้ว ถ้าหากว่าเป็นคนอื่น เกรงว่านางก็จะพูดออกไปตรงๆว่าไม่มีตระกูลต้องการแล้ว

ซือถูจิ้งที่เกลี่ยดมากเวลาที่คนพูดถึงเรื่องแต่งงานของนาง พอได้ยินแบบนั้น ก็พลันหันหลังออกไปอย่างหงุดหงิดทันที จนไม่มีอะไรที่จะฉุดรั้งนางไว้ได้

ความดันทุรังของกุ้ยไท่เฟย ทำให้เซียวโธ่และอานชินไม่มีแผนการอะไรที่จะสามารถยังยั้งนางได้

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พิษรักองค์ชายโฉมงาม