อรัณระดมจูบคนตัวเล็กไปจนทั่วทั้งใบหน้า มิริณที่โดนคนตัวโตลุกเข้ามาเช่นนั้นร่างบางถึงกับตกใจทำตัวไม่ถูกเพราะอรัณนั้นเข้ามาจูบเร็วมาก ลิ้นสากหนาแทรกเข้ามาที่โพรงปากของคนตัวเล็กได้อย่างง่ายดาย มิริณได้แต่ตุบเข้าที่อกหนาของคนตัวโต เพื่อให้อรัณนั้นปล่อยเธอ แต่ยิ่งทุบอรัณยิ่งแทรกจูบเข้ามาอย่างดุดัน ยิ่งจูบยิ่งหลงไหล กลิ่นน้ำหอมของคนตัวเล็กนั้นหอมหวานจนลืมไม่ลง ลิ้นเล็กถูกคนเอาแต่ใจเกี่ยวเข้ามาตามอารมณ์โกรธ ร่างบางถูกคนตัวโตจูบจนปากเจ๋อ อรัณจูบอย่างห้ามความต้องการและความรู้สึกของตนไม่ได้ หนึ่งเดือนที่ผ่านมาใช่ว่าเขาจะลืมเธอลง ยอมรับว่ามีแพทแต่กับมิริณยากเหลือเกินที่จะไม่พาตัวเองเข้ามายุ่งเกี่ยว
คนโดนจูบได้แต่สงเสียงอู่อี้ออกมาอย่างขัดขืน เมื่อโดยคนใจร้ายจูบอย่างไม่คิดจะปล่อย ร่างบางรวบรวมกำลังทั้งหมดผลักอรัณออกจนร่างหนาชิดเข้ากับผนัง และมิริณรีบเช็ดคาบน้ำลายของอรัณที่เปรอะเปื้อนออกจากปากของเธออย่างนึกรังเกียจ
มิิริณเธอทั้งโกรธและน้อยใจทุกครั้งที่เจอ อรัณมักจะเข้ามาลวนลามเธอด้วยการไม่ให้เกียรติ หนึ่งเดือนที่ผ่านเธอคิดว่าเขาจะลืมเรื่องราวทั้งหมดแล้วเสียอีก ใช่ว่าเธอจะไม่รู้สึกอะไรกันคนตรงหน้า พยายามตัวเองอย่างหนักที่จะไม่เข้าไปยุ่งเกี่ยวกับเขามิริณสบตาคนตรงหน้าด้วยสายตาว่างเปล่า พร้อมกับเอ่ยขึ้นมาด้วยเสียงนิ่ง
"พี่เลิกยุ่งกับฉันเสียทีเถอะ ฉันไม่อยากจะเป็นเด็กของใคร และอีกอย่างพี่เองก็มีแฟนของพี่อยู่แล้ว" คำบอกเล่าของร่างบาง ทำเอาร่างสูงถึงกับชะงักสีหน้าตอนนี้เขารู้หวั่นไหวกับเธอมากน้อยแค่ไหนกัน ร่างบางรีบเปลี่ยนสีหน้าให้เป็นปกติจากนั้นก็เดินออกจากร่างสูงที่ยืนนิ่ง
"มิริณ ฟังฉันก่อนสิ " เสียงเรียกของอรัณเอ่ยจึ้นตามหลังขณะที่มิริณนั้นเดินหนีไป ร่างบางเดินเข้ามานั่งโต๊ะเช่นเดิมในราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น
ห้านาทีก่อนหน้าขวัญข้าวที่เดินตามหลังมิริณออกมา ขวัญข้าวที่กำลังจะไปเข้าห้องน้ำ กับต้องชะงัก เมื่อบังเอิญเข้ามาเห็นอรัณและมิริณนั้นมีปากเสียงกัน แถมอรัณนั้นยังกระชากเพื่อนของเธอเข้าไปห้องน้ำอีกด้วย ขวัญข้าวที่เห็นเช่นนั้นถึงกับตาเบิกกว้างด้วยความตกใจ มิริณกับหนุ่มรุ่นพี่ พวกเขาต้องมีอะไรมากกว่านั้น
" พี่อรัณ ยัยมิริณ ผัว คืออะไร นี้ฉันงง ไปหมดแล้วนะ" ขวัญข้าวไม่ได้ตั้งใจที่เข้ามาแอบฟังเพียงแต่เธอบังเอิญเท่านั้น ขวัญข้าวกลับเข้ามานั่งในโต๊ะก่อนที่มิริณนั้นจะกลับเข้ามาเพียงไม่กี่นาที สิ่งที่เธอไปได้ยินมาขวัญข้าวถึงกับทำหน้าไม่ถูก ขวัญข้าวได้แต่เหลือบมองหน้ามิริณที่ตามหลังเข้ามา และไม่นานนักก็เห็นอรัณก็เดินกลับเข้ามานั่งกับกลุ่มเพื่อนๆ ของเขาและสายตาคมที่จ้องมาที่เพื่อนสนิทของเธออย่างไม่วางตา พวกเขาสองคนมันตั้งแต่ตอนไหนกัน
@ตึกคณะวิศวะ
ภายในห้องพักส่วนตัวของอรัณ
ใบหน้าอันหล่อเหล่าของอรัณได้แต่นั่งหน้าเครียดที่ปลายเตียงนอนขนาดห้าฟุต ตั้งแต่กลับออกมาจากร้านอาหาร ใบหน้าของเขาหงุดหงิดเช่นนี้อย่างที่เห็น และที่เป็นเช่นนี้ก็รุ่นน้องสาวคนสวยที่เขาตามตอแยอย่างมิริณนั้นเอง หึ! โดนทั้งกอด ทั้งจูบตั้งกี่ครั้งแต่ก็ไม่คิดจะจำ โดนเอาก็โดนมาแล้ว แต่มิริณก็ไม่มีท่าทีจะเกรงกลัวเขาเลยซักนิด หงุดหงิดซะมัดที่โดนยัยนี้เมิน ร่างสูงได้แต่หยิบกระป๋องเบียร์ในมือขึ้นมากระดก เพื่อให้มันดับความรุ่มร้อนภายในจิตใจที่ตอนนี้เขาทั้งทั้งโกรธและไม่พอใจเธอ
นับว่านี้เป็นครั้งแรกในชีวิตของเขา ที่คนอย่างอรัณ อยากได้อะไรแล้วไม่ได้ ไม่ว่าจะชื่อเสียง เงินทอง บ้าน รถหรูราคากี่สิบล้านเพียงแค่เขาเอ่ยปากอยากจะได้มันมา เขาก็ได้ครอบครองมันมาทุกอย่าง แต่กับเด็กเอ็นเพียงคนเดียวที่เขาอยากได้เธอมา แต่มันกับไม่ได้ ขัดกับความต้องการเขาชะมัด ยิ่งคิดยิ่งหงุด อรัณกระดกกระป๋องเบียร์ในมือลงคอรวดเดียวจนหมด มือหนาบีบจนแบนคามือ จากนั้นก็โยนทิ้งลงบนพื้นอย่างไม่ใยดี
"หึ! ให้ฉันเลิกยุ่งกับเธองั้นเหรอ มิริณ" อรัณที่โดนคนอย่างมิริณปฎิเสธมาแล้วอย่างนับครั้งไม่ได้ คนอย่างเขาในเมื่อพูดดีๆ แล้วไม่ได้ แล้วต้องใช่วิธีไหน เธอถึงจะยอมมาเป็นของฉัน อรัณที่แต่นั่งครุ่นคิดเพียงคนเดียว แต่ยังนึกถึงใบหน้าของผู้หญิงที่แสนจะพยศอย่างเธอ
ส่วนคนที่กำลังทำให้รุ่นพี่หนุ่มคิดหนักอยู่นั้น ร่างบางของมิริณนั่งเรียนกับเพื่อนๆ ในห้องโดยในหัวของเธอไม่มีสิ่งที่อาจารย์สอนเลยซักนิดเดียว มิริณเอาแต่นั่งเหม่อลอยกับคำพูดของอรัณ จนไม่มีสมาธิเก็บสิ่งที่อาจารย์กำลังสอน
"มิริณดา มิริณดา มาไหมคะ" เสียงอาจารย์ประจำวิชาที่ขานชื่อนักศึกษาเมื่อท้ายชั่วโมง แต่คนถูกอาจารย์เรียกชิ่อก็ยังคงนั่งนิ่งอยู่เช่นนั้น บีนาที่เห็นท่าทีของเพื่อนสนิทถึงกับสะกิดมิริณที่นั่งข้างๆ เธอ
"ยัยริณ อาจารย์ธัญญธร เรียกชื่อแกแล้ว ทำไมแกเงียบ" บีนาเอ่ยกับคนที่นั่งนิ่ง
"อ่อ...มิรินดา มาคะ" ร่างบางที่ได้สติเอ่ยออกมาเสียงดัง อาจารย์ที่เช็กชื่อนักศึกษาอยู่นั้นถึงกับสายหน้ามาให้กับเธอ
"ยัยริณ แกเป็นไรของแกอาจารย์เขาเรียกตั้งนานแล้ว" บีนาถามมิริณมาด้วยความสงสัย
"เปล่านะ ฉันแคคิดอะไรเพลินไปหน่อย" มิริณเอ่ยมาตอบพร้อมกับเสมองหน้าเพื่อนอย่างแก้ต่าง
"ไม่เป็นไรก็ดีแล้ว ฉันว่าพักหลังๆ แกมันมักจะใจลอยอยู่บ่อย หรือว่า แกกำลังมีความรัก ใช่ไหมริณ อร้าย แกมีความรักแล้วใช่ไหม" บีนากระชิบมาที่ข้างหูของคนตัวเล็กด้วยความตื่นเต้นที่เพื่อนนั้นจะมีคนรักเสียที ตั้งแต่ครบกันมาก็ไม่เห็นว่ามิริณนั้นจะมีแฟนหรือครบใครเสียที หน้าตาเพื่อนก็สวยใช่ว่าจะหาแหนไม่ได้
"บ้าน๊า ยัยบีนา แกนิพูดไร เลอะเทอะไปกันใหญ่แล้ว มีที่ไหน ฉันไม่มี้"
"แกมันเป็นคนขึ้โกหกได้ไม่เนียน ยัยริณ ถ้าไม่ได้โกหกฉันแกจะหน้าแดงทำไม" มิริณที่ได้ยินเช่นนั้นใบหน้าหวานถึงกับชะงัก
"กับไอ้ต้าใช่ไหม" บีนายังคงถามต่อ
"ไมใช่นะ มันไม่ใช่อย่างที่แกคิดนะ ฉันไม่ได้มีแฟนอย่างที่แกเข้าใจ" ยิ่งบีนาถามมาเช่นนั้นมิริณยิ่งต้องรับปฎิเสธ เพราะกับต้าเธอไม่ได้คิดอะไรเกินกว่าเพื่อนร่วมห้องเรียนจริงๆ
"ถ้าไม่ใช่ไอ้ต้า แล้วใครกัน ฉันพอจะรู้จักไหม" บีนายังไม่คิดจะหยุดถาม มิริณถึงกับมองค้อนให้เพื่อนของเธอที่วันๆ ชอบยัดเยียดคนโน้นคนนี้ให้เป็นแฟนของเธอ
" น่ากลับมาทั้งที งั้นมื้อนี้รัณขอเป็นเจ้ามือเลี้ยงสองสาวเองละกัน"
"น่าเกรงใจจังรัณเลย รัณอุสาห์มารับ แล้วยังสละพาน่าและแพทไปทานข้าวอีก"
"เกรงใจอะไรกัน อีกไม่นานน่าก็จะเป็นพี่สะไภ้รัณแล้ว รัณสิต้องแทคแคร์พี่สะไภ้รัณให้ดีสิ อย่าคิดมากเลย"
"ว้าว รัณรู้ไหมน่าคิดถึงพี่คิณมากที่สุดเลย อยากจะไปเจอพี่คิณซะพรุ่งนี้เลย แต่น่ารอเจอพี่คิณวันเปิดตัวธุรกิจใหม่ดีกว่า เหลืออีกแค่เจ็ดวันน่ารอได้" อรัณถึงกับหลุดยิ้มให้กับเพื่อนสาว นีน่าที่ฉันกลับมาในครั้งนี้อีกอย่างฉันอยากจะมาแสดงความยินดีและแสดงตัวเป็นคู่หมั้นของพี่คิณก็เท่านั้น
จากนั้นอรัณก็พาทั้งสองสาวนั้นไปยังร้านอาหารทันที เพราะเขาเองก็ยังไม่ได้ทานอะไรเช่นกัน หลังจากที่ออกจากร้านอาหารอรัณก็แวะส่งนีน่าที่บ้านของเธอ จากนัั้นก็ไปส่งแพท กว่าจะวนรถกลับมาถึงคอนโดก็ป่าไปถึงเที่ยงคืน เนื่องจากบ้านของทั้งสองสาวนั้นอยู่กันคนละทาง แต่นั้นก็ไม่ใช่ปัญหาเพราะนีน่าและเขานั้นสนิทกันมาตั้งแต่สมัยเรียนมัธยม
@คอนโดมิวา
เช้าวันต่อมา ร่างบางของมิริณรู้สึกตัวตื่นขึ้นมาเนื่องจาก
!! โอ้ก อ้าก !!
!! โอ้ก อ้าก !! เสียงของมิวาที่ดังอยู่ในห้องน้ำ มิริณที่ตื่นขึ้นมาถึงกับตกใจ ที่มิวานั้นอ้วก ใบหน้าสวยถึงกับหน้าซีดเชียว
"วา เป็นอะไรหรือเปล่า" มิริณถามด้วยความเป็นห่วงพร้อมกับมือเรียวเล็กลูบเข้าที่แผ่นหลังบางของพี่สาว มิริณทีี่เห็นมิวานั้นอ้วกทุกเช้าแบบนี้มาสองสามวันติด ถึงกับเอ่ยถามด้วยความเป็นห่วง
ด้านมิวาที่โดนน้องสาวถามมาเช่นนั้นใบหน้าหวานถึงกับชะงัก ไม่ใช่ว่าเธอไม่รู้ ว่าอาการที่เป็นอยู่นี้คืออะไร เธอจะปิดบังมิริณได้นานแค่ไหนกันในเมื่อซักวันมิริณก็ต้องรู้อยู่ดี
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พลาดรักร้ายนายวิศวะ