เข้าสู่ระบบผ่าน

พลิกชะตา ล่าหัวใจแม่ทัพ นิยาย บท 59

ตวนมู่สวี่ชิงเงยหน้ามองชายข้างกายอย่างกระวนกระวาย สายตาที่แรงกล้าเกินไปนั้น ทำให้จิ้งอ๋องรู้สึกตัว หันมามองและส่งสายตา ‘อย่ากังวลไป’ กลับมาให้นาง

นี่คือไม่แสร้งทำแล้วใช่ไหม? จิ้งอ๋องหัวเราะเบาๆ “แม้แต่เสด็จพ่อยังเอ่ยให้ชะลอการพิจารณาคดีของตระกูลตวนมู่ กุ้ยเฟยเหตุใดจึงต้องทรงเข้ามาแทรกแซงก่อนกำหนด? หรือว่า...ทรงกลัวเรื่องราวจะยืดเยื้อ?”

อิงกงกงใจเต้นรัว สายตาหวาดหวั่นมองไปยังจิ้งอ๋อง ชั่วพริบตาก็เลือนหายไป “ใช่พ่ะย่ะค่ะ กุ้ยเฟยทรงกังวลว่าเรื่องราวจะยืดเยื้อ เกรงว่าตวนมู่หงฮั่นยังมีพวกพ้องที่จะปองร้ายเหล่าเจ้านายน้อยในวัง จึงให้ข้าน้อยมาสอบสวนในเวลากลางคืน”

โกหกได้แนบเนียนไร้ร่องรอยจริงๆ เสี่ยวซงจื่อทนดูไม่ได้ ไม่อยากเล่นละครกับไอ้แก่คนนี้แล้ว “สวี่ชิงของพวกเราบอกว่า ท่านอิงกงกงเมื่อครู่ยังจะให้เขามีศพที่สมบูรณ์ ตอนนี้กลับกลายเป็นการสอบสวนไปได้อย่างไร?”

“เอ่อ…” อิงกงกงพยายามคิดว่าจะแก้ตัวอย่างไร

“กลับไปทูลกุ้ยเฟยว่า ห้ามมิให้วังหลังเข้ามายุ่งเกี่ยวกับการบริหารราชการแผ่นดิน ผู้ที่เข้าไปอยู่ในคุกของกรมอาญา โทษทัณฑ์นั้นย่อมเป็นอำนาจของเสด็จพ่อและกรมอาญาแต่เพียงผู้เดียว” จิ้งอ๋องเอ่ยสรุปอย่างหนักแน่น ทำให้อิงกงกงไม่มีโอกาสได้พูดอีก

แม้ว่าอิงกงกงจะอาศัยบารมีผู้อื่น ก็ต้องชั่งน้ำหนักว่าผู้ที่ยืนอยู่ตรงหน้าเขาในขณะนี้คือท่านอ๋องแห่งราชวงศ์ ยิ่งไปกว่านั้น แม้จะไม่พูดถึงฐานันดร คนที่เขานำมาในวันนี้ก็ไม่ใช่คู่ต่อสู้ขององครักษ์แห่งจวนจิ้งอ๋อง

ดูเหมือนว่าภารกิจในวันนี้คงไม่สำเร็จแล้ว “ในเมื่อท่านอ๋องไม่ทรงกังวลถึงความปลอดภัยของเจ้านายน้อยในวังแม้แต่น้อย เช่นนั้นข้าน้อยก็ไม่มีอะไรจะกล่าวอีก หลังจากกลับไปแล้ว จะกราบทูลรายงานสถานการณ์ที่นี่ให้เหนียงเหนียงทราบตามความเป็นจริง ข้าน้อยขอลา ขอให้ท่านอ๋องทรงพระสำราญ”

ในใจไม่พอใจจนอยากกัดคน แต่ในที่สุด อิงกงกงก็ยังคงพาพวกสมุนเดินหางตกจากไป

ตวนมู่หงฮั่นพาคนในครอบครัวทั้งหมดคุกเข่า ทำความเคารพด้วยความซาบซึ้งใจ “ขอบพระคุณท่านอ๋องมากขอรับ”

เมื่อเห็นบิดามารดาและพี่ชายทั้งหลายคุกเข่าแล้ว ตวนมู่สวี่ชิงก็กำลังจะคุกเข่า แต่ถูกเสี่ยวซงจื่อที่อยู่ข้างๆ ดึงไว้ “เจ้าเป็นคนของเรา ไม่ต้องคุกเข่า”

จิ้งอ๋องเอ่ยว่า “ไม่ต้องมากพิธี ลุกขึ้นเถิด บังเอิญผ่านมา มีคำถามบางอย่างจะถาม หวังว่าจะบอกตามความเป็นจริง”

“ท่านอ๋องโปรดเอ่ยถามมาได้เลย ข้าน้อยจะตอบทุกคำถามอย่างตรงไปตรงมา”

จิ้งอ๋องไปสอบถามสถานการณ์กับสามพ่อลูกตระกูลตวนมู่ สวี่ชิงถามองครักษ์หยางทั้งสามและเสี่ยวซงจื่อว่า “พวกเจ้ามาได้อย่างไร?” แถมยังมาได้ทันเวลาเช่นนี้ด้วย

เจ๋อหยางกล่าวว่า “พวกเรากลับมาจากนอกเมืองพร้อมกับนายท่าน ข้างนอกบังเอิญเจอเสี่ยวซงจื่อมารับเจ้า นายท่านจึงบอกว่าให้เข้ามาด้วยกัน”

เสี่ยวซงจื่อกล่าวเสริมว่า “ข้ากลับมาจากเรือนพักนอกเมืองของนายท่าน เห็นว่าเจ้าไม่อยู่ในจวน คงติดฝน จึงมาหาเจ้า”

ในใจตวนมู่สวี่ชิงอบอุ่นและซาบซึ้งใจอย่างยิ่ง อยากจะกอดคนน่ารักเหล่านี้ให้แน่นๆ “วันนี้ขอบคุณพวกเจ้ามาก”

“วันนี้ข้าขออยู่ที่นี่ได้หรือไม่?” สวี่ชิงถาม

“เจ้า?” เสี่ยวซงจื่อทำหน้ารังเกียจ “คนที่ไม่มีวรยุทธ์เหมือนข้า อยู่ต่อไปจะมีประโยชน์อะไร?”

สวี่ชิงพูดไม่ออก คำพูดของเสี่ยวซงจื่อฟังดูไม่ดีแต่ก็มีเหตุผล ได้ยินเพียงจิ้งอ๋องเอ่ยว่า “เจ๋อหยางและหลินหยางอยู่ต่อ พรุ่งนี้ให้แจ้งสถานการณ์แก่เจ้ากรมอาญาตามความเป็นจริง หากเกิดข้อผิดพลาดอีก ให้เขาไปทูลชี้แจงต่อฮ่องเต้เอง”

เจ๋อหยางและหลินหยางประสานมือคำนับตอบว่า “ขอรับ!”

ตวนมู่สวี่ชิงไม่สามารถบรรยายความรู้สึกขอบคุณในใจออกมาเป็นคำพูดได้ “ขอบพระคุณท่านอ๋อง ขอบคุณเจ๋อหยาง ขอบคุณหลินหยาง”

เจ๋อหยางยิ้มให้นางอย่างเป็นมิตร แสดงให้เห็นว่าไม่ต้องเกรงใจ

จิ้งอ๋องไม่เอ่ยอะไรอีก หันหลังกลับทันที ตวนมู่สวี่ชิงก้าวตามไปสองก้าว “ท่านอ๋อง ให้เวลาสวี่ชิงอีกสักครู่ได้หรือไม่ พี่ชายบาดเจ็บซี่โครงหัก สวี่ชิงอยากจะดูอาการให้เขา”

จิ้งอ๋องพยักหน้าอนุญาต แล้วก้าวเท้าจากไปอย่างรวดเร็ว เสี่ยวซงจื่อตามมาข้างหลัง หันกลับมาพูดกับนางว่า “เร็วๆ หน่อยล่ะ นายท่านเสื้อผ้าเปียกหมดแล้ว พวกเราต้องรีบกลับจวน”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พลิกชะตา ล่าหัวใจแม่ทัพ