ด้านมิริณหลังจากที่ฉันเดินออกมาจากพี่อรัณแล้วนั้น ร่างบางก็เดินเข้ามายังห้องสมุดพร้อมกับต้า ที่เดินเคียงคู่มากับเธอ ขวัญข้าวและบีนาที่เห็นทั้งคู่เดินมาด้วยกันถึงกับอดแซวเพื่อนไม่ได้
"แน่ๆ ทำไมพวกเธอสองคน..." บีนาเสมองใบหน้าของมิริณและต้ามาเพื่อต้องการคำตอบ
"ไม่มีอะไรแค่บังเอิญเท่านั่นยะ" มิริณตอบทั้งสองสาว จากนั้นไม่ถึงสิบนาน เทนทันเพื่อนสนิทอีกคนของต้าก็เข้ามาสมทบ สมาชิกในกลุ่มของพวกฉันก็มากันครบพอดี จากนั้นยัยขวัญข้าวก็ทำหน้าที่แจกแจงงานหัวข้อแต่ละข้อให้พวกเรา
"ฉันขอให้พวกเราทุกคนส่งงานกันภายในวันจันทร์หน้านะ เพราะฉันต้องเอาของทุกคนมารวบรวมอีกที ก่อนที่เราจะถ่ายทำกันที่ต่างจังหวัด" ยัยขวัญขว้าบอกกับพวกฉันมา ซึ่งโปรเจ็คในครั้งนี้เราจะนำเสนอเป็นเรื่องสั้นที่นำเสนอเป็นคลิปวิดีโอ เกี่ยวกับโปรเจ็คที่เราทำ และพวกเราทุกคนก็ตกลงกันจะไปถ่ายทำที่นครนายกนั้นเอง
"มีใครสงสัยอะไรไหม" ยัยขวัญข้าวถามพวกฉันมา
"ยังไม่ทำ เลยยังไม่มีอะไรสงสัย"ยัยบีนาตอบยัยขวัญข้าวได้กวนมาก
"งั้นตามนี้นะทุกคน" จากนั้นพวกเราก็แยกย้ายกันหาข้อมูลคนละหัวข้อ
ฉันที่หาข้อมูลเพื่อรอเวลาเรียนอีกทีในช่วงบ่ายสาม
"มิริณมันจะบ่ายสามแล้ว ฉันว่าเราไปหาอะไรกินกันเถอะ ฉันอยากกินผลไม้หนะ" ยัยบีนาที่นั่งอยู่ข้างๆ ก็เอ่ยชวนฉันมาทันที
"เออ เรียกยัยขวัญข้าวด้วยสิ" ฉันเอ่ยกับยัยบีนาจากนั้นยัยบีนาก็เดินไปเรียกยัยขวัญข้าวเพื่อจะไปโรงอาหารคณะนิเทศกัน ร่างบางหยิบกระเป๋าผ้าขึ้นมาสะพานเพื่อจะเดินออกไปแต่นั้นจังหวะนั้น สมาร์ตโฟนในกระเป๋ากับสั่นขึ้นมา ใบหน้าหวานถึงกับขมวดคิ้วเพราะเป็นเบอร์แปลกที่ไม่ได้ระบุชื่อ มิริณชั่งใจซักพักแต่ก็กดรับสาย
[เธอเลิกเรียกกี่โมง] เสียงทุ่มอันคุ้นหูเอ่ยขึ้นมาใบหน้าหวานถึงกับขมวดคิ้ว เธอจำเสียงของเขาได้ดี
[พี่มีอะไรกับฉันหรือเปล่า] ร่างบางเอ่ยถามคนปลายสาย หึ! นี้เขามีเบอร์ฉันได้ยังไง หรือจะเอาจากคนที่บ้าน
[ทำไมต้องมีอะไรก่อนเหรอ ฉันถึงจะคุยกับเธอได้] อรัณเอ่ยมาด้วยน้ำเสียงที่ไม่น่าฟัง
[เลิกกี่โมง]
[หกโมง]
[เลิกเรียนแล้วมารอฉันที่ลานจอดรถ คณะวิศวะ]
[ทำไมฉันต้องไปด้วยละคะ] มิริณถามคนปลายสายด้วยความสงสัย
[จะให้ฉันไปดักรอเธอที่คณะอักษร หรือเธอจะมารอฉันเองก็เลือกเอา] ร่างสูงเอ่ยมาเสียงเข้ม จากนั้นก็ตัดสายไปทันที ให้ตายเถอะทำไมเขาต้องมาใส่อารมณ์กับฉันแบบนี้ หรือวันนี้เขาจะกลับบ้านแล้วให้ฉันกลับด้วยงั้นเหรอ นี้เขาบ้าไปแล้วหรือเปล่า เขาตกลงกับฉันแล้วนะ ห้ามมิวารู้เรื่องของเขาและฉัน มิริณถึงกับชักสีหน้าขึ้นมา แต่นั้นก็ไม่รอดพ้นสายตาของเพื่อนสนิทอย่างบีนา
"มิริณ มิริณแกเป็นอะไรหรือเปล่า" เสียงเรียกของบีนาทำเอามิริณถึงกับหันมองหน้าเพื่อน
"เปล่าหนะแก" มิริณตอบแค่นั้นจากนั้นก็เดิมตามเพื่อนไปทันที จนกระทั่งถึงชั่วโมงเรียน อีกยี่สิบนาทีจะถึงหกโมง ใบหน้าหวานถึงกับมีสีหน้าคิดหนักที่อรัณนั้นให้เธอไปรอที่ลานจอดรถ สมุดที่ว่างอยู่บนเก้าอี้เลคเชอร์ที่ถูกคนตัวเล็กนั้นขีดเขียน จนเต็มหน้ากระดาษ
[ไป ไม่ไป แล้ว ทำไมฉันไป คนบ้า ชอบบังคับ เผด็จการ เกลียดๆ ที่สุด] มิริณเขียนจบมันเต็มหน้ากระดาษ จากนั้นไม่นานไลน์ก็แจ้งเตือนขึ้นมา
Line [คนใจร้าย] เลิกเรียนยัง อยู่ไหนแล้ว
ใช้ทุกคนฟังไม่ผิดหรอกเมื่อรู้ว่าเป็นเบอร์เขาฉันก็บันทึกชืิ่อนั้นทันที
Mirin ยังไม่เลิก
[คนใจร้าย] ฉันรอที่คณะวิศวะ ถึงแล้วก็ไลน์มา อย่าให้ฉันต้องรอนาน
ฉันเลือกที่จะอ่านแต่ไม่ตอบเขา หึ...! แล้วใครคิดว่าฉันจะไปรอเขา อย่างที่เขาบอกละ ใครอยากรอก็รอไปสิ จากนั้นร่างบางก็เก็บสมาร์ตโฟนลงในกระเป๋า ไม่นานอาจารย์ประจำคลาสก็ปล่อย และวันนี้อาจารย์สอนเลทไปสิบห้านาทีเนื่องจากสอนให้จบบท
ร่างบางเดินลงมาจากตึกของคณะ พร้อมกับเหลือบมองนาฬิกาที่ข้อมือตอนนี้หกโมงยี่สิบนาที เลทมายี่สิบนาทีเขาเป็นคนมีความอดทนต่ำขนาดนี้คงไม่รอฉันหรอก เมื่อคิดได้ดังนั้นร่างบางก็สาวท้าวไปยังหน้ามหาลัยเพื่อจะไปขึ้นรถเมย์กลับทันที แต่ขณะที่ร่างบางกำลังเดินอยู่ฟุตบาทในมหาลัยอยู่นั้น
"มิริณ มิริณ" เสียงต้าที่ตระโกนและขับบิ๊กไบท?มาจอดที่หน้าฉัน
"ทำไมไม่อยากไปกับฉัน แต่อยากจะซ้อนท้ายกับไอ้บิ๊กไบท์งั้นเหรอ" อรัณจับและบีบเข้าที่แขนเรียวด้วยแรงของตนพร้อมตวาดมิริณมาเสียงดังลั่น ทำเอาร่างบางถึงกับสะดุด มิริณถึงกับนิ้วหน้าด้วยความเจ็บที่อรัณแบบเข้าที่แขนของเธอ
"ปล่อย...ฉันเจ็บนะ" มิริณสบตาเข้ากับคนใจร้าย อรัณถึงยอมปล่อยมือลงและสบตากับมิริณที่ร่างบางนั้นน้ำตาคลอเบ้า มิริณเธอทั้งเจ็บและรู้สึกน้อยใจ ที่จู่ๆ อรัณก็มาโมโหใส่เธอเป็นไม่มีเหตุผล
"ฉันไม่อยากไปกับใครทั้งนั้นแหละ ฉันขอร้องพี่เลิกยุ่งกับฉันเสียที ยิ่งพี่ทำแบบนี้พี่ยิ่งทำให้ฉันอึดอัด และลำบากใจ ฉันไม่อยากมีปัญหากับผู้หญิงของพี่นะพี่อรัณ" มิริณเอ่ยมาด้วยเสียงนิ่งต่างจากเมื่อครู่ ด้านมิริณทำไมแค่ ฉันเอ่ยปากให้เขาเลิกยุ่งกับฉันทำไมฉันถึงรู้สึกเจ็บและหน่วงได้มากขนาดนี้ ทำไมต่อหน้าเขา ฉันไม่ต้องการให้เขาเห็นว่าฉันเองก็มีความรู้สึกหวั่นไหวไปกับเขา ฉันพยายามที่จะไม่ให้น้ำตาไหลออกมาต่อหน้าคนใจร้าย แต่มันกำลังจะทรยศ ร่างบางรู้สึกร้อนๆ ที่ขอบตาและมีน้ำใสๆ ไหลออกมาอย่างไม่รู้ตัว
คนตัวโตที่เห็นเช่นนั้นถึงกับชะงัก อรัณที่เขาคิดมาตลอดว่ามิริณเป็นคนที่เข้มแข็งมาก พอเห็นเช่นนี้อรัณถึงกับทำตัวไม่ถูก อารมณ์โกรธโมโหเมื่อครู่มันกับหายไปหมด
มิริณพยายามที่จะปิดประตูลงจากรถเขา แต่ก็ไม่เป็นผล เมื่ออรัณนั้นจับแขนเธอเอาไว้ มิริณหันมาเผชิญหน้ากับคนใจร้าย ใบหน้าหวานมีน้ำใสๆ ไหลออกจากหางตา
"อยู่นิ่งๆ สิ" ร่างสูงเอ่ยมาเสียงเรียบ จากนั้นฝ่ามือหนาก็ค่อยๆ เช็ดน้ำตาให้กับคนตัวเล็กออกจากใบหน้าของเธออย่างอ่อนโยน มิริณที่ไม่เคยเห็นอรัณในมุมร่างบางถึงกับชะงัก
"ขอโทษที่ฉันว่าเธอแรงเกินไป ให้เลิกยุงกับเธอฉันทำมันไม่ได้จริงๆ" อรัณเอ่ยออกมาจากความรู้สึก ภายในใจจริง เขาไม่ได้โง่ที่ดูตัวเองไม่ออกว่าเขารู้สึกยังไงกับเธอ
"ฉันไม่อยากมีปัญหากับผู้หญิงของพี่"
"เรื่องนั้นฉันจะไม่ให้มันเกิดขึ้นกับเธอแน่นอน เธอช่วยให้เวลาฉันหน่อย" อรัณเอ่ยกับคนตัวเล็กด้วยสายตาที่สื่อความหมาย
"ที่หมายความว่าไง" มิริณหันมาสบตากับคนใจร้าย ด้วยท่าทีสับสน
"ขนาดนี้แล้วเธอยังไม่รู้ตัวอีกเหรอ ว่าฉันรู้สึกยังไงกับเธอ" ปากหยักหนาเอ่ยมาอย่างที่ใจคิด
"ฉันไม่รู้หรอกคะ เพราะพี่ก็มีแฟนอยู่แล้ว" หึ...! ร่างบางเอ่ยพร้อมกับเสมองใบหน้าของอรัณ คนตัวโตไม่ตอบแต่เบนสายตาออกจากใบหน้าหวาน จากนั้นก็ขับรถออกไป
มิริณทำไมเขาไม่ยอมพูดอะไรให้มันเคลียร์มากกว่านี้ ที่จะทำให้เธอหวั่นไหวไปกับเขาถึงไหนกันนะคนบ้า มิริณได้แต่คิดในใจขณะที่นั่งรถออกมากับอรัณ รู้ตัวอีกทีร่างสูงก็ลงจากรถไปเสียแล้ว อรัณได้แต่โบกมือเรียกให้คนตัวเล็กนั่นตามลงไป
"หึ! ...นี้เขาพาฉันมาที่นี่ทำไมกัน" มิริณมีสีหน้าอันครุ่นคิดแต่นั้นก็ยอมเดินตามอรัณลงจากรถไป
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พลาดรักร้ายนายวิศวะ