ตระกูลฉินต่างกระวนกระวายใจ รอคอยท่านโหวฟื้นด้วยความกังวล ตวนมู่สวี่ชิงก็หวังให้เขาฟื้นเร็วๆ เพราะมีเพียงฮู่กั๋วโหวฟื้นขึ้นมาเท่านั้น จึงจะพิสูจน์ความสามารถและคุณค่าของนางได้
ร่างกายยังไม่ฟื้นตัว ตอนกลางวันต้องใช้สมาธิสูงอีก รู้สึกเหน็ดเหนื่อยยิ่งนัก แต่นางยังคงฝืนทนต่อไป
จนกระทั่งค่ำมืด บ่าวในจวนตระกูลฉินวิ่งมาบอกนางด้วยความดีใจว่าท่านโหวฟื้นแล้ว ฮูหยินจึงขอให้นางไปพบ
ภายใต้สายตาที่เต็มไปด้วยความยินดีและคาดหวัง ตวนมู่สวี่ชิงแตะปลายนิ้วลงบนข้อมือของท่านโหวฉิน
ครู่หนึ่งต่อมา นางเงยหน้าบอกเจินซื่อว่า "ฮูหยินโหว โดยพื้นฐานอาการของท่านโหวถือว่าดีขึ้นแล้ว......"
พูดยังไม่ทันขาดคำ ผู้เฒ่าผมขาวโพลนสวมผ้าคาดหน้าผาก ถือไม้เท้าหัวมังกรเดินกะเผลกเร็วๆ เข้ามา พลางกล่าวว่า "บุตรข้ารักษาได้จริงหรือ? ใครคือหมอเทวดาที่ช่วยชีวิตบุตรชายข้า? รีบให้ข้าคำนับสามครั้งขอบคุณหมอเทวดาเถิด......"
ผู้ที่มาคือเหล่าไท่จวินแห่งตระกูลฉิน เฟิงซื่อมารดาของฉินเหลียงเจิ้น
ตระกูลฉินมีบุตรชายมากมาย แต่ที่ขึ้นสนามรบแล้วกลับมาได้มีไม่กี่คน เฟิงซื่อสูญเสียสามีในวัยกลางคน ต่อมาต้องพบกับความเจ็บปวดที่คนผมขาวส่งคนผมดำหลายครั้ง บัดนี้บุตรชายคนโตก็ใกล้สิ้นใจ นางรู้สึกปวดร้าวใจ ไม่อยากมีชีวิตอยู่ต่อไป
เมื่อวานก่อนฟ้าสางนางไปไหว้พระที่วัดผู่ฮว่าอันศักดิ์สิทธิ์ที่สุดนอกเมือง นางไม่อยากเห็นบุตรชายต้องมาตายต่อหน้าต่อตา เพราะไม่มีหมอคนใดรักษาได้ จึงได้แต่อธิษฐานขอให้พระพุทธองค์ช่วยคุ้มครอง
สังขารที่อายุมากกว่าจ็ดสิบกว่าปีคุกเข่าหน้าพระพุทธองค์หนึ่งวันหนึ่งคืน ตอนลุกขึ้นแทบจะเป็นลม แต่ในขณะนั้นเองก็ได้ยินบ่าวมารายงานว่าท่านโหวมีทางรอดแล้ว
เหล่าไท่จวินฟื้นคืนชีพในทันที ทั้งร้องไห้ทั้งหัวเราะขอบคุณพระพุทธองค์ หลังจากนั้นก็ก้มกราบแล้วรีบกลับจวนทันทีโดยไม่หยุดพัก
เอ่อ ผู้เฒ่าวัยขนาดนี้มาคำนับตนเองสามครั้ง? ตวนมู่สวี่ชิงรู้สึกว่ารับไม่ไหว จึงรีบลุกขึ้นหลีกทาง
เหล่าไท่จวินเห็นบุตรชายคนโตที่นอนอยู่บนเตียง สีหน้าซีดเซียวดั่งคนตายก่อนหน้านี้กลับมีเลือดฝาดขึ้นมาอีกครั้ง มิหนำซ้ำยังลืมตาได้ นางถึงกับตื่นเต้นจนน้ำตาไหลพราก "ลูกแม่ เจ้าเป็นอย่างไรบ้าง?"
ฮู่กั๋วโหวเอ่ยเสียงแหบพร่า "ทำให้ท่านแม่กับฮูหยินต้องเป็นห่วง ดีขึ้นมากแล้ว"
เจินซื่อเช็ดน้ำตาแห่งความปลาบปลื้ม พลางพยักหน้ารัว ๆ จากนั้นจึงนึกขึ้นได้ว่าต้องแนะนำผู้มีพระคุณให้มารดารู้จัก "ท่านแม่ นี่คือคุณชายสามจากตระกูลหัวหน้าสำนักหมอหลวงตวนมู่แห่งสำนักหมอหลวง ตวนมู่สวี่ชิง เป็นผู้ที่ช่วยถอนพิษให้ท่านโหว"
"คุณชายสามแห่งตระกูลตวนมู่? หัวหน้าสำนักหมอหลวงตวนมู่หงฮั่น?" เหล่าไท่จวินกล่าวพลางหันไปมองเด็กหนุ่มร่างเล็กที่ยืนอยู่ข้างๆ น้ำเสียงเต็มไปด้วยความประหลาดใจ
ช่วงหลายวันที่ผ่านมาจวนโหวปั่นป่วนวุ่นวาย นางจึงไม่ได้ยินข่าวคราวเรื่องที่ตระกูลตวนมู่ถูกจับกุม ทว่านางเคยได้ยินชื่อเสียงของตวนมู่หงฮั่นมาก่อน ว่าเป็นทั้งหมอฝีมือดีและมีคุณธรรม ดูเหมือนแม้แต่มามาที่คอยรับใช้ข้างกายยังเคยเผลอพูดถึงคุณชายสามของเขา ว่าเป็นคนประหลาด ไม่เคยออกจากบ้านตลอดทั้งปี ไม่พบปะผู้คน ไม่รู้ว่าเป็นโรคอะไรหรือมีเหตุผลอื่นแอบแฝง
ตวนมู่สวี่ชิงถูกสายตาสำรวจของเหล่าไท่จวินจ้องจนรู้สึกอึดอัดเล็กน้อย จึงยกมือคำนับตามธรรมเนียมของคนโบราณ "สวัสดีเหล่าไท่จวิน"
พูดจบก็แทบกัดลิ้นตัวเอง คนยุคโบราณเขาจะกล่าวทักทายด้วยคำว่า 'สวัสดี' ได้อย่างไรกันเล่า?
โชคดีที่คนตระกูลฉินต่างจดจ่ออยู่กับอาการป่วยของท่านโหว จึงไม่มีใครสนใจรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ เหล่านี้
เฟิงเหล่าไท่จวินได้สติ รีบส่งไม้เท้าให้บ่าวรับใช้ข้างกายแล้วทำท่าจะค้อมตัวคารวะนาง
ตวนมู่สวี่ชิงรีบประคองอีกฝ่ายไว้ "ท่านผู้เฒ่าไม่ต้องมากพิธีไป การช่วยชีวิตและรักษาคนป่วยคือหน้าที่ของหมออยู่แล้ว"
เฟิงเหล่าไท่จวินตบมือตวนมู่สวี่ชิงเบาๆ ดวงตาที่เคยขุ่นมัวกลับฉายแววสะท้อนน้ำตาคลอ สะอื้นจนพูดไม่ออกอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ "บุญคุณที่คุณชายสามช่วยชีวิตไว้ ตระกูลฉินจะไม่มีวันลืม"
สวี่ชิงเคยเจอสถานการณ์แบบนี้มามากแล้ว นางยิ้มอย่างสุภาพ แล้วหันไปมองเจินซื่อ "ฮูหยินโหว เตรียมการตามที่ตกลงกันไว้อีกครั้ง พรุ่งนี้จะถอนพิษให้คุณชายใหญ่"
ในดวงตาของเจินซื่อพลันฉายแววตื่นเต้นดีใจยิ่งนัก นางตื่นเต้นจนแทบไม่รู้ว่าจะเอ่ยสิ่งใดออกมาดี
ลงทุนลงแรงไปตั้งมากมายขนาดนี้ ก็เพื่อจะมีแต้มต่อไว้คุยกับเขาสักหน่อย แต่คนผู้นี้ กลับหายไปไหนเสียเล่า?
ตวนมู่สวี่ชิงทำได้แค่กัดฟันทนรอ แต่รอแล้วรอเล่า ก็ผ่านไปตั้งสามวัน
สองพ่อลูกตระกูลฉินอาการดีขึ้นทุกวัน ทั้งจวนต่างเห็นนางเป็นผู้มีพระคุณ เป็นแขกผู้ทรงเกียรติ ปฏิบัติต่อนางด้วยความเคารพและใส่ใจทุกรายละเอียด
แต่สวี่ชิงกลับไม่รู้สึกยินดีเลยสักนิด ตรงกันข้าม กลับรู้สึกกระวนกระวายแทบขาดใจ
ส่วนฉินเหมี่ยวค่อยๆ สนิทสนมกับนางมากขึ้นเรื่อยๆ "คุณชายชิงกำลังรอท่านอ๋องญาติผู้พี่ของข้าอยู่งั้นหรือ?"
การเรียก 'คุณชายตวนมู่' ก็ฟังดูห่างเหินเกินไป เรียก 'คุณชายสาม' คนในจวนก็แยกไม่ออกว่าเป็นคุณชายสามตระกูลตนหรือคุณชายสามตระกูลตวนมู่ เหล่าไท่จวินจึงสั่งว่า ต่อไปให้เรียก 'คุณชายชิง'
เห็นชัดขนาดนั้นเลยหรือ?
เอาเถอะ ในเมื่อถูกมองออก ก็ไม่มีอะไรต้องปิดบัง ตวนมู่สวี่ชิงถามตรงๆ ว่า "ช่วงนี้ท่านอ๋องยุ่งมากเลยหรือ? ดูเหมือนหลายวันแล้วที่ไม่ได้มาที่นี่เลย"
เอ่อ น้ำเสียงนี้ ดูเหมือนจะมีอะไรไม่ถูกต้องนะ
ฉินเหมี่ยวยิ้มจนเห็นลักยิ้มสองข้าง แล้วพูดว่า "ท่านอ๋องยุ่งกับราชกิจจริงๆ แต่ทุกคืนเขาจะมาเยี่ยมท่านพ่อกับพี่ใหญ่เสมอ เพียงแต่มาตอนดึก ท่านก็เลยไม่รู้เท่านั้น ท่านอยากถามถึงสถานการณ์ของพวกหัวหน้าสำนักหมอหลวงตวนมู่ใช่หรือไม่? ราชครูใช้ข้ออ้างว่าฮ่องเต้กำลังจะมีพระชนมายุครบปี จึงไม่เหมาะที่จะตัดสินโทษขุนนาง ทำให้คดีของบิดาเจ้าถูกระงับไว้ รอเดือนหน้าค่อยพิจารณาคดีใหม่อีกครั้ง"
ดวงตาของตวนมู่สวี่ชิงทอประกายดีใจ ตอนนี้เพิ่งจะต้นเดือน เดือนหน้ายังเหลือเวลาอีกยี่สิบวัน อย่างน้อยในช่วงยี่สิบวันนี้ พวกบิดามารดาและพี่ชายของนางจะยังปลอดภัยดีใช่หรือไม่?
ได้ยินฉินเหมี่ยวพูดต่อไปว่า "ท่านอ๋องญาติผู้พี่คุยกับท่านพ่อโดยไม่ปิดบังข้าเลย ท่านอ๋องญาติผู้พี่บอกว่าเรื่องนี้เขาจะสืบให้กระจ่าง ถ้าหัวหน้าสำนักหมอหลวงตวนมู่ถูกใส่ร้าย เขาจะพยายามช่วยตระกูลของท่านให้ถึงที่สุด แต่หากมีความผิดจริง เช่นนั้นใครก็ช่วยพวกเขาไม่ได้"

ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พลิกชะตา ล่าหัวใจแม่ทัพ
เรื่องอื่นซื้อตอนอ่สนได้ปกติ ทำไม error อยู่เรื่องเดียว ช่วยตรวจสอบด้วยค่ะ สงสารผู้แต่งนะ ลงคอนแต่ขายไม่ได้...
เบื่อระบบ มีเหรียญแต่กดซื้อตอนไม่ได้ ค้างคามากๆ error มานานแล้วค่ะ...
กดจ่ายเหรียญ แต่ขึ้น error ค่ะ...
ทำไมกดจ่ายเหรัยญ แล้ว error...
ใช้บัตรเติมเงินเอไอเอสได้มั้ยคะ...