พิษรักองค์ชายโฉมงาม นิยาย บท 83

บทที่ 83 ไม่ควรไว้ชีวิตคนอย่างเสี้ยหลีโม่

ฮองไทเฮาเริ่มมีสีหน้าไม่พอใจ“เจ้าพูดออกมาช่างดูไม่มีเหตุนัก มันเหมือนกันตรงไหน?”

กุ้ยไท้เฟยพูดขึ้นพรึมพรัม“แล้วมีอะไรที่เหมือนกันล่ะ?ลูกชายของท่านมีฐานะสูงส่ง แล้วก็เป็นถึงรัชทายาท ไม่ยอมให้นางรักษา เพราะต้องการรักษาฐานะ แล้วอาเย้นไม้ต้องหรือไง?ท่านยอมเสียหน้าไม่ได้ แล้วก็ทิ้งไม่ได้ ข้าก็เหมือนกัน ถึงแม้ท่านจะเป็นถึงฮองไทเฮา แต่ว่าตอนที่ฮ่องเต้องค์ก่อนยังอยู่ ท่านก็รักข้ามากกว่าท่านด้วยซ้ำ ลูกชายของข้าก็ไม่ได้ต่ำต้อยไปกว่าลูกของท่านเลย”

ซือถูจิ้งที่อยู่ด้านข้างพอได้ยินประโยคนี้ก็พลันโมโหขึ้นมาทันที“ไท่เฟย ถึงในใจท่านจะร้อนรนเป็นไฟ แต่ก็ไม่ควรที่จะพูดอะไรแบบนี้ออกมา ท่านรีบก้มลงยอมรับผิดกับฮองไทเฮาเดี๋ยวนี้”

กุ้ยไท่เฟยหัวเราะเสียงเยือกเย็นแล้วพูดขึ้น:“องค์หญิง นางเป็นพี่สะใภ้ของเจ้า แต่ข้านั้นไม่ใช่หรือ?ข้าทนมาพอแล้ว ตระกูลอายเคารพและจงรักภักดีต่อนางมานานหลายปีแล้ว แต่นางทำกับตระกูลอายอะไรบ้าง?ปากก็บอกว่าเป็นพี่น้อง ความสัมพันธ์ลึกซึ้งแน่นแฟ้น แต่ใครหารู้ไม่ นางคอยแต่กดดันตระกูลอายมาโดยตลอด”

หน้าของฮองไทเฮาถอดสีทันที แล้วก็เอาแต่จ้องมองหน้ากุ้ยไท่เฟย อย่างไม่อยากเชื่อว่าคำพูดพวกนี้จะออกมาจากปากของนาง

ผ่านไปนานมากนางถึงค่อยๆลุกขึ้นมา แล้วสายตาก็พลันคล้ำดำแล้วพูดขึ้น:“ดี ไม่ต้องพูดถึงตระกูลอายแล้ว เจ้าต้องการจะทำอะไรคิดอะไรก็แล้วแต่เจ้า”

กุ้ยไท่เฟยแสดงสีหน้าเยือกเย็น แล้วก็เอนคอมองนิดๆ โดยที่ความโมโหไม่มีลดลงเลย ราวกับว่านางเป็นคนที่ควรจะโกรธมากที่สุด

อ๋องอานชินที่เห็นเหตุการณ์ดูเหมือนจะไม่แปลกใจเลยสักนิด

ที่จริงสงครามระหว่างพี่น้องนั้นได้เริ่มขึ้นมานานแล้ว เริ่มตั้งแต่ฮ่องเต้องค์ก่อนยังมีชีวิตอยู่ เพียงแต่ว่าฮองไทเฮาไม่รู้เท่านั้นเอง นางเอาแต่คิดว่าน้องสาวนางคนนี้จงรักภักดีต่อนางด้วยความจริงใจ

แต่ว่าดูจากนิสัยของกุ้ยไท่เฟยแล้ว ที่ทั้งได้รับการโปรดปรานจากฮ่องเต้องค์ก่อน จะจงรักภักดีต่อฮองไทเฮาได้ยังไง?เพียงแค่ว่าตอนนั้นนางไม่สามารถแย่งตำแหน่งฮองไทเฮามาได้ แล้วหลังจากนั้นลูกชายของฮองไทเฮาก็ขึ้นเป็นรัชทายาท นางก็เลยต้องอดทนอยู่ในอาณัติของฮองไทเฮาก็เท่านั้น

พอหลังจากนั้นฮ่องเต้องค์ก่อนเริ่มป่วยหนัก อาเย้นก็ถูกแต่งตั้งให้เป็นอ๋องซื่อเจิ้ง นางก็เริ่มพยายามเก็บซ่อนทุกอย่างเอาไว้ ถึงแม้ว่าฮ่องเต้จะยังไม่สวรรคต และก็ยังมีโอกาสที่จะดีขึ้นอยู่

แต่ว่าตอนนี้ชีวิตของอาเย้นนั้นริบหลี่มาก ถ้าหากว่าอาเย้นตายไป ชีวิตนี้ของนางก็ไม่มีทางที่จะขึ้นมาอยู่เหนือฮองไทเฮาได้อย่างแน่นอน การกระทำที่ต่อต้านนางในครั้งนี้ ก็ถือว่านางถูกทำลายจนไม่มีชิ้นดีแล้ว แต่อย่างน้อยนางก็ยังได้แสดงความรู้สึกทุกอย่างออกมา

นางเองก็คิดภาพออกว่าถ้าหากว่าอาเย้นไม่เกิดเรื่องอะไรขึ้น แล้วฮ่องเต้สวรรคต นางจะเป็นคนแรกที่เปิดเผยออกมาว่าอยู่คนละฝั่งกับฮองไทเฮา

แล้วก็เอาความโกรธแค้นทุกอย่างที่นางได้รับไปลงที่ฮองไทเฮา

ซือถูจิ้งไม่ได้คิดลึกซึ้งถึงเพียงนี้ นางเห็นกุ้ยไท่เฟยกล้าทำกับฮองไทเฮาแบบนี้ นางก็คิดเพียงว่ากุ้ยไท่เฟยเสียสติไปแล้ว กังวลจนกลายเป็นคนเสียสติ

นางมายืนกันหน้าฮองไทเฮา แล้วพลันหันไปพูดกับกุ้ยไท่เฟยอย่างโมโห:“น้องเจ็ดเกิดเรื่องแบบนี้ ไม่ได้มีแค่เจ้าที่กังวลคนเดียวหรอก พวกข้าเองก็เนกังวลเหมือนกัน เขาเป็นลูกชายของเจ้า และก็เป็นหลานชายของข้าเหมือนกัน ใครจะไปหวังให้เขาเกิดเรื่องแบบนี้กันละ?เจ้าอย่าทำเหมือนกับว่าพี่สะใภ้เป็นคนที่ทำร้ายเจ้าอย่างนั้นเลย ทำอะไรไม่ได้ก็เอาแต่โวยวาย ข้าว่าตอนนี้เจ้าเสียสติไปแล้ว”

กุ้ยไท้เฟยเงยหน้าขึ้นมามองหน้าซือถูจิ้งอย่างเย็นชา แล้วพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงเสียดสี:“ถูกแล้ว เจ้าเองก็คิดแค่ว่านางเป็นพี่สะใภ้ของเจ้า จนไม่ได้มองตระกูลอายอยู่ในสายตา ในเมื่อเป็นแบบนี้ เจ้ายังจะมาทำอะไรที่ตำหนักนี้?รีบกลับไปที่กินนมที่ตำหนักโส้หนิงกับนางเถอะ”

ซือถูจิ้งหน้าเปลี่ยนสีทันที คำพูดแบบนี้ไม่สมควรที่กุ้ยไท่เฟยจะพูดออกมาแล้ว นางจึงจับแขนฮองไทเฮา แล้วหันไปพูดเสียงแข็ง:“พี่สะใภ้ ไม่จำเป็นต้องพูดเสียน้ำลายกับนางแล้ว พวกเรากลับ ”

ฮองไทเฮาได้ยินแบบนั้น ทั้งโมโหทั้งอึ้ง และที่จิตใจก็ทั้งชาไปหมด“เรื่องตระกูลอายข้าจะคิดว่าเป็นเพราะเจ้าร้อนรนใจอาเย้น เรื่องที่เจ้าพูดในวันนี้ข้าจะคิดว่าไม่ได้ยิน รอให้อาเย้นดีขึ้นแล้ว เราก็ยังคงเป็นพี่น้องกันเหมือนเดิม”

กุ้ยไท้เฟยเงยหน้าขึ้นมาอย่างโอหัง“ฮองไทเฮาช่างเป็นคนดีไม่มีใครเทียบเท่า ท่านอยากจะคิดยังไงก็แล้วแต่ท่านเถอะ คนที่แบกรับตระกูลเอาไว้ทั้งชีวิตนี้ ยังไงก็อยู่ภายใต้อาณัติของท่านอยู่ดี”

ฮองไทเฮารู้สึกเจ็บปวดอย่างมาก เดิมทีนางอยากจะหันออกไป แต่พอมองเห็นซือถูเย้นที่นอนอยู่บนเตียงแล้ว ใจในก็พลันเจ็บปวดอย่างมาก เด็กคนนี้ยังไงนางก็เห็นเขามาตั้งแต่เด็กจนโต

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พิษรักองค์ชายโฉมงาม