สรุปตอน บทที่855 งานเลี้ยงอำลาหนุ่มโสด – จากเรื่อง พิษรักองค์ชายโฉมงาม โดย ใบไม้แดง
ตอน บทที่855 งานเลี้ยงอำลาหนุ่มโสด ของนิยายโรแมนซ์เรื่องดัง พิษรักองค์ชายโฉมงาม โดยนักเขียน ใบไม้แดง เต็มไปด้วยจุดเปลี่ยนสำคัญในเรื่องราว ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยปม ตัวละครตัดสินใจครั้งสำคัญ หรือฉากที่ชวนให้ลุ้นระทึก เหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้อ่านที่ติดตามเนื้อหาอย่างต่อเนื่อง
บทที่855 งานเลี้ยงอำลาหนุ่มโสด
ห้องทางด้านนั้น หลีโม่เองก็รู้ตัว แล้วพูดว่า “เรื่องนี้ถ้าข้าฟังก็ไม่เหมาะเหมือนกัน ให้องค์หญิงฟังคนเดียวเถอะ”
ซือถูจิ้งเห็นแต่ละคนพากันเดินลิ่วออกไป ก็อดไม่ได้ที่จะประหลาดใจ “นี่มันเรื่องอะไรกัน ทำไมพวกเจ้าฟังไม่ได้?”
แม่เฒ่าหลี่ดึงให้ซือถูจิ้งทรุดกายนั่งลง เอ่ยขึ้นว่า “องค์หญิงอย่าได้กล่าวโทษว่าคนแก่นี้สำคัญตัวไป เพียงแค่ในเมื่อองค์หญิงเรียกให้หม่อมฉันมาหวีพระเกศาให้ เรื่องนี้หม่อมฉันก็ต้องเอามาพูด ไม่พูดไม่ได้ ถึงแม้ว่าเรื่องพวกนี้ เดิมทีไม่อยู่ในสถานะที่หม่อมฉันจะพูด แต่พระสนมไท่เฟยรับสั่งว่า นางกับองค์หญิงไม่ได้สนิทสนมถึงเพียงนั้น นางพูดเรื่องพวกนี้ไม่ออก ถึงได้วานให้หม่อมฉันมาพูด”
ถึงแม้ว่าซือถูจิ้งจะอายุมาก แต่นับตั้งแต่เซียวเซียวแต่งกับหานชีงชีวแล้ว นางก็ปฏิเสธงานแต่งใด ๆ การแต่งงานในครั้งนี้ นับว่าตระเตรียมไว้อย่างครบครัน แต่กลับไม่เคยได้เรียนพวกความรู้ในก่อนแต่งงาน ดังนั้นไม่รู้ว่าแม่เฒ่าหลี่จะพูดอะไรกับนาง เพียงแค่เลิกคิ้วขึ้นมองที่แม่เฒ่าหลี่
แม่เฒ่าหลี่ยิ้มจนตาหยีจ้องมองที่ซือถูจิ้ง “จริง ๆ แล้วก็ไม่ใช่เรื่องสำคัญอะไร องค์หญิงอย่าได้ทรงกดดัน การเป็นภรรยาครั้งแรก ศีลธรรมของหญิงสาว วิถีของหญิงสาว การทำงานของสตรี เรื่องพวกนี้หม่อมฉันจะไม่พูด องค์หญิงทรงประสูติในวัง ยังเข้าใจมากกว่าหม่อมฉัน เรื่องแต่งงานในตอนกลางคืนเพียงเรื่องเดียวเท่านั้น ที่หม่อมฉันจะต้องกล่าวกับองค์หญิง”
เมื่อเห็นว่าซือถูจิ้งยังทำหน้าสงสัย แม่เฒ่าหลี่ก็ลดเสียงลงกระซิบ “เรื่องตอนกลางคืนในตอนที่แต่งงาน องค์หญิงกับราชบุตรเขยต้องร่วมเตียงกับด้วยกัน เป็นหนทางของสามีภรรยา ใส่ใจต่อเรื่องความกลมกลืน……”
แม่เฒ่าหลี่ยังไม่ทันได้พูดจบ ซือถูจิ้งก็ใบหน้าแดงซ่านราวกับกุ้งที่ถูกลวกด้วยน้ำร้อน แต่นางกลับรู้สึกว่าไม่ดีเลยที่จะไม่ฟัง เพียงแค่กระอักกระอ่วนจนใบหน้าและร่างกายร้อนผะผ่าวขึ้น
รอจนแม่เฒ่าหลี่ออกไป หลีโม่และคนอื่น ๆ ก็เข้ามา ใบหน้าของซือถูจิ้งก็ยังแดงซ่านไม่หาย โหรวเหยามองด้วยความตกตะลึง “สวรรค์ องค์หญิง ตอนที่ใบหน้าแดง ดูงดงามยิ่งนัก”
หูฮวนซีและหลีโม่มองไป นั่นน่ะสิ?นัยน์ตาประกายระยิบระยับ ผิวขาวแดงซ่านขึ้น ริมฝีปากเป็นสีน้ำผึ้ง ช่างดูงดงามเพียบพร้อมบริบูรณ์อย่างไม่อาจจะบรรยายได้ถูก
“เซียวเซียวช่างโชคดีเป็นที่สุด” หูฮวนซีเอ่ยชม
“จะพูดแบบนี้ไม่ได้ เซียวเซียวเองก็เป็นชายมีรสนิยม”หลีโม่พูดกับหูฮวนซี
ทุกคนต่างหัวเราะ โหรวเหยากล่าวสรุป “ได้ นั่นก็เป็นบุพเพสวรรค์สร้าง เป็นคู่ดอกฟ้ากับหมาวัดที่เหมาะสมกันอย่างถึงที่สุด”
ซือถูจิ้งหัวเราะอย่างอดไม่ไหว ตามไปตีโหรวเหยา
บรรดาพี่สาวน้องสาวพูดคุยหยอกล้อกันอย่างครื้นเครง ผ่านไปอย่างรวดเร็ว หูฮวนหลิงก็พาให้หญิงสาวในวังเข้ามา ตำหนักอีหลันที่นี่พลันยิ่งคึกครื้นขึ้นอย่างไม่อาจหาอะไรมาเทียมได้
ในเวลาที่ไหว้บรรพบุรุษก็มาถึง สีไท่เฟยเองก็เสด็จเข้ามาด้วย พาซือถูจิ้งมายังด้านหน้าป้ายบรรพบุรุษโค้งคำนับ แล้วออกไป
เมื่อกลับมาแล้ว ก็ได้เวลาที่จะหวีผม
ในมือของแม่มงคลถือหวีไม้จันทร์เอาไว้ ยืนอยู่ตรงหน้ากระจก มองไปยังหญิงสาวที่อยู่ด้านหน้าของกระจกนั้น เอ่ยชมขึ้น “หม่อมฉันช่วยเจ้าสาวหวีผมมาหลายต่อหลายคน ก็ไม่เคยเห็นใครที่ดูงดงามเหมือนองค์หญิง ราชบุตรเขยช่างมีโชควาสนายิ่งนัก แต่ว่า หน้าตาของราชบุตรเขยหม่อมฉันเองก็เคยเห็น เหมาะสมกับองค์หญิงอย่างสมน้ำสมเนื้อ ต่อไปถ้าให้กำเนิดลูก ๆ ไม่รู้ว่าจะดูงดงามขนาดไหนกัน”
ซือถูจิ้งเมื่อได้ฟังคำนี้ ในใจก็รู้สึกขวยเขินและมีความสุขไปพร้อม ๆ กัน คำพูดนี้ ช่างดูไพเราะ ราวกับกำลังดื่มน้ำผึ้ง ชุ่มชื่นวาบหวามไปทั่วทั้งหัวใจ
ลูก ลูกของพวกเขา เมื่อก่อนแค่คิดก็ไม่กล้าคิด
หลีโม่และคนอื่น ๆ ยืนอยู่ข้าง ๆ เห็นเข้าก็พากันน้ำตาคลอ เยี่ยมจริงง ๆ ซือถูจิ้งได้แต่งงานกับผู้ชายที่นางรัก
“หวีไปครั้งแรกอายุก็ยืนไปนับร้อย หวีสองครั้งก็อยู่ด้วยกันจนถึงแก่เฒ่า หวีครั้งที่สามมีลูกเต็มบ้านมีหลานเต็มเมือง……”
น้ำตาของซือถูจิ้งเอ่อล้นไหลออกมาตามคำพูดคำอวยพรจากปากของแม่มงคล
การหวีผมในคืนก่อนแต่งงาน เป็นพิธี งานวันอภิเษกในวัดต่อมา ก็ต้องให้ช่างหยีมาตกแต่งผมและหน้า
เมื่อหวีผมเสร็จเรียบร้อยแล้ว สีไท่เฟนก็สั่งให้คนเอาน้ำซุปหวานเข้ามา โดยให้ทุกคนดื่ม แต่ชามของซือถูจิ้งไม่เหมือนกันคนอื่น ของคนอื่นนั้นเป็นบัวลอย ส่วนของซือถูจิ้งนั้นเพิ่มลำไยดอกลิลลี่และเม็ดบัว
“เซียวโธ่!” ซูชิงพลันแผดเสียงคำรามใส่เซียวโธ่ที่กำลังดื่มเหล้า
เซียวโธ่ตกใจสะดุ้ง เหล้าที่เพิ่งเข้าไปในคอก็พุ่งพรวดขึ้นไปที่จมูก แต่ดวงยังดีไม่พอเลยทำให้สำลักในจมูก เขาอุดจมูก จ้องมองไปที่ซูชิงอย่างแค้นเคือง
“เจ้าแต่งงานกับหลิ่วหลิ่วได้ ข้าสำเร็จได้ด้วยตัวเอง ดังนั้นไม่ว่าอย่างไรก็แล้วแต่ เจ้าต้องช่วยหลอกให้หลิงลี่มาอยู่ในมือข้าให้ได้”
เซียวโธ่หัวเราะขึ้น เหล้าก็พ่นพรืดออกมาทางรูจมูก ตามมาด้วยน้ำมูลที่ไหลออกมาสองแหมะ
“เฮ้ย!”ทุกคนจ้องมองอย่างรังเกียจ
เซียวรีบหยิบเอาผ้าขึ้นมาเช็ด ยังคงหัวเราะเอิ้กอ้าก “เจ้าชอบใครไม่ดีหรอ?คิดไม่ถึงว่าชอบหลิงลี่แม่เด็กคนนั้น นางยิ่งหลอกไม่ได้ง่าย ๆ ด้วย ฮ่ะฮ่า ๆ……”
“มันตลกขนาดนั้นเลยไหม?”ซูชิงจ้องมองที่เขาอย่างเป็นทุกข์ เซียวโธ่หัวเราะ ในบางครั้งก็ไม่มีเหตุผล ตอนที่ควรจะหัวเราะก็ไม่หัวเราะ ตอนที่ไม่ควรก็กลับหัวเราะจนท้องขดท้องแข็ง
“ชอบโหรวเหยาไม่ง่ายกว่าหรอ?”เซียวโธ่ยังคงหัวเราะต่อไป ใบหน้าหัวเราะขึ้นอย่างสบายอารมณ์ราวกันโดนแสงตะวันที่สาดกระทบกับพื้นดิน
“ไม่อนุญาตให้เอาเรื่องพวกนี้มาล้อเล่น”เซียวเซียวดุเบา ๆ
สิ่งที่เซียวโธ่กลัวที่สุดก็คือสีหน้าที่เยือกเย็นของเซียวเซียว เขาเก็บยิ้มไว้ ก้มหน้าลงอย่างว่าง่าย “ได้!”
ซูชิงรู้สึกรำคาญใจราวกันอะไรก็ไม่ปราน เฮ้อ เขารู้แน่นอนอยู่แล้วว่าถ้าหากคนที่ชอบคือโหรวเหยา ทั้งหมดก็จะง่ายขึ้นเป็นกอง แต่ว่า เขาเป็นคนที่ดื้อด้าน ชอบไปแล้ว ก็เปลี่ยนแปลงไม่ได้
คนที่อยู่ในใจคนนั้น จะไปหาใครอื่นมาแทนง่าย ๆ ได้ตามใจได้อย่างไรกัน?
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พิษรักองค์ชายโฉมงาม
จบแบล้วววววว...
900 ตอนแล้ว ชีวิตของหลีโม่แทบหาความสุขไม่เจอเลย แถมลูกก็ถูกคนอื่นเอาไปทิ้งอีก สงสารจับใจ...
ตะว่าไปเรื่องนี้หมุยเฟยกับฮ่องเต้เลวร้ายแบบกินกันไม่ลงนะ ทำร้ายทุกคนที่ดีกับตัวเอง แล้วแางว่าจำเป็นๆ กลับเป็นพวกอี๋เฟยซะอีกที่แย่งแยกพวกำองชัดเจนไปเลย หมุยเฟยนี่นับว่าเป็นคนที่ได้ดีจากการเนรคุณผู้คนรอบข้างโดยแท้...
ฮ่องเต้กับลู่กงกงนี่ ตอนตายคงมีกันแค่ 2 คนละนะ...
อี๋เฟยนี่คือนางฉลาดสุดละในบรรดาเมียของเต้...
ท่านซือถูเย่นใจเย็นๆจากสุราก่อนเจ้าค่ะ สนใจยัยน้องด่วนเด่วจะโดนมิใช่น้อย55555...
โธ่ๆท่านซือถูเย่น เค้าลางกลัวว่าที่ภรรยาในอนาคตมาแต่ไกล รีบซ่อนสุราเลยนะ แต่ไม่น่าจะทัน หลอกใครก็หลอกได้แต่ไม่ใช่กับแม่นางหลีโม่555555...