พลาดรักร้ายนายวิศวะ นิยาย บท 29

เวลาล่วงเลยไปจนท้องฟ้ามืดสนิด ร่างบางเหลือบมองนาฬิกาที่ข้อมืออีกไม่กี่นาทีก็จะถึงสองทุ่ม ฉันที่ให้พี่อรัณซ้อมโบว์ลิ่งให้และแข่งกับเขา มันเป็นอาการของคนที่ทำไปอย่างไม่รู้ตัว ตั้งแต่ที่ฉันเจอหน้าเขานับครั้งไม่ถูก ที่เขานั้นหลุดรอยยิ้มขึ้นมา ให้ตายเถอะถ้าเขาทำอะไรแบบนี้กับฉันบ่อย ทุกครั้งที่เราอยู่ด้วยกัน แบบนี้มันเป็นอะไรที่อันตรายและทรมานต่อใจฉันมาก

มุมอ่อนโยนของคนใจร้ายที่ฉันไม่เคยเห็นมัน แต่ตอนนี้เขากับมีท่าทีแบบนั้นกับฉัน ไม่อยากจะเชื่อเลยว่าตรงหน้านี้คือพี่อรัณคนเดียวกันกับคนที่มักจะเข้ามาหาเรื่องฉัน คนที่มีนิสัยเดี๋ยวดีเดี๋ยวร้าย กำลังทำให้ฉันหลงเสน่ห์ของเขาอย่างไม่รู้ตัวและฉันกำลังจะตกหลุมไปกับเสน่ห์ใบหน้าอันหล่อเหลาของเขาตั้งแต่ฉันพยายามพาตัวเองหนีมันแต่มันกับยิ่งต้องการเจอเขา ฉันควรจะทำตัวเช่นไรดี มิริณเอาแต่ครุ่นคิด

เมื่อผ่านไปนานนับชั่วโมง และวันนี้อากาศค่อนข้างที่จะร้อน เหงื่อของคนตัวโตถึงกับไหลซึมออกมา เนื่องจากเป็นช่วงเลิกเรียนไปแล้ว อรัณถึงกับเดินออกไปและถอดเสื้อของตนออกจากตัว มิริณที่เห็นเช่นนั้นถึงกับชะงัก

"พี่จะทำอะไรหนะ" ร่างบางเอ่ยถามด้วยความสงสัยที่อรัณนั้นถอดเสื้อ

"ฉันร้อน เธอไม่เห็นหรือไงว่า แม่บ้านปิดแอร์แล้ว" อ่า ใครใช้ให้เขาถอดเสื้อเดินแบบนี้กัน นี้ไม่นึกจะอายบ้างเลยหรือไง

ร่างบางในมือถือลูกโบว์ลิ่งขึ้นมาแต่กับไม่ยอมโยนมันลงไป อรัณที่เห็นเช่นนั้นถึงกับขมวดคิ้วขึ้น ที่มิริณเอาแต่จ้องใบหน้าของเขาอย่างไม่ยอมเก็บอาการ กล้าม และแผ่นอกแกร่งที่มีซิกแพคเป็นมัดๆ คนตัวเล็กถึงกับยืนนิ่ง

"เป็นผู้หญิงต้องมองผู้ชายเขาเทะโลมแบบนี้ไหม" เสียงทุ่มที่เอ่ยออกมาทำเอา ร่างบางที่เผลอมองกล้ามเป็นมัดๆ ถึงกับได้สติ ที่เธอนั้นเผลอตัวมองเข้าเขาจนได้ มิริณได้ยินเช่นนั้นถึงกับเบื้องหน้าหนี

"มองแบบนี้เอามือเธอมาจับหน้าอกฉันเลยไหม ในตัวฉันเธอเองก็เห็นมันจนหมดแล้วนิ" มิริณที่โดนอรัณจับได้เช่นนั้น ร่างบางถึงกับเบื้องหน้าหนีด้วยความ เขินอาย ให้ตายเถอะทำไมเขาต้องเอาเรื่องคืนนั้นมาพูดด้วย ฉันอุตส่าห์ลืมมันไปหมดแล้ว

"ฉันไม่น่ามองเขาด้วยสายตาแบบนี้เลย มิริณนะมิริณ"

"ว่าไงถ้าเธอชอบจับ ฉันยอมให้เธอจับหน้าอกฉันเล่นได้ทั้งคืนนะ" อรัณไม่พูดเปล่าพร้อมกับเดินเข้ามาหาร่างบางตรงหน้า มิริณที่โดนคนใจร้ายรุกเข้าหาอย่างหนักถึงกับหน้าแดงและถอยหนี

"เอาดิอยากจะจับหน้าอกฉัน ไม่ใช่เหรอ"

"เปล่านะ ฉันไม่ได้อยากจับ" มิริณปฏิเสธออกมาไม่เต็มเสียง พร้อมกับเบนสายตาออกจากใบหน้าอันหล่อเหลาของคนตรงหน้าไปยังลู่โบว์ลิ่งแทน อรัณที่เห็นเช่นนั้นถึงกับหลุดยิ้มออกมา วันนี้ด้านอรัณเองก็ลืมตัวหลุดอะไรออกมาต่อหน้ามิริณอยู่หลายครั้งเช่นกัน มิริณที่เห็นอรัณเข้าใกล้ถึงกับรีบเปลี่ยนเรื่องขึ้นทันที

"ฉันพร้อมแข่งกับพี่แล้ว"

"เอาดิฉันให้สิทธิ์เธอโยนและทำคะแนนนำก่อนเลย" ด้านมิริณเขาช่างกล้าพูดนะ ถึงยอมให้ฉันก่อน แต่นั้นใช่ว่าฉันจะเอาชนะแชมป์มหาลัยอยางเขาได้

มิริณแข่งกับอรัณไปนานหลายนาที จนกระทั่งจบเกมลง ในที่สุดฉันก็ไม่สามารถเอาชนะคนอย่างเขาได้จริงๆ

"เธอแพ้ฉัน" อรัณยกยิ้มออกมาอย่างพอใจ

"พี่รู้คำตอบนั้นตั้งแต่แรกอยู่แล้ว" มิริณสวนกลับอรัณทันที ขณะที่ทั้งสองยังคงช่วยกันเก็บอุปกรณ์ลงที่เดิม

"ฉันเปลี่ยนใจแล้ว ถึงฉันจะชนะหรือเธอชนะ ยังไงฉันก็ไม่ยอมปล่อยเธอไป" มิริณถึงกับชะงัก และหันมองหน้าอรัณ

"เปลี่ยนเป็น ให้เธอเลี้ยงข้าวฉันซักมื้อละกัน" อรัณไม่พูดเปล่า

!! หมับ !! ฝ่ามือหนาจับเข้าที่ข้อมือเล็กของมิริณทันที ร่างบางที่โดนเช่นนั้นถึงกับหันมองอรัณด้วยสีหน้าไม่พอใจ

"นี้พี่อรัณ พี่ปล่อยฉันก่อนนะ พี่จะพาฉันไปไหน"

"ที่ไหนก็ได้ที่เธอยอมเลี้ยงข้าวฉันซักมื้อ" อรัณลากคนตัวเล็กมาที่รถซุปเปอร์คาร์คันหรูของตนจนสำเร็จ

ด้านมิริณเองก็มีสีหน้าลำบากใจกลัวว่าคนอื่นจะมาเห็นเธอและเขา อรัณเสมองคนตัวเล็กที่ไม่ยอมขึ้นรถของตน ทั้งที่นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เธอนั่งรถของเขา

"เชิญ ครับคุณผู้หญิง เธอจะยืนมองรถฉันอีกนานไหม เร็วสิฉันหิว ท้องเริ่มร้องแล้ว" อรัณเอ่ยมาเสียงเข้มปนดุให้กับคนตัวเล็กที่ไม่ยอมขึ้นรถ

"อย่าคิดชิงหนีนะมิริณ เธอแพ้โบว์ลิ่งฉันแล้ว" เมื่อหนีไม่ได้ร่างบางก็จำใจยอมขึ้นรถของอรัณ

มิริณเข้ามาอยู่ในรถของอรัณ แต่ก็ไม่ได้คาดเบลท์ เพราะรถของอรัณที่เธอนั่งอยู่นั้น มันหรูมากเกินไป อรัณที่เห็นเช่นนั้น ร่างสูงถึงกับเอียงตัวแล้วโน้มใบหน้าเข้าหามิริณ ใบหน้าทั้งสองแทบจะชิดกัน อรัณสบตาเข้ากับคนตัวเล็กตรงหน้า

!! ตึก ตึก !! มิริณถึงกับหัวใจเต้นขึ้นมาถี่ยิบ เมื่อใบหน้าของเขาและเธอนั้นใกล้ชิดกันมากเกินไป อรัณโน้มตัวไปข้างหน้า ร่างบางรู้สึกถึงลมหายใจอุ่นๆ และกลิ่นของบุหรี่จางๆ ที่มันติดมากับเสื้อของอรัณ

"อย่านะ พี่จะทำอะไร" ร่างบางเอ่ยด้วยน้ำเสียงตกใจ ที่อรัณโน้มใบหน้าเข้ามาจนจมูกคมสันชิดกับแก้มของเธอ มือหนาจับเข้าที่สายคาดเบลท์ และชูมันขึ้นมา

"ฉันแค่จะคาดเบลท์ให้เธอ" เมื่อได้ยินเช่นนั้นมิริณถึงกับหลบสายตาคมของคนตัวโต อรัณที่เห็นเช่นนั้นถึงกับผุดรอยยิ้มขึ้นมาที่มุมปากอย่างพอใจ จากนั้นร่างสูงก็ขับรถออกจากมหาลัยทันที อรัณขับออกจากมหาลัยได้ไม่นาน ร่างสูงเสมองคนที่เอาแต่นั่งนิ่งถึงกับเอ่ยทำลายความเงียบ

"อย่าลืมนะว่า มื้อนี้เธอเป็นคนเลี้ยงข้าวฉัน ร้านไหนดี บอกร้านฉันได้นะ" เสียงทุ่มเอ่ยกับคนที่นั่งนิ่ง อรัณพาเธอนั่นขับออกมายังโซนร้านอาหารที่อยู่ย่านใจกลางเมือง มิริณที่เห็นเช่นนั้นใบหน้าหวานถึงกับคิดหนัก

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พลาดรักร้ายนายวิศวะ