เข้าสู่ระบบผ่าน

พระชายาคือแพทย์อัจฉริยะ นิยาย บท 1133

ทั้งสองคนเดินชมไปทั่วห้อง ไม่ได้นอนตลอดทั้งคืน

ตอนที่ดูการ์ตูนอยู่ในห้องที่สาม ความตื่นเต้นของเสวียนจีได้ผ่านพ้นไปแล้ว ยังไม่ทันได้สำรวจแต่ละมุม ก็ง่วงจนลืมตาไม่ขึ้นแล้ว

ศีรษะผงกหลายครั้ง นางก็ตุปัดตุเป๋นอนหลับไปแล้ว

หญิงสาวรูปร่างผอมเพรียวนอนอยู่บนเตียงเจ้าหญิงสีขาว ขนตางอนยาวทอดยาวเป็นเงาอยู่ใต้ดวงตา ท่าทีสงบไร้เดียงสาราวกับนางฟ้าตัวน้อยๆ

เฟิ่งเหมียนใจอ่อนลงอย่างไม่รู้ตัว ปิดการ์ตูนเปลี่ยนเป็นดนตรีที่ผ่อนคลาย จ้องมองนางเงียบๆอยู่ครู่หนึ่ง

ผ่านไปชั่วครู่ เขามองเวลาบนจอภาพแวบหนึ่ง ตอนนี้เป็นเวลาหกโมงสิบเก้านาที

ท้องฟ้าข้างนอกยังคงมือสลัวอยู่ แสงไฟนีออนยังคงส่องประกายอยู่ในม่านหมอก

เก้าโมงก็ต้องคืนห้องพักแล้ว แต่คุณภาพการนอนของนางหนูคนนี้ เกรงว่าคงจะตื่นอีกทีตอนบ่าย

เฟิ่งเหมียนตัดสินใจคืนห้องพักก่อนเวลา อาศัยจังหวะที่คนในคฤหาสน์ยังไม่ตื่นพาเสวียนจีกลับไปก่อน มิเช่นนั้นหากถามขึ้นมาว่าทำไมไม่กลับบ้านทั้งคืน คงเลี่ยงไม่ได้ที่จะรู้สึกกระดากอาย

เพราะไปเยี่ยมชมโรงแรมกับนางหนูคนนี้หลายที่มาก ครั้งนี้เฟิ่งเหมียนมีประสบการณ์แล้ว ดังนั้นจึงไปคืนห้องที่เคาน์เตอร์ได้อย่างรู้ลู่ทาง

แต่เขายังไม่รู้จักการเรียกรถผ่านแอป ตึกระฟ้าอยู่ห่างจากหมู่บ้านทิวลิปเพียงถนนเดียว จึงแบกเสวียนจีเดินกลับไป

บนถนนเริ่มมีพนักงานออฟฟิศที่ทยอยเดินไปมากันแล้ว มีคนมองมาทางเฟิ่งเหมียนเป็นระยะ จากนั้นก็ยิ้มอย่างเข้าใจ

“หนุ่มหล่อแบกแฟนกลับบ้าน ดูใส่ใจและโรแมนติกมากเลย”

เฟิ่งเหมียน”อืม”เบาๆเป็นการตอบรับ สีหน้าไม่เป็นธรรมชาติสักเท่าไหร่ แต่ก็ไม่ได้อธิบายปฏิเสธความสัมพันธ์ระหว่างพวกเขา

เผชิญหน้ากับแสงยามเช้า ตอนที่กลับไปถึงคฤหาสน์เป็นเวลาเกือบจะเจ็ดโมงเช้าแล้ว

ปกติแล้วหลงเย่จะตื่นประมาณเจ็ดโมงครึ่งเพื่อเตรียมอาหารเช้าให้ทุกคน ดังนั้นเขาจึงเร่งฝีเท้า อุ้มเสวียนจีขึ้นไปบนห้องนอนชั้นสองอย่างเงียบๆ

หลังจากถอดเสื้อตัวนอกและรองเท้าของอีกฝ่ายออก เช็ดหน้าและมือให้นางอย่างละเอียดแล้ว เขาก็รีบกลับไปยังห้องของตนเองก่อนที่คนอื่นๆจะตื่น

เที่ยวเล่นอยู่ข้างนอกทั้งวันทั้งคืน เฟิ่งเหมียนรู้สึกเหนื่อยล้าอยู่บ้าง บวกกับความตื่นเต้นที่ราวกับคนกินปูนร้อนท้อง ด้วยเหตุนี้เขาจึงลืมของสิ่งหนึ่งไป

ของขวัญที่เสวียนจีมอบให้เขา ถูกลืมเอาไว้ในมุมหนึ่งของโซฟาในห้องรับแขกอย่างไม่ทันระวังตัว

……

หลังจากผ่านไปประมาณหนึ่งชั่วโมงกว่า ในคฤหาสน์เริ่มมีการเคลื่อนไหว ทุกคนทยอยกันตื่นนอนแล้ว

หลงเย่ได้รับความช่วยเหลือจากอ้ายเฟยตามปกติ ยกอาหารเช้ามาไว้บนโต๊ะ ก็เห็นเฟิ่งเหมียนเดินออกมาจากห้องนอน

เขายังไม่ได้พักผ่อน หลังจากกลับห้องก็อาบน้ำ ตอนนี้บนร่างยังมีกลิ่นหอมของสบู่อาบน้ำอยู่

“ท่านกับนางหนูคนนั้นเมื่อวานไปไหน แล้วกลับมาตอนไหน”

เฟิ่งเหมียนตอบด้วยสีหน้าปกติว่า “นางอยากจะเปิดโรงเตี๊ยมในเมืองหลวงของต้าโจว ข้าได้ไปเยี่ยมชมโรงแรมเป็นเพื่อนนางทั้งวัน กลับมาก็ดึกมากแล้ว คงไม่ได้รบกวนพวกเจ้ากระมัง”

นิสัยของเขาทำให้เขาไม่สามารถโกหกคนอื่นได้ แต่ก็ไม่อยากให้คนอื่นรับรู้ประสบการณ์ที่น่าอับอายเมื่อคืนนี้ ดังนั้นการตอบแบบแบ่งรับแบ่งสู้ จึงถือไม่ได้ว่าเป็นการโกหก

เพราะทุกคำล้วนเป็นความจริง

เฟิ่งเหมียนบำเพ็ญตนมาหลายปี เป็นคนตื่นเช้าตลอดมา เป็นคนที่สองที่ปรากฏตัวในห้องรับแขกทุกเช้า

หลงเย่ตักโจ๊กหมูสับไข่เยี่ยวม้า พลางพูดคุยเรื่องทั่วไปกับเขา

เมื่อเชื่อมโยงกับเรื่องที่คุยกับอวิ๋นหลิงตามลำพัง นางก็คาดเอาในใจได้หลายส่วน ดังนั้นจึงยิ้มออกมา

“อายุที่กำหนดตามกฎหมายไม่ได้ห้ามเรื่องมีความรัก เด็กในยุคนี้เป็นผู้ใหญ่เร็วมาก เด็กประถมยังรู้จักหาคู่นัดเดทแล้ว พ่อแม่ส่วนใหญ่ก็มีความคิดก้าวหน้า ขอเพียงไม่ทำเรื่องนอกลู่นอกทาง ส่วนใหญ่แล้วก็มีท่าทีสนับสนุนทั้งสิ้น”

“เสวียนจีเป็นที่ชื่นชอบของผู้ชายในองค์กรซึ่งอยู่ในวัยเดียวกันมาก แน่นอน ก็มีพวกที่อายุมากที่ทำตัวเป็นโลลิคอน เวลาไม่มีภารกิจต้องออกไปทำ ทุกอาทิตย์จะมีคนนัดนางออกไป”

เฟิ่งเหมียนได้ยินถึงตรงนี้ ก็รู้สึกไม่สบายใจอย่างบอกไม่ถูก

เขาเคยหยั่งเชิงถามถึงอดีตของเสวียนจี แต่ไม่เคยคิดว่านางจะเคยมีประสบการณ์ความรักมาก่อน

เพราะตอนที่นางหนูคนนั้นไปจุติที่แคว้นตงฉู่ นางก็เป็นจอมปีศาจในร่างสมบูรณ์แล้ว คนรอบข้างแทบจะได้ยินชื่อก็หน้าเปลี่ยนสีกันหมด สามารถหลบได้ยิ่งไกลก็ยิ่งดี

บวกกับนางยังมีสถานะเป็นพระชายารองของรัชทายาท ใครจะกล้าคิดเป็นอื่นกับนางได้

ถึงแม้จะมี ก็ไม่กล้าเปิดเผยออกมาตรงๆ

วินาทีนี้เฟิ่งเหมียนรับรู้ได้ในทันทีว่า ที่แท้นางหนูเป็นที่ชื่นชอบของคนอื่นมาก ไม่ใช่เพราะนางน่ารักและชอบนางเหมือนน้องสาว แต่เป็นการดึงดูดกันระหว่างเพศตรงข้าม

ดังนั้นวันหนึ่งในอนาคต นางมีคนที่ชอบแล้ว ก็จะเหมือนพี่สาวทั้งสามคนที่แต่งงานมีลูก

การรับรู้นี้ทำให้เฟิ่งเหมียนรู้สึกพูดไม่ออกบอกไม่ถูกอยู่ในใจ จิตใจกระวนกระวายแฝงไปด้วยความตื่นตระหนก

“แล้ว......แล้วนางมีท่าทีเช่นไรกับคนเหล่านี้ ยอมรับหรือปฏิเสธ”

หลงเย่กะพริบตาปริบๆ “แน่นอนว่าต้องยอมรับอยู่แล้ว นางหนูคนนี้หวังว่าคนอื่นจะสามารถทำเรื่องเหลวไหลเป็นเพื่อนนางได้ โชคดีที่ผู้ชายพวกนั้นได้สติทันเวลา มิเช่นนั้นเบาสุดคงจะเสียทรัพย์หนักสุดอาจได้รับบาดเจ็บ”

หลังจากนั้นในองค์กรก็มีเสียงกล่าวขานกันว่า การออกทำภารกิจระดับเอสอาจไม่ตาย แต่การไปเดทกับนางหนูอาจทำให้ตายได้

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พระชายาคือแพทย์อัจฉริยะ