อรัณเสมองใบหน้าของมิริณขณะที่ร่างบางเดินเข้ามาหาเขา
"เชิญน้องผู้หญิงข้างในเลยนะคะ" พนักงานเดินเข้ามาและเอ่ยมาด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม มิริณถึงกับขมวดคิ้วมาด้วยท่าทีสงสัย
"พี่พาฉันมาที่นี่ทำไม" มิริณเอ่ยถามคนตัวโตที่พาเธอเข้ามาที่โรงพยาบาลขนาดเล็กที่เป็นกลึ่งคลินิก
"ทำเลสิค" อรัณเอ่ยกับมิริณที่เธอเอาแต่ทำหน้าสงสัย
"ห๊ะ...ทำเลสิค" มิริณเอ่ยขึ้นมาแทบจะไม่เชื่อหู หึ! นี้เขาคงได้ยินที่ต้าคุยกับฉันงั้นสิ
เรื่องอะไรเขาจะยอมให้ไอ้หน้าหอกนั่นสะเออะพาเธอมาทำ ฝันไปเถอะ และอีกอย่างที่เขาพามิริณมาที่นี่เพราะเธอจะได้ไม่ต้องใส่แว่นตาที่มันหนาเตอะแบบนี้ ซึ่งเขาไม่ชอบและมันดูขัดตาเขาเอามักมากๆ ขื่นให้เธอใส่ไปแว่นแบบนี้ มีหวังไอ้หน้าหอกนั้นแย่งแว่นเธอไปอีก อรัณถึงกับยอมควากกระเป๋าหนักพามิริณมาทำเลสิคตา
"เธอคิดว่าฉันจะพาเธอมาตัดแว่นใหม่ หรือไง" อรัณเสมองคนข้างที่เอาแต่ทำตาโตอยู่เช่นนั้น
หึ...! ทำเลสิคไม่ใช่ราคาหลักร้อยนะ นี้เขาเข้าใจอะไรผิดไปหรือเปล่า แพงขนาดนั้นฉันไม่มีปัญญาจ่ายหรอกนะ และโรงพยาบาลที่เขาพาฉันมาทำก็หรูหราลูกค้ากระเป๋าหนัก เมื่อคิดได้เช่นนั่นมิริณจับเข้าที่แขนของคนตัวโต
"ฉันขอคุยกับพี่หน่อย" มิริณดึงแขนของอรัณเดินออกมายังด้านนอก
"ฉันทำมันไม่ได้หรอกคะ" มิริณเอ่ยกับอรัณมามันแพงมากเกินไปสำหรับคนอย่างเธอ
"ทำไม" เสียงทุ่มเอ่ยถามคนตรงหน้ามา
"พี่ก็เห็นว่ามันแพงมากๆ จะคนจนอย่างฉันจ่ายไม่ไหวหรอกคะ" มิริณเอ่ยกับร่างสูงมา
"เธอคิดว่าฉันจะให้เธอจ่ายเองงั้นเหรอ มาสิ" อรัณเอ่ยพร้อมกับถอดแว่นตาของมิริณที่มันบดบังใบหน้าของคนเธอออกอย่างเบามือ
"ฉันเคยทำแว่นเธอแตกไปครั้งหนึ่ง ถือว่าฉันจ่ายค่าทำเลสิคจะชดเชยให้กับเธอแทนละกัน" อรัณเอ่ยพร้อมกับจับแขนเรียวเล็กหวังจะพามิริณกลับเข้าไป
"ฉ้นไม่ต้องการมันหรอกคะ ใส่แว่นแบบนี้มันก็ดีอยู่แล้ว พี่เป็นคนพูดเองว่าห้ามใช้ตังของครอบครัวพี่ ค่าทำเลสิคมันแพงเกินไป พี่เก็บตังไว้เถอะ" อรัณได้ยินคนตัวเล็กยอกย้อนเช่นนั้นถึงกับคอแข็งขึ้นมา ยอมรับว่าวันนั้นโกธเธอ เลยเผลอพูดจาทำร้ายจิตใจเธอจนเกินไป
"แต่ฉันเต็มใจจ่ายให้เธอ" อรัณเอ่ยก็เอ่ยมาอย่างไม่ยอม คนเอ่ยเขาจ่ายให้ตั้งเยอะกับมิริณที่เขาถูกใจเธอมากขนาดนี้ หลักหมื่นเขายินดีที่จะจ่ายให้กับเธอ ยอมกลื้นน้ำลายซักครั้งจะเป็นไรไป
"ฉันไม่อยากเป็นหนี้บุญคุณใคร" มิริณเอ่ยหวังจะเดินหนีอรัณ
!! แป๊ก !! แต่คนตัวโตกับไม่ยอม อรัณโยนแว่นตาของมิริณลงกับพื้น
!! แก๊ก !! และถือวิสะเหยียบแว่นตาของเธอจนมันแตกละเอียด มิรอณถึงกับตาค้าง ที่เขาตั้งใจเหยียบแว่นของเธอ มิริณมองหน้าคนใจร้ายด้วยท่าทีโมโห
"ทีนี่เธอจะเข้าไปทำได้หรือยัง" ใบหน้าอันหล่อเหล่าของคนใจร้ายเอ่ยมาด้วยท่าทีไม่รู้สึกผิดเลยชักนิด มิริณได้แต่มองหน้าหล่อๆ ของคนใจร้ายด้วยความโมโหฉันอย่ากจะซัดหน้าหล่อๆ ของเขาเสียเต็มทน
เมื่ิออรัณไม่ยอมให้เธอกลับเปล่า มิริณก็จำใจยอมเข้าไปทำเลสิคตากับคุณหมอตามที่อรัณต้องการ
ผ่านไปครึ่งชั่วโมงมิริณก็เดินออกมาพร้อมกับมีอะไรขอบตาของเธอเอาไว้ทั้งสองข้าง
"ทั้งหมดแปดหมื่นบาทคะ" เสียงพนักงานเอ่ยกับร่างสูง จากนั้นอรัณก็ยื่นบัตรเครดิตให้กับพนักงานทันที อรัณพามิริณขับรถออกมาจากโรงพยาบาล จากนั้นก็พาร่างบางขับรถกลับเข้ามายังคฤหาสน์
"พี่จอดให้ฉันตรงนี้เถอะ" หลังจากที่ผาตัดทำเลสิคมาฉันก็มองเห็นนะแต่ยังไม่ถึงกับร้อยเปอร์เซ็นต์ ฉันบอกให้พี่อรัณจอดให้ฉันลงก่อนที่จะถึงคฤหาสน์
"ทำไม กลัวว่าพี่สาวเธอจะเห็นงั้นเหรอ" มิริณไม่ตอบ เขาไม่น่าจะถามฉันนะ
"พี่สาวเธอไป ญี่ปุ่นกับพี่คิณเมื่อช่วงเช้า นี้อย่างบอกนะว่าเธอไม่ทราบ" เออ ใช่สิเธอลืมไปเสียสนิทว่ามิวานั้นไปดูงานกับสามีของเธอ
"ถึงมิวาไม่อยู่ และคนในบ้านก็อยู่นิคะ ฉันไม่อยากให้ใครสงสัย" มิริณเอ่ยมาแต่นั้นใช้ว่าอรัณจะสนใจ ร่างสูงขับรถเข้าคฤหาสน์โดยไม่สนใจคำพูดของมิริณเลยซักนิด
รถสปอร์ตคันหรูของคุณชายของบ้านเคลื่อนเข้ามาจอดที่โรงรถในเวลาเกือบจะสามทุ่ม ปิ่น และพงศ์สาวใช้และคนขับรถที่อยู่ในคฤหาสน์ถึงกับงงงวยที่วันนี้คุณชายเล็กของบ้านนั้นเข้าเข้าคฤหาสน์ ทั้งสองถึงกับขมวดคิ้วขึ้นมาอีกครั้ง เมื่อเห็นร่างบางอันคุ้นตาของมิริณนั้นลงมาจากรถของอรัณ
"น้องมิริณคะ ตาเป็นอะไรคะ" ปิ่นที่เห็นมิริณนั้นถูกครอบดวงตาทั้งสองข้างถึงกับเอ่ยถามมาด้วยท่าทีสงสัย
"ริณทำเลสิคตามาคะพี่ปิ่น" มิริณตอบ แปลกแฮะ ที่คุณอรัณมาพร้อมกับน้องมิริณ
!! ก๊อก ก๊อก !! แถวนี้คงไม่มีใครหรอกนอกจากพี่ปิ่น เมื่อร่างบางคิดว่าเป็นแม่บ้าน มิริณก็ลุกขึ้นไปปิดไฟและปิดประตูทันที
!! แก๊ก !! ร่างบางที่เปิดประตูออกมา ร่างบางถึงกับชะงัก ที่เห็นอรัณนั้นยืนอยู่หน้าห้องของเธอ
"พี่มีอะไรหรือเปล่า" มิริณเอ่ยถามร่างสูง แต่นั้นใช่ว่าคนตัวโตจะคิดสนใจ อรัณถือวิสาสะเจ้าของบ้าน เดินเข้าห้องของคนตัวเล็กอย่างหน้าตาเฉย มิริณที่เห็นเช่นนั้นถึงกับตกใจ ที่อรัณเดินเข้าห้องนอนของเธอ ที่มีเสื้อผ้าชุดชั้นในที่แขนอยู่ข้างตู้ ที่มันห้องส่วนตัวของเธอนะ ทำไมเขาถึงได้ทำอะไรตามใจตัวเองแบบนี้
"ทำไมฉันเข้ามาห้องเธอไม่ได้หรือไง"
"เปล่า พี่มีธุระอะไร ค่อยคุยพรุ่งนี้ละกัน มันดึกมากแล้วฉันง่วง" มิริณเอ่ยมาด้วยท่าทีง่วงนอนสุดๆ เนื่องจากฤทธิ์ยาแก้อักเสบที่เธอทานเข้าไปก่อนหน้า ไม่มีเวลามีคุยกับเขาหรอกนะ
"ง่วงเธอก็นอนไปสิ" เสียงเข้มเอ่ยบอกกับคนตัวเล็กมา
"ก็พี่อยู่ในห้องฉันๆ จะนอนได้ยังไง" มิริณเอ่ยกับอรัณมาด้วยสีหน้าปลงๆ แต่นั้นใช่ว่าคนตัวโตจะคิดสนใจ
"จะเรื่องมากไปทำไม ก็นอนด้วยกันไปเลยนิแหละ" อรัณเอ่ยพร้อมกับผุดรอยยิ้มออกมาให้กับมิริณอย่างคนอารมณ์ดี
"ห๊ะ...พี่อรัณนี้พี่จะบ้า เหรอ พี่จะนอนห้องฉันทำไม ห้องมันทั้งเล็กและแคบพี่กลับไปนอนที่ห้องพี่เถอะคะ" แต่นั้นใช่ว่าอรัณจะคิดสนใจ ร่างสูงกระตุกมือของคนตัวเล็กที่ยื่นสั่งเขาฉอดๆ แค่กระตุกเบาๆ มิริณก็ล้มทับคนตัวโตอย่างไม่ทันตั้งตัว ร่างสูงกอดคนตัวเล็กเอาไว้แน่นมิริณอยู่ในท่านอนทับบนโตของอรัณ
ชุดนอนผ้าบางที่ปิดเรือนร่างของคนตัวเล็กเอาไว้ บางจนมองทะลุไปถึงไหนต่อไหน หน้าอกที่ไร้กรอบของยกทรงเสียดสีเข้ากับอกแกร่งของคนตัวโต ฝ่ามือหนาของคนฉวยโอกาส บีบเข้าที่เต้าอกของของตัวเล็กอย่างเบามือ ร่างบางรู้สึกได้ถึงอันตรายที่กำลังจะเกิดขึ้น
"อย่านะ" มิริณร้องห้ามอรัณที่บุกเข้ามาในห้องนอนของเธออย่างน่าเกลียด
"คิดว่าฉันจะปล่อยเธอไหม" อรัณไม่พูดเปล่า อรัณจ้องคนตรงหน้า ปากหยักหนาของคนตัวโตประกบเข้ากับริมฝีปากบางของคนตัวเล็กทันที ยิ่งมิริณดิ้นมากเท่าไหร่ หน้าอกที่ใหญ่เกินตัวมันยิ่งเสียดสีกับอกแกร่งของเขาไปมา
อรัณแทรกลิ้นร้อนเข้าโพรงปากของคนตัวเล็ก แต่ตวัดเรียวลิ้นร้อนไปมาอย่างพอใจ จากนั้นฝ่ามือหนาก็เลือนมาปลดชุดนอนสายเดียวของคนตัวเล็กออกจากตัวเธอทีละข้าง
มิริณยังใช้มือจับเสื้อสายเดียวของเธอเอาไว้แน่น ไม่ยอมให้อรัณนั้นปลดออกได้ง่ายๆ
อรัณมอบจูบให้คนตัวเล็ก จนมีเสียงดัง ขึ้น ทั่วทั้งห้อง ปากบางจิ้มลิ้มยิ่งเกี่ยวและตวัดเข้ายิ่งหลงไหลยากที่จะถอนตัว
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พลาดรักร้ายนายวิศวะ