เข้าสู่ระบบผ่าน

พลิกชะตา ล่าหัวใจแม่ทัพ นิยาย บท 14

ตวนมู่สวี่ชิงจ้องมองนางไม่กะพริบตา กัดริมฝีปากล่างเบาๆ พลางพยักหน้า ในใจเต็มไปด้วยความซาบซึ้ง ในดวงตาเต็มไปด้วยความมุ่งมั่น

แต่เดิมคิดว่าท่านอ๋องคงจะยุ่งมาก ยุ่งจนพบตัวไม่ได้ ไม่มีเวลามาสนใจเรื่องความเป็นความตายของคนต่ำต้อย ไม่คิดว่าในยามที่นางไม่รู้ตัว ท่านอ๋องผู้นั้นได้จัดการอะไรไว้แล้ว

นางเชื่อมั่นว่าบิดาถูกใส่ร้าย เพียงแค่ท่านอ๋องยินดีช่วยเหลือ ยอมออกหน้าสืบสวน เช่นนั้นตระกูลตวนมู่ก็ต้องมีโอกาสล้างความอยุติธรรมแน่นอน

"คุณชายชิง? คุณชายชิง ท่านมองข้าแบบนั้นทำไม?"

เสียงของฉินเหมี่ยวดังขึ้นอีกครั้ง ขัดจังหวะความคิดของสวี่ชิง

"อ๋อ แค่ก แค่ก ข้ากำลังคิดอะไรบางอย่างอยู่ ขอโทษด้วย!"

เอ่อ ตอนนี้นางปลอมตัวเป็นบุรุษ การจ้องมองหญิงสาวตรงๆ แบบนี้ ช่างไม่เหมาะสมเอาเสียเลย

"บาดแผลของท่านอ๋องหายดีแล้วหรือ? เดี๋ยวข้าจะให้ยาขี้ผึ้งแก่เจ้าสักขวด เมื่อเจ้าพบท่านอ๋องก็มอบให้เขา บอกว่าเป็นยาแก้คันและลบรอยแผลเป็น" ตวนมู่สวี่ชิงเปลี่ยนเรื่องอย่างแนบเนียน

ฉินเหมี่ยวยิ้มขี้เล่นขึ้นมา "ได้เลย เช่นนั้นข้าขอขอบคุณคุณชายชิงแทนท่านอ๋องญาติผู้พี่ด้วย"

ช่วงหลายวันที่ต้มยาด้วยกัน นางกับตวนมู่สวี่ชิงค่อยๆ สนิทสนมกันมากขึ้น

บิดาและพี่ชายมีอาการดีขึ้นทุกวัน นางรู้สึกซาบซึ้งใจตวนมู่สวี่ชิงจริงๆ และมีความสุขจากใจ ใบหน้าน้อยๆ เปื้อนรอยยิ้มหวานตลอดทั้งวัน

นางฮัมเพลงเดินเข้าไปในเรือนของบิดา พอดีเจอมารดาเข้า

เจินซื่อเห็นขวดกระเบื้องใบเล็กที่งามประณีตในมือนาง จึงยิ้มพลางถามว่า "เหมี่ยวเอ๋อร์ ได้ของมีค่าอะไรมาใหม่หรือ? ถึงได้ดีใจขนาดนี้"

"ท่านแม่ ไม่ใช่ของมีค่าอะไรหรอกเจ้าค่ะ เป็นยาที่คุณชายชิงฝากให้ข้ามอบให้ท่านอ๋อง บอกว่าเป็นยาแก้คันและลบรอยแผลเป็น" ฉินเหมี่ยวชูขวดกระเบื้องในมือพลางยิ้มพูด

เจินซื่อยิ้มบางๆ พลางพยักหน้า จู่ๆ ก็นึกอะไรบางอย่างขึ้นมาได้ จึงจับมือบุตรสาวและพูดเสียงเบาๆ ว่า "เหมี่ยวเอ๋อร์ ช่วงนี้ดูเจ้าสนิทสนมกับคุณชายชิงมากกระมัง?"

ฉินเหมี่ยวชะงักไปครู่ ก่อนตอบว่า "คุณชายชิงเป็นคนดี และมีบุญคุณต่อตระกูลพวกเรา"

"คุณชายชิงเป็นคนดี และมีบุญคุณต่อพวกเราก็จริง แต่บุรุษสตรีต้องมีระยะห่าง รอท่านพ่อเจ้าหายดีขึ้นอีกหน่อย ก็จะปรึกษาเรื่องการออกเรือนของเจ้ากับจิ้งอ๋องแล้ว คุณชายชิงก็เป็นบุรุษนอกบ้าน เจ้าต้องระมัดระวังการวางตัวหน่อย"

ฉินเหมี่ยวเบิกตาโตมองมารดา ทั้งงุนงงทั้งสงสัย

ที่น่าสับสนคือ จะต้องแต่งให้ท่านอ๋องญาติผู้พี่จริงๆ หรือ? คนที่ในใจคิดว่าเป็นพี่ชายมาโดยตลอด จะกลายเป็นสามีได้หรือ? พระอาจะให้นางเป็นภรรยาเอกหรือ?

ยิ่งไปกว่านั้น การได้อยู่ร่วมกับคุณชายชิงทำให้นางรู้สึกผ่อนคลายและมีความสุข เขาไม่เหมือนบุรุษนอกบ้าน แต่เหมือนเป็นสหายที่คุยด้วยได้และควรค่าแก่การคบหา

แต่สุดท้าย ฉินเหมี่ยวก็พยักหน้า "ท่านแม่ ข้าเข้าใจแล้วเจ้าค่ะ"

ตวนมู่สวี่ชิงรู้ว่าครอบครัวปลอดภัยชั่วคราว ก้อนหินใหญ่ในใจก็ได้วางลงชั่วคราว

ไม่รู้ว่าบิดามารดาและพี่ชายจะได้ข่าวนี้หรือไม่? นางรู้สึกว่าจำเป็นต้องไปที่คุกอีกครั้ง

ส่วนเรื่องจะปลอมตัวหรือไม่ ค่อยว่ากันเมื่อออกจากจวนโหว

หลังอาหารมื้อเย็น ตวนมู่สวี่ชิงรายงานฮูหยินโหวแล้วเตรียมออกเดินทาง

แต่พอเดินออกจากประตูใหญ่จวนโหว ก็พบเจ๋อหยางที่ไม่ได้เจอกันหลายวัน "คุณชายชิง จะไปที่ไหนหรือ?"

"อ๋อ องครักษ์เจ๋อหยาง!" สวี่ชิงไม่คิดว่าจะเจอคนของจวนอ๋อง ไม่ว่าอย่างไรตอนนี้นางก็ยังใช้ชื่อบ่าวรับใช้ของจวนจิ้งอ๋องอยู่ "อยู่ในจวนโหวนานเกินไป ออกมาเดินเล่น ซื้อของนิดหน่อย" จะให้บอกเขาว่าตนจะไปที่คุกได้อย่างไรเล่า?

เจ๋อหยางพยักหน้า ถามว่า "คุณชายชิง รู้จักโรคของสตรีที่คลอดบุตรหรือไม่?"

อะไรกัน สตรีคลอดบุตร? นี่กลายเป็นโรคไปแล้วหรือ?

เห็นนางจ้องมองมาที่เขา เจ๋อหยางจึงอธิบายว่า "มีสตรีคนหนึ่งกำลังจะคลอดบุตร หมอตำแยทำอะไรไม่ถูกมาหนึ่งวันหนึ่งคืนแล้ว บอกว่าทั้งแม่ทั้งลูกจะไม่รอด คุณชายชิงช่วยได้หรือไม่?"

"คลอดยาก? ช่วยได้สิ!"

การแพทย์ในสมัยโบราณล้าหลังมาก เมื่อเจอการคลอดยากก็เท่ากับเสี่ยงชีวิต และเป็นการเสี่ยงถึงสองชีวิต

ราคาของเราเพียงแค่ 1/4 ของผู้ให้บริการรายอื่น

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พลิกชะตา ล่าหัวใจแม่ทัพ