ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน นิยาย บท 31

บทที่ 31 ใครกล้าแตะต้องเธอ

หวังเหวินเฟยหวาดกลัวจนสั่นทั้งตัวโดยไม่รู้ตัว พูดเสียงสั่นว่า “พี่เปียว ผมเป็นคนตระกูลหวัง...”

“ตระกูลหวังงั้นเหรอ” พี่เปียวหัวเราะชั่วร้าย “ตระกูลหวังสำคัญตรงไหน!”

พี่เปียวถ่มน้ำลายอย่างดูถูก เท้าเหยียบหวังเหวินเฟยกับพื้นดิน แล้วส่งเสียงเย็นชาว่า “เมื่อวานท่านห้าเพิ่งสั่งสอนคนโง่ตระกูลหวัง ให้คนตบเขาหมื่นครั้ง มึงแม่งยังกล้าบอกกูว่าเป็นตระกูลหวังอีกเหรอ”

“ฮะ?” หวังเหวินเฟยกลัวจนเซ่อ

เขาคิดว่าพี่ชายถูกอันธพาลปล้น แต่คิดไม่ถึงว่าเป็นท่านหงห้าที่ทำร้าย

ตอนที่เขากำลังหวาดกลัวมาก พี่เปียวก็ยกไม้ขึ้น แล้วฟาดลงไปที่หัวของเขา!

เสียงดังผัวะ!

หวังเหวินเฟยรู้สึกเพียงโลกหมุน ในหัววิ้งไปหมด ปากและจมูกมีเลือดออก สติพร่ามัวฉับพลัน

เซียวเวยเวยกรีดร้องด้วยความหวาดกลัวขึ้นมาทันที!

หวังเหวินเฟยเป็นคู่หมั้นของเธอ เป็นโอกาสเดียวที่จะได้แต่งงานเข้าตระกูลหวัง ถ้าเกิดเรื่องอะไรขึ้น ชีวิตของเธอก็จบแน่

“รถพยาบาล เรียกรถพยาบาลที!”

เซียวเวยเวยร้องตะโกนอย่างลนลาน เอาโทรศัพท์ออกมาตัวสั่น แต่กลับกลัวมากจนกดไม่ได้ ทำได้แค่ส่งเสียงกรี๊ดลั่น

พี่เปียวขมวดคิ้ว ด่าออกมาว่า “นี่ ร้องโวยวายอะไรนักหนา เอานังสารเลวนี่ไปกระตุกปากเน่า ให้เธอมีปากมากกว่านี้”

“ครับ พี่เปียว!”

พวกลูกน้องได้ยินก็พากันยิ้มโหดเหี้ยม

ที่พวกเขาชอบมากที่สุดก็คือการทำลายหญิงงาม โดยเฉพาะเซียวเวยเวยที่เป็นผู้หญิงโหดร้ายป่าเถื่อน

เซียวเวยเวยตกใจทันที ต้องการอย่างบ้าคลั่งที่จะถอยหนี แต่ด้านหลังเป็นกำแพง ไม่มีที่ให้หนีอีกแล้ว

“มานี่ นังสารเลว!”

ชายร่างสูงใหญ่ตาเดียวจับผมของเซียวเวยเวยอย่างดุดัน แล้วดึงกระชากอย่างแรง

จากนั้นชายร่างสูงใหญ่ตาเดียวก็จับหน้าของเซียวเวยเวยให้หันมาหา และสะบัดแขนกระชากดึงอย่างแรง

ลูกน้องพวกนี้เป็นคนโหดเหี้ยมที่ร่วมต่อสู้กับพี่เปียวมาหลายปี

แค่สองสามกระบวนท่า หน้าของเซียวเวยเวยก็บวมเป่งเหมือนหมู เลือดผสมน้ำลายไหลออกมา

ผู้หญิงที่ถูกตีแบบนี้ แม้ว่าจะได้รับการรักษาตามเวลาแต่ก็จะทิ้งรอยที่ลบไม่ออกบนใบหน้า แทบจะเท่ากับเสียโฉม!

ต่งรั่งหลินที่อยู่ข้างๆ เห็นพี่เปียวโหดเหี้ยมมาก ก็ตัวสั่นอย่างหวาดกลัวอีกครั้ง ไปหลบข้างหลังเย่เฉิน ทั้งสองคนแทบจะตัวแนบสนิทกัน

ตอนนี้พี่เปียวเห็นเย่เฉินกับต่งรั่งหลินอยู่ตรงมุม จึงสั่งเสียงเย็นว่า “ยังมีมันทั้งคู่ ตีมันให้ตาย! กล้าที่จะยึดห้องวีไอพีเพชรที่กูเตรียมไว้สำหรับแขกผู้มีเกียรติ มึงมันสมควรตายชดเชย!”

ลูกน้องที่ไม่เคยมีความเมตตา ยื่นมือออกไปคว้าต่งรั่งหลิน

“ฉันจะดูซิว่าใครกล้าแตะต้องเธอ!”

สายตาเย่เฉินเปลี่ยนเป็นเย็นชามาก เขาเตะชายแข็งแรงจนล้มลงกับพื้น

เมื่อพี่เปียวเห็นแบบนี้ก็พลันสีหน้าไม่พอใจหนัก ตะโกนออกมาว่า “มึงเป็นใคร”

เย่เฉินเอ่ยบางเบา “ฉันเป็นคนที่นายล่วงเกินไม่ได้!”

“ไอ้หนู แกมันรนหาที่ตาย!”

เย่เฉินส่ายหน้าไปมา ต่อสายโทรไปหาท่านหงห้า

“หงห้า ตอนนี้ฉันอยู่ห้องวีไอพีเพชร ไสหัวลงมาพบฉันเดี๋ยวนี้!”

เมื่อพูดจบ เย่เฉินก็วางสายโทรศัพท์ไป

ต่งรั่งหลินสีหน้าซีดเผือด เมื่อครู่เซียวไห่หลงโอ้อวดใหญ่โตว่ารู้จักท่านหงห้า ปรากฏว่าจุดจบช่างน่าสังเวช แล้วเย่เฉินที่กล้าเผชิญหน้ากับพี่เปียว พูดคำไม่สุภาพแบบนี้ออกไป บางทีชีวิตอาจจะหาไม่

อีกด้านเซียวเวยเวยถูกฉุดกระชากลากถูไม่เป็นชิ้นดี ได้ยินคำพูดของเย่เฉิน สายตาก็ยิ่งเต็มไปด้วยความหวาดกลัว หลานชายคนนี้ยังจะแสร้งทำ พยายามจะฆ่าทุกคนใช่ไหม

พี่เปียวยิ้มเยาะพูดจาหยาบคาย “กล้าดียังไงมาดูหมิ่นท่านห้า กูว่ามึงเหนื่อยกับการมีชีวิตแล้วสินะ”

เมื่อสิ้นเสียง พี่เปียวก็โบกมือให้ลูกน้อง และพูดอย่างโหดเหี้ยมว่า “ฆ่ามัน!”

ทันใดนั้น เสียงเกรี้ยวกราดของท่านหงห้าก็ดังมาจากข้างนอกห้องวีไอพี “แม่ง เปียวจื่อมึงอยากตายใช่ไหม แม้แต่คุณท่านเย่ยังกล้ากำแหง เชื่อไหมว่ากูจะสับมึงให้เป็นอาหารสุนัข”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน