พลิกชะตา ล่าหัวใจแม่ทัพ นิยาย บท 5

ตระกูลตวนมู่สืบทอดวิชาแพทย์มายาวนานถึงหกชั่วอายุคน สมเป็นตระกูลแพทย์โดยแท้จริง

เคยมีหมอพเนจรที่ไม่ยึดติดลาภยศ มีหมอเทวดาผู้เร้นกายที่น่าเคารพยกย่อง และแม้แต่ตำแหน่งเจ้ากรมแพทย์หลวงก็เคยมีถึงสองคน

ที่ว่าต้นไม้ใหญ่ย่อมล่อสายลม ไม่รู้ว่าข่าวลือนี้เริ่มขึ้นตั้งแต่เมื่อใด และไม่รู้ว่าหลุดออกจากปากของใคร จนกลายเป็นเรื่องเล่าที่ลึกลับเหลือเชื่อ ว่าตระกูลตวนมู่มีต้นกำเนิดจากเขาเทียนซาน ได้รับการคุ้มครองจากหญิงศักดิ์สิทธิ์แห่งเทียนซาน เลือดของบุตรสาวตระกูลตวนมู่บริสุทธิ์ หากชายคนแรกที่ร่วมสัมพันธ์กับนางจะสามารถต้านพิษได้ทุกชนิด และหากร่วมสัมพันธ์ต่อไป ก็จะสามารถเสริมสร้างร่างกายให้แข็งแรงได้อีกด้วย

ข่าวลือนั้นนำหายนะมาสู่ผู้คน ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา บุตรสาวของตระกูลตวนมู่แทบไม่มีใครได้จบชีวิตอย่างราบรื่นเลย ผลลัพธ์ที่ดีที่สุดก็เพียงแค่ได้เข้าวังเป็นสนม

ทว่าต่อให้ได้เป็นสนม ก็ยังมีโอกาสถูกฮ่องเต้นำไปเป็นของกำนัลมอบให้กับต่างแดน

โชคยังดีที่สวรรค์เมตตา โอกาสที่ตระกูลตวนมู่จะให้กำเนิดบุตรสาวนับวันยิ่งลดลง และบุตรสาวคนสุดท้ายที่ปรากฏตัวต่อหน้าผู้คน ก็คือน้องสาวร่วมบิดาต่างมารดาของตวนมู่หงฮั่น ซึ่งก็คือหลานผินในปัจจุบัน

ตวนมู่หงฮั่นเข้าใจดีว่า ผู้บริสุทธิ์ย่อมต้องรับเคราะห์เพราะครอบครองสิ่งล้ำค่า เขาไม่ต้องการให้บุตรสาวต้องเข้าวัง ไม่ต้องการให้บุตรสาวกลายเป็นเป้าหมายที่ผู้คนแย่งชิงกันโดยไม่เลือกวิธีการ และที่สำคัญกว่านั้น เขาไม่อาจใจแข็งส่งบุตรสาวให้ไปเติบโตไกลห่างจากตัวเองตั้งแต่ยังเล็กได้

ดังนั้น ตั้งแต่วินาทีที่ตวนมู่สวี่ชิงลืมตาดูโลก นางก็กลายเป็นคุณชายสามแห่งตระกูลตวนมู่

แม้จะเกิดมาเป็นสตรี แต่กลับถูกเลี้ยงดูเยี่ยงบุรุษมาตั้งแต่เยาว์วัย นอกจากคนในครอบครัวที่สนิทสนมกันแล้ว ตวนมู่สวี่ชิงไม่มีเพื่อน ไม่มีสหายหญิง และยิ่งไม่กล้าเข้าใกล้บุตรชายของตระกูลอื่น

ต่อให้ได้รับความเอาใจใส่จากครอบครัวอย่างถึงที่สุด แต่นั่นก็ไม่อาจเปลี่ยนแปลงอุปนิสัยที่ฝังลึกในกระดูกของนางได้ นางเป็นคนอ่อนไหว ขาดความมั่นใจ ระมัดระวังตัวจนถึงขั้นหวาดระแวง

ไม่นานมานี้ ฮองเฮาทรงจัดงานเลี้ยงชมดอกไม้ซึ่งแท้จริงแล้วเป็นงานดูตัว โดยมีรับสั่งให้ขันทีเดินทางไปแจ้งตวนมู่สวี่ชิงด้วยตัวเองให้นางเข้าร่วมงานด้วย

ตวนมู่สวี่ชิงแทบไม่ออกจากจวนเลยแม้แต่น้อย แม้วันนั้นจะมีพี่ใหญ่คอยไปเป็นเพื่อน แต่สุดท้ายก็ยังเกิดเรื่องจนได้

ร่างกายวัยสิบเจ็ดปีเริ่มพัฒนาไปตามธรรมชาติ นางต้องพันผ้าหนาเตอะและคอยยืดหลังงอไหล่เพื่อปกปิดเพศสภาพที่แท้จริง

เดิมทีก็เป็นสตรีอยู่แล้ว ย่อมบอบบางกว่าชายวัยเดียวกัน ยิ่งไปกว่านั้น ด้วยนิสัยหวาดกลัว ขี้ขลาด ระมัดระวังตัวจนเกินเหตุ ยิ่งทำให้ผู้คนไม่สบอารมณ์

ผู้คนต่างพากันซุบซิบว่าทำไม คุณชายใหญ่ตระกูลตวนมู่ ผู้เปี่ยมไปด้วยกลิ่นอายของบัณฑิตและสมุนไพรสง่างามขนาดนี้ คุณชายรองก็หล่อเหลาองอาจเช่นเดียวกัน แต่เหตุใดคุณชายสามถึงได้ดูขี้ขลาดถึงเพียงนี้?

ไม่น่าแปลกใจที่เอาแต่ขังตัวเองอยู่ในบ้าน ไม่ยอมออกมาพบใคร เพราะไม่มีหน้าจะไปพบใครนี่เอง!

ระหว่างงานเลี้ยง พี่ใหญ่ตวนมู่ซ่านเฉิงถูกคนขององค์ชายห้าตามตัวไป ผู้คนที่เหลือจึงเกิดความคิดอยากล้อเล่นกับตวนมู่สวี่ชิง จึงให้องค์หญิงเจ็ดออกคำสั่งให้นางปีนขึ้นไปเด็ดดอกอวี้หลานบนต้นไม้

คำสั่งขององค์หญิง ตวนมู่สวี่ชิงย่อมไม่กล้าขัด นางกัดฟัน มือไม้สั่นไต่ขึ้นไปบนต้นไม้อย่างยากลำบาก กว่าจะเด็ดดอกอวี้หลานมาได้สำเร็จ แต่แล้วในเสี้ยววินาทีต่อมา เท้าก็ลื่นไถล ส่งผลให้ร่างทั้งร่างร่วงลงมาจากต้นไม้ ศีรษะด้านหลังฟาดกับพื้นอย่างแรง

เหตุการณ์ที่ทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บเช่นนี้ ส่งผลให้องค์หญิงเจ็ดถูกลงโทษกักบริเวณเป็นเวลาสามวัน ส่วนพวกที่ร่วมกันส่งเสียงยุยงก็เพียงแค่ต้องจ่ายเงินชดใช้เล็กน้อย เดินทางไปขอโทษถึงจวน แล้วปิดประตูสำนึกผิดอยู่กับตัวเอง เพียงเท่านี้ก็ถือว่าได้รับโทษแล้ว

น่าสงสารตวนมู่สวี่ชิง นางเสียเลือดมากจนถูกหามกลับจวน จากนั้นก็หมดสติไปไม่ฟื้นขึ้นมาอีก ไม่ว่าหมอจะใช้ยาอันล้ำค่าขนาดไหนก็ไร้ผล อาการกลับยิ่งทรุดลง นางเริ่มมีไข้สูง ร่างกายสลับระหว่างความร้อนและความเย็นผิดปกติ สุดท้าย ในช่วงรุ่งสางของวันหนึ่ง ร่างของนางก็เย็นเฉียบและไร้ลมหายใจโดยสมบูรณ์ แต่โชคชะตากลับเล่นตลก ในจังหวะนั้นเอง วิญญาณจากต่างภพของสวี่ชิงก็เดินทางมา และกลายเป็นตวนมู่สวี่ชิง

หลังจากฟื้นขึ้นมา คนในตระกูลตวนมู่ต่างขอบคุณสวรรค์และดูแลนางเป็นอย่างดี ในชาติก่อนของสวี่ชิง ความสัมพันธ์ของนางกับพ่อแม่ไม่ค่อยแน่นแฟ้นเท่าไหร่นัก ไม่มีพี่น้อง และไม่เคยสัมผัสถึงความอบอุ่นของครอบครัว แต่เมื่อนางได้อยู่ร่วมกับคนในตระกูลนี้ นางกลับได้รับความรู้สึกถึงคำว่าบ้านอย่างแท้จริง ประหนึ่งได้เข้าใจถึงความหมายของคำว่าครอบครัว

ยิ่งไปกว่านั้น ด้วยความทรงจำของเจ้าของร่างเดิมที่อยู่ในสมอง นางยิ่งซาบซึ้งในความรักและการปกป้องที่ครอบครัวมีให้ตวนมู่สวี่ชิง ขณะเดียวกันก็ได้แต่ทอดถอนใจให้กับความไร้เหตุผลของโลกใบนี้

ทว่ายังไม่ทันที่ร่างกายจะฟื้นตัวจนสามารถลุกจากเตียงได้ พระราชโองการยึดทรัพย์ตระกูลก็ถูกส่งมาถึงจวน ชีวิตนี้ช่างไม่มีคำว่าซวยที่สุด มีแต่ซวยยิ่งกว่า!

ตอนที่ 5 ข่าวลือฆ่าคนได้ 1

Verify captcha to read the content.ตรวจสอบแคปช่าเพื่ออ่านเนื้อหา

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พลิกชะตา ล่าหัวใจแม่ทัพ