พลิกชะตา ล่าหัวใจแม่ทัพ นิยาย บท 64

มีเรือนนั้น มีลานนี้ สิบก้าวมีสวนดอกไม้ สามก้าวมีศาลา นางเดินวนไปวนมาจนเกือบจะหลงทางแล้ว ยังหาคลังเก็บของไม่เจอ แถมยังถามทางใครไม่ได้อีก

ไม่มีทางเลือกอื่น นางทำได้เพียงเสี่ยงดู อาศัยความมืดในยามค่ำคืน หาที่ที่ไม่มีคนอยู่สองสามแห่ง ออกมาจากระบบอย่างระมัดระวัง ทำเครื่องหมายไว้ จากนั้นก็เข้าไปในระบบอีกครั้ง ก่อนจะเดินหน้าต่อไป และค้นหาต่อไป

มีครั้งหนึ่ง เห็นชัดเจนว่ารอบๆ ไม่มีใคร แต่พอออกมาก็ถูกหญิงชราที่โผล่มาจากไหนไม่รู้เรียกไว้ แถมยังจะสั่งให้นางไปทำงาน ให้นำเสื้อผ้าถุงหนึ่งไปส่งที่ลานของฮูหยินคนนั้นคนนี้

โชคดีที่นางแต่งกายเป็นสาวใช้มาล่วงหน้าแล้ว จึงไม่มีใครสงสัยอะไร รับภารกิจมาแล้วก็หันหลังนำเสื้อผ้าในมือไปทิ้งลงในบ่อปลา โธ่เอ๊ย ขันทีก็มีภรรยาด้วยหรือ? เอาต้นหอมสองต้นมาเสียบจมูกหมูป่าก็คิดว่าจะกลายเป็นช้างได้หรือไง?

ในที่สุด นางใช้เวลามากกว่าหนึ่งชั่วโมง ในที่สุดก็พบคลังเก็บของของขันทีเฒ่า เมื่อถึงยามดึกสงัด นางก็เริ่มลงมือ

ขันทีสารเลวนี่ ไม่รู้ว่าโกงไปเท่าไหร่ คลังเก็บของนี้รู้สึกว่าจะใหญ่กว่าคลังเก็บของของจวนจิ้งอ๋องเสียอีก

ทองคำ เงิน อัญมณี ภาพวาดโบราณ ตัวอักษรโบราณต่างๆ แทบจะทำให้ตานางพร่าไปหมด

จะบอกว่าไม่รู้สึกหวั่นไหวก็คงไม่ใช่ แต่สวี่ชิงบอกกับตัวเองว่า สุภาพบุรุษรักทรัพย์สิน ต้องได้มาด้วยความชอบธรรม นางเพียงต้องการนำของที่เป็นของนางกลับคืนมาเท่านั้น

เดินวนไปอีกครู่ ในที่สุดก็พบห้องที่เก็บสมุนไพรแล้ว มีสมุนไพรเต็มห้องจริงๆ กล่อง ตู้ ชั้นวาง ไม่มีอันไหนว่างเลย

ตวนมู่สวี่ชิงรู้สึกลำบากใจเล็กน้อย นางไม่รู้ว่าอันไหนเป็นของขันทีเฒ่ามาตั้งแต่แรก และอันไหนเป็นของที่ปล้นมาจากตวนมู่ถังในภายหลัง

ยืนอยู่หน้าชั้นวาง คิดอยู่ครู่หนึ่ง ช่างเถอะ ถือว่าเป็นของข้าทั้งหมดก็แล้วกัน ใครใช้ให้เจ้าด่าพ่อตีพี่ข้า ไม่ยอมจ่ายค่ารักษาพยาบาลและค่าเสียหายทางจิตใจกันล่ะ?

จากนั้น สมุนไพรทั้งหมดในคลังเก็บของของซูกงกงก็หายวับไปในชั่วข้ามคืน แม้แต่หนวดรากโสมก็ไม่เหลือไว้สักเส้น

เมื่อเสร็จแล้ว นางก็วิ่งออกจากจวนตระกูลซูในชั่วลมหายใจเดียว เหนื่อยจนเหงื่อท่วมตัว ถึงจะมีเวลาดูคะแนน หกหมื่นหกพันหกร้อยคะแนน ตวนมู่สวี่ชิงดีใจมาก ช่างเป็นหกหกหกที่มงคลจริงๆ ทำได้ดีมาก สถานีต่อไปจวนตระกูลฝู หมอหลวงฝู ข้าตั้งตารอความน่าตื่นตาตื่นใจจากท่านนะ

เนื่องจากเป็นหมอหลวง ต้องคอยปรนนิบัติฮ่องเต้อยู่เสมอ จวนตระกูลฝูจึงอยู่ใกล้กับประตูทางเหนือของพระราชวังมาก

จวนตระกูลฝูไม่ได้ใหญ่โตเท่าจวนตระกูลซู ตวนมู่สวี่ชิงหาห้องยาเจอได้ง่ายมาก

แต่ตระกูลฝูมีคนเรียนแพทย์เยอะมาก ในยามดึกดื่นเช่นนี้ ก็ยังมีคนเฝ้าอยู่ในห้องยา คอยปรุงยาต่างๆ และจัดเตรียมขวดยา

ดาวตกดวงหนึ่งพาดผ่านท้องฟ้า ราวกับว่าดวงจันทร์ตอบรับนางว่า อืม อนุญาตแล้ว

ตวนมู่สวี่ชิงหัวเราะออกมาเอง ท้องฟ้าแจ่มใส ดวงดาวระยิบระยับ สายลมเย็นๆ พัดมา ช่างอารมณ์ดีจริงๆ!

เมื่อยืดเส้นยืดสายแล้ว การสวมชุดสตรี ไม่ต้องรัดหน้าอก ไม่ต้องรัดเอว ก็รู้สึกว่าเลือดลมทั่วร่างกายไหลเวียนสะดวกสบายกว่าตอนสวมชุดบุรุษเยอะมาก

การสวมชุดบุรุษ นางไม่เพียงแต่ต้องรัดหน้าอกให้แน่นเท่านั้น แต่ยังต้องใช้ผ้าพันเอวให้หนาขึ้นด้วย เพื่อให้ดูสมส่วนมากขึ้น ความรู้สึกถูกรัดแน่นแบบนั้น มันทรมานจริงๆ บางครั้งก็หายใจไม่ออกด้วยซ้ำ

อิสระที่หาได้ยาก และยังเป็นยามค่ำคืนที่เงียบสงบ ถนนหนทางว่างเปล่า สวี่ชิงก็อยากจะออกมาเดินเล่นสักหน่อย

เมื่อคิดได้ดังนั้น นางก็ทำเช่นนั้นจริงๆ เพียงแค่ความคิดแวบเข้ามา นางก็ปรากฏตัวบนถนนเป่ยต้าแล้ว

สวมรองเท้าปักลายที่นุ่มสบาย เดินเหยียบแสงจันทร์ สูดอากาศบริสุทธิ์ในยามเช้าตรู่ นางค่อยๆ เดินไปทางจวนจิ้งอ๋อง ที่ซึ่งตอนนี้คือบ้านของนาง

ทันใดนั้น นางก็ได้ยินเสียงดังมาจากด้านหลัง จึงรีบหมุนตัวเดินเข้าไปในตรอกเล็กๆ ข้างถนนทันที