บทที่ 911 แม่ลูกได้เจอกัน
คนตัดไม้จึงนอนลงแล้วพูดว่า “รบกวนท่านหมอแล้ว”
“ไม่เป็นไร” หลีโม่นั่งลงด้านข้างเตียง เก็บท่าทีความโศกเศร้าในก่อนหน้านี้ เปลี่ยนกลายเป็นสีหน้าอย่างมืออาชีพ “ให้ข้าดูบาดแผลก่อน”
ภรรยาคนตัดไม้รีบเข้ามาช่วยเหลือ เปิดผ้าห่มออกเผยให้เห็นขาทั้งคู่
บนขาห่อไว้ด้วยยาของหมอก่อนหน้านี้ รอบๆบาดแผลค่อนข้างแดง มีอาการอักเสบที่ยังไม่หาย
“เป็นมาได้กี่วันแล้ว?” หลีโม่ถาม
“สิบสามวันแล้ว” ภรรยาคนตัดไม้ตอบ
หลีโม่พยักหัว แกะห่อยาออก มองเห็นบาดแผล มีอาการอักเสบจริงๆ
บาดแผลใหญ่มาก บาดแผลทั้งสองข้างพอๆกัน แต่ขาซ้ายค่อนข้างอาการหนัก เพราะตั้งแต่น่องลงมามีอาการบวมไปหมด
หลีโม่ยื่นมือกดบริเวณบาดแผล “เจ็บไหม?”
คนตัดไม้ร้องอย่างเจ็บปวดว่า “เจ็บ”
“ข้าตรวจดูก่อน นอกจากบาดแผลแล้ว กระดูกมีปัญหาหรือไม่” หลีโม่ยืนขึ้น มีทั้งคู่เริ่มจับตั้งแต่ด้านบนบาดแผลของเขาลงมา ขาขวามีเพียงบาดแผล แต่ขาซ้ายกระดูกหัก จะต้องเชื่อมกระดูก
“ก่อนหน้านี้รักษาด้วยยาอะไรไปบ้างแล้ว?” หลีโม่ถาม
“ข้าไปเอามา” ภรรยาคนตัดไม้รีบไปหยิบใบสั่งยาออกมาจากลิ้นชัก “นี่เป็นหมอคนนั้นจ่ายยาให้ ล้วนเป็นยาที่แพงมาก”
หลีโม่หยิบรับมาดู แล้วก็ขมวดคิ้ว “บ้านพวกเจ้าเช่นนี้ ทำไมถึงได้สั่งยาให้แพงขนาดนี้? โสมนี้มีประโยชน์อะไรกับบาดแผลภายนอก?”
“หมอบอกว่า ก่อนหน้านี้เสียเลือดมาก ทำให้ร่างกายอ่อนแอ จึงต้องทานโสมเพื่อบำรุง บอกว่าหากร่างกายแข็งแรงแล้ว บาดแผลก็จะหายเร็วขึ้น”
หลีโม่ค่อนข้างโกรธ “บาดเจ็บก็ต้องรักษาแผลบาดเจ็บ รักษาร่างกายทำไม อีกอย่าง ยารักษาบาดแผลก็มีตั้งมากมาย เหมาะสมก็พอแล้ว ไม่จำเป็นต้องใช้ยาที่แพงที่สุด ใช้โสม ยาอย่างอื่นก็ไม่สามารถใช้ได้แล้ว”
ภรรยาคนตัดไม้ตกใจ “งั้นจะทำอย่างไรดี?”
หลีโม่ครุ่นคิดอยู่พักหนึ่ง แล้วพูดว่า “ข้าจะเขียนใบสั่งยาให้ เจ้าไปซื้อยามา ยาชุดนี้ใช้เงินไม่เกินสิบสตางค์”
“ท่านหมอเสี้ย ยาถูกขนาดนี้ จะสามารถรักษาได้หรือ?” กาวเฟิ่งเทียนถามอยู่ด้านข้าง
“ใช้ยาให้เหมาะสมก็จะสามารถรักษาได้” หลีโม่พูด
กาวเฟิ่งเทียนสูดลมหายใจเข้า แล้วก็พูดอย่างโกรธเคืองว่า “ข้ากาวเฟิ่งเทียนโดนคนอื่นหลอก? ไม่ช้าก็เร็วจะต้องไปจัดการคนคนนั้น”
“อาการบาดเจ็บไม่น่าเป็นห่วง ต่อกระดูกที่หักก็เรียบร้อยแล้ว ถึงตอนนั้นข้าจะใช้ไม้หนีบตรงขาที่กระดูกหักของเจ้า ให้เนื้อค่อยๆเชื่อมต่อกัน ประมาณหนึ่งเดือนกว่า ก็จะสามารถลุกขึ้นมาเดินได้” หลีโม่พูด
คนตัดไม้สองสามีภรรยามองตากัน แต่ก็ไม่อยากจะเชื่อ
“แต่หมอคนนั้นพูดว่า เขาจะยืนขึ้นมาไม่ได้อีกต่อไปแล้ว” ภรรยาคนตัดไม้ดีใจจนน้ำตาไหล
“พูดเหลวไหล เขาไม่พูดเช่นนี้ จะได้เงินจากพวกเจ้าไปเยอะขนาดนั้นได้ยังไง? และเขาพูดว่าอาการบาดเจ็บค่อนข้างหนัก สุดท้ายเมื่อรักษาหายแล้ว เขาก็จะได้มีชื่อเสียง” หลีโม่ขมวดคิ้วพูด
ภรรยาคนตัดไม้โกรธมาก กำลังอยากที่จะพูดอะไร ก็ได้ยินเสียงเด็กร้องไห้มาจากด้านนอก
หลังจากโหรวเหยาห้ามเลือดเสร็จแล้ว ก็รีบเข้ามาเลย ตอนที่หยิบกระเป๋าเข็มออกมากำลังจะฝังเข็ม หลีโม่ก็ดีขึ้นมาแล้ว
ซือถูเย้นกอดนางไว้ นางมองดูซ้ายขวา น้ำตาร่วงไหล ถามด้วยเสียงสั่นเทาว่า “เด็กคนนั้นล่ะ? เด็กคนนั้นล่ะ?”
ภรรยาคนตัดไม้ถอนหายใจเบาๆ แล้วก็เดินไปเปิดลิ้นชัก หยิบกล่องไม้ออกมาหนึ่งกล่อง นางเอาออกมาวางไว้บนโต๊ะ แล้วก็เปิดกล่องไม้ออกหยิบเสื้อขาดไปท่อนหนึ่งออกมา “เสื้อนี้ พระชายาจำได้ไหม?”
หลีโม่ยกมือปิดปาก ใบหน้าทั้งดีใจแล้วก็เสียใจปะปนกัน น้ำตาร่วงไหลออกมาเป็นทาง อ้าปาก แล้วก็พูดออกมาอย่างยากลำบากว่า “เจ้า... เจ้าไปเอามาจากไหน?”
ตอนนั้นก่อนจะคลอด นางถอดเสื้อคลุมออก ฉีกออกเป็นสองชิ้น ข้างหนึ่งห่อลูกชายไว้ ข้างหนึ่งห่อลูกสาวไว้
เสื้อชุดนี้ ตอนที่นางอยู่เหมียวเจียง น่าน่าหญิงสาวที่มีฝีมือในการเย็บปักถักร้อยในเหมียวเจียงคนนั้นทำให้นาง
ซือถูเย้นกับกาวเฟิ่งเทียนมองตากัน ทั้งสองคนต่างก็ค่อนข้างสงสัย ภรรยาคนตัดไม้คนนี้...
หรือว่า เทียนอืนเป็นจริงๆ?
ภรรยาคนตัดไม้ค่อยๆนั่งลง “ความจริงแล้ว สามีของข้าอุ้มเทียนอืนมาจากเหมียวเจียง ตอนที่อุ้มกลับมา บนตัวก็ห่อไว้ด้วยเสื้อชิ้นนี้ นอกจากนั้นก็ไม่มีสิ่งของอะไรที่แสดงถึงสถานะ ข้าอยากที่จะโยนทิ้งหลายครั้งแล้ว เพราะคิดว่าเทียนอืนถูกทอดทิ้ง ในป่าเขาแบบนั้น และก็เป็นทารกที่เพิ่งคลอด หากไม่ถูกทอดทิ้ง แล้วจะอยู่ที่นั่นได้ยังไง? แต่หลังมาคิดดูแล้ว ก็กลัวว่าพ่อแม่ของเทียนอืนจะมาตามหา จึงไม่ได้ทิ้งเสื้อตัวนี้ ยังเก็บไว้ตลอด”
หลีโม่ฟังคำพูดของภรรยาคนตัดไม้ แล้วก็ร้องไห้อยู่ในอกของซือถูเย้น ร้องไห้จนแทบขาดใจ ความทรมานที่อยู่ในใจที่ผ่านมา เหมือนถูกระเบิดออกมาแล้ว
ในใจซือถูเย้นเองก็ดีใจไม่แพ้นาง น้ำตาลูกผู้ชายไม่ไหลง่ายๆ หากไม่เจ็บปวดถูกใจจริงๆ ครั้งนี้ เขาก็น้ำตาไหลแล้วจริงๆ
สองสามีภรรยาคนตัดไม้มองตากัน และต่างก็น้ำตาไหลเหมือนกัน
โหรวเหยากอดเทียนอืนไว้แน่น ร้องไห้พร้อมพูดว่า “เช่นนี้แล้ว เทียนอืนก็เป็นลูกสาวของหลีโม่?”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พิษรักองค์ชายโฉมงาม
จบแบล้วววววว...
900 ตอนแล้ว ชีวิตของหลีโม่แทบหาความสุขไม่เจอเลย แถมลูกก็ถูกคนอื่นเอาไปทิ้งอีก สงสารจับใจ...
ตะว่าไปเรื่องนี้หมุยเฟยกับฮ่องเต้เลวร้ายแบบกินกันไม่ลงนะ ทำร้ายทุกคนที่ดีกับตัวเอง แล้วแางว่าจำเป็นๆ กลับเป็นพวกอี๋เฟยซะอีกที่แย่งแยกพวกำองชัดเจนไปเลย หมุยเฟยนี่นับว่าเป็นคนที่ได้ดีจากการเนรคุณผู้คนรอบข้างโดยแท้...
ฮ่องเต้กับลู่กงกงนี่ ตอนตายคงมีกันแค่ 2 คนละนะ...
อี๋เฟยนี่คือนางฉลาดสุดละในบรรดาเมียของเต้...
ท่านซือถูเย่นใจเย็นๆจากสุราก่อนเจ้าค่ะ สนใจยัยน้องด่วนเด่วจะโดนมิใช่น้อย55555...
โธ่ๆท่านซือถูเย่น เค้าลางกลัวว่าที่ภรรยาในอนาคตมาแต่ไกล รีบซ่อนสุราเลยนะ แต่ไม่น่าจะทัน หลอกใครก็หลอกได้แต่ไม่ใช่กับแม่นางหลีโม่555555...