ด้านมิริณหลังจากที่คุณแพทมาหาเรื่องฉันในวันนั้น นี้มันก็ผ่านมาหนึ่งสัปดาห์ได้แล้ว ที่แปลกไปคือพี่อรัณฝ่ายนั้นหลังจากที่เขามาส่งฉันที่คฤหาสน์ฉันก็ไม่เจอหน้าเขาอีกเลย เขาไม่โทรหรือไลน์มาหาฉัน แต่จะให้ฉันเป็นฝ่ายติดต่อไปเอง ฉันก็ไม่กล้าเพราะฉันรู้ดีว่าฉันอยู่ในฐานะอะไร
ฉันพยายามไปเจอเขาที่ชมรมแต่พี่อรัณก็ไม่เข้า นี้ผ่านมาหลายวันแล้วที่เราไม่ได้เจอกัน แม้แต่ช่วงวันหยุดเสาร์อาทิตย์ที่เขาเคยไปค้างคฤหาสน์ แต่สัปดาห์ที่ผ่านมาคฤหาสน์เงียบสงบ ไร้เงาของคนที่ฉันอยากเจอ
ตลอดหลายวันที่ผ่านมา ด้านขวัญข้าวและบีนา ฉันรู้สึกได้ถึงความเปลี่ยนไปของยัยมิริณนะ ตั้งแต่วันที่เพื่อนเข้าไปคุยกับยัยพี่แพทในวันนั้น หลังจากนั้นมามิริณไม่ร่าเริงและสดใสเอาเสียเลย ถามอะไรไปเพื่อนก็เอาแต่ตอบว่าไม่มีอะไร คนที่อยู่ด้วยกันแทบจะทุกวันย่อมรู้สึกได้ถึงความผิดปกติ ขวัญข้าวได้แต่เสมองใบหน้าเพื่อนขณะที่ทั้งสามสาวนั่งรอเวลาเรียนที่ม้าหินอ่อนโต๊ะประจำ
"แกอีกตั้งครึ่งชั่วโมงกว่าจะถึงเวลาเรียน เราไปดูงานนิทรรศการกันไหม" บีนาที่นั่งเล่นสมาร์ตโฟนเอ่ยขึ้นมากับทั้งสองสาว
"ว่าไง ยัยมิริณแกไปป่าว" ยัยขวัญข้าวเอ่ยมาถามฉันขณะที่ฉันก็เอาแต่นั่งเล่นสมาร์ตโฟนอยู่เช่นนั้น
"ไปเถอะน๊า มิริณฉันไม่รู้หรอกนะว่าแกมีเรื่องอะไรไม่สบายใจ ฉันว่าพักนี้แกดูแปลกๆ ไม่เหมือนแกเลย แกกำลังคิดถึงใครบางคนอยู่หรือเปล่า" บีนาเอ่ยมาพร้อมกับเสมองใบหน้าเพื่อนด้วยท่าทีสงสัย
"เปล่า ฉันไม่เป็นอะไร" คนปากหนักปากแข็งได้แต่ตอบเพื่อน ทั้งที่ในใจลึกๆ มันกับรู้สึกสวนทาง เมื่อในใจอยากจะปฏิเสธคำเอ่ยชวนของเพื่อน แต่ก็ยอมลุกขึ้นเพื่อจะไปตามที่ชวน หึ...! นี้ฉันกำลังกลัวอะไรอยู่หรือเปล่า มิริณได้แค่คิดในใจจากนั้นก็ยอมเดินไปกับทั้งสองสาว
@ลานกิจกรรมมหาลัย
ร่างบางในชุดนักศึกษากระโปรงพลีทยาวเพียงถึงเข่าเดินเคียงคู่มากับเพื่อนสนิทอย่างขวัญข้าวและ บีนา ในงานมีซุ้มต่างๆ ของคณะถูกจัดนิทรรศการ มีการรวมเล่นกิจกรรมและตลาดนัดของเหล่านักศึกษาและบุคลลภายนอกที่ตั้งซุ้มขายของ ด้านมิริณร่างบางเดินเข้าออกซุ้มนั้นและชิมพวกของทานเล่นซุ้มต่างๆ
และสุดท้ายร่างบางก็เดินไปหยุดที่ซุ้มของกิ๊ฟช็อปที่มีที่คาดผมและกิ๊ฟติดผมลายน่ารัก เมื่อจ่ายตังเสร็จร่างบางที่กำลังจะเดินออกจากร้าน สายตากับสะดุดเข้ากับร่างสูงของคนที่เธอแสนจะกำลังคิดถึง มิริณสบตาเข้ากับสายตาคมเข้มของอรัณที่จ้องมองเธอมาก่อนแล้ว
แขนแกร่งของคนตัวโตถูกควงมากับแฟนสาว แพทที่เจอมิริณภายในร้าน หญิงสาวถึงกับยกยิ้มออกมาด้วยท่าทีพอใจ ยิ่งเห็นเธอและอรัณอยู่ด้วยกันมันยิ่งสะใจ
ด้านอรัณร่างสูงที่เจอมิริณอย่างไม่ทันตั้งตัว อรัณถึงกับชะงัก สายตาที่มิริณมองเขามาด้วยสีหน้าและความรู้สึกผิดหวัง ทั้งสองสบตากัน ก่อนที่มิริณจะเป็นฝ่ายหลบสายตาเขาและเดินออกจากร้านไปกับเพื่อนของเธอ ใบหน้าอันหล่อเหลาถึงกับชะงัก
ด้านมิริณหลังจากที่ไม่เจอเขามาหลายวัน พอฉันเจอกับเขาอยู่กับแฟนของเขาอย่างไม่ทันตั้งตัวเช่นนี้ ในใจมันกับรู้สึกเจ็บแปลบๆ ขึ้นมาในอก ใบหน้าหวานถึงกับซีดเผือกมาอย่างเห็นได้ชัด รู้สึกร้อนพราวๆ ขึ้นมาบริเวณของตา จนแทบอยากจะร้องไห้ มือบางรู้สึกเย็นเฉียบขึ้นมาอย่างไม่รู้ตัว สายตาที่เขามองฉันมันกลับมีแต่สายตาของความว่างเปล่า
"หึ...! ที่ผ่านมาฉันหวังอะไรกับเขามากไปหรือเปล่า ยังไงเสียตัวจริงของเขาก็คือคุณแพท ไม่ใช่ฉัน" ร่างบางรีบสาวเท้าเดินออกจากลานกิจกรรมมายังตึกคณะอักษรศาสตร์
ด้านขวัญข้าวและบีนาได้แต่มองหน้ากัน พวกเธอเองก็เห็นว่าอรัณนั้นอยู่กับแพท บีน่าได้แต่เดินมาตบไหล่ของเพื่อนอย่างปลอบโยน
"มิริณแกไม่เป็นไรใช่ไหม พวกฉันเข้าใจแกนะแกอยู่ใกล้ชิดกับพี่เขาขนาดนั้น มันก็มีใจให้กันบ้างเป็นธรราดา มันก็ไม่ใช่เรื่องแปลกอะไรที่แกจะมีใจให้พี่อรัณ"
"พวกแกรู้ ว่าฉันคิดยังไงกับเขา" มิริณชะงักสีหน้าพร้อมกับเอ่ยถาม
"อืม" ทั้งสองสาวได้แต่พยักหน้า
"ขอบใจพวกแกสองคนมากนะ ฉันไม่เป็นอะไร ฉันย่อมรู้สถานะของฉันและเขาดี ว่าฉันอยู่ตรงจุดไหน ฉันผิดเองที่เข้าไปยุ่งกับคนที่มีแฟนแล้ว" มิริณตัดพ้อมาด้วยท่าทีน้อยใจ
"ผิดที่พี่อรัณต่างหากที่เขามายุ่งกับแกๆ อย่าได้คิดมากเลย" ขวัญข้าวเอ่ยกับมิริณมาด้วยท่าทีปลอบประโลมเพื่อน
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พลาดรักร้ายนายวิศวะ