พระชายาคือแพทย์อัจฉริยะ นิยาย บท 138

เฟิงจิ่งเหวยพูดขึ้นด้วยเสียงขุ่นเคือง “เจ้ากล้าพูดจาสามหาวกับเสด็จปู่ของข้างั้นหรือ?”

“พูดจาสามหาว? ข้าพูดอะไรผิดไปงั้นหรือ?”

อวิ๋นหลิงถามนางยิ้มๆ

“ราชวงศ์มีกฎของราชวงศ์ โอรสสวรรค์เองเมื่อกระทำผิดก็ต้องลงโทษสถานเดียวกับเหล่าประชาชนทั่วไป ในอดีตขณะที่ฝ่าบาทเสด็จประพาสต้นถูกเข้าใจผิดว่าเป็นหัวขโมย แต่เพราะไม่มีหลักฐานจึงถูกขังในที่ว่าการอำเภอถึงสองวัน เพื่อรอให้สอบสวนความจริงจึงยอมปล่อยตัวพระองค์ออกมา เหตุใดพอเปลี่ยนเป็นเสด็จปู่ของเจ้าก็แตะต้องไม่ได้แล้วล่ะ?”

อวิ๋นหลิงพูดเรื่องนี้ต่อหน้าประชาชนชาวต้าโจว เพื่อบอกเป็นนัยๆว่าการกระทำของจักรพรรดิจาวเหรินนั้นน่ายกย่องถึงเพียงใด

“หรือเสนาบดีเฟิงมีสิทธิพิเศษอะไรที่ฝ่าบาทไม่มีงั้นหรือ?”

จากนั้นก็มีคนพูดเสริมขึ้นมาอีกว่า “ใช่แล้ว ต้องจงใจมาว่าร้ายผู้อื่นแน่ๆ ให้หอต้าหลี่มาตรวจสอบเสียให้รู้แล้วรู้รอดไปเลย”

“คงจงใจมาว่าร้ายผู้อื่นจริงๆ อย่างไรแล้วนี่ก็ไม่ใช่ครั้งแรกที่ตระกูลเฟิงทำเรื่องหน้าไม่อายเช่นนี้ ครั้งก่อนทั้งโรงยาของตระกูลหลี่และร้านอาหารของตระกูลเฉียน ก็ล้วนพังไม่เป็นท่าเพราะพวกเขา…”

กิจการตระกูลเฟิงรุ่งเรืองกว่าใคร แม้จะมีทายาทสืบตระกูลมากมาย แต่ทว่าคนที่ต่ำทรามอย่างเช่นเฟิงเหยียนก็มีอยู่ไม่น้อยเช่นกัน

เมื่อก่อนเหล่าชาวบ้านต่างก็คับแค้นเคืองโกรธอยู่ในใจแต่ก็ไม่กล้าเอ่ยอะไรออกไปเพราะเกรงกลัวต่ออำนาจ

สีหน้าของเฟิงจิ่งเหวยเปลี่ยนไปเล็กน้อย เริ่มรู้สึกว่าไม่ควรเอ่ยถึงตระกูลเฟิงของตนต่อ มิเช่นนั้นคงจะตกหลุมพรางของอวิ๋นหลิงแน่นอน

นางเก็บความคับแค้นภายในใจ และมองอวิ๋นหลิงด้วยแววตาร้ายกาจราวกับงูพิษ สีหน้าเต็มไปด้วยความจริงจัง

อวิ๋นหลิงมองไม่เห็นถึงสายตาเย็นชาของนาง แล้วเดินเข้าใกล้พร้อมเอ่ยถามนิ่งๆ

“ดูเหมือนคุณหนูเฟิงจะไม่พอใจในคำสั่งของข้านะ?”

ในใจนางเกิดความสงสัยเล็กน้อย เฟิงจิ่งเหวยที่พึ่งกลับมาเมืองหลวงได้ไม่นาน จู่ๆจะมาหาเรื่องนางด้วยเหตุใดกัน?

ทว่าตั้งแต่เฟิงเหยียนกลายเป็นคนพิการ ระหว่างนางและตระกูลเฟิงก็ไม่ลงรอยกัน การที่นางมาล้างแค้นแทนลูกพี่ลูกน้องในตระกูลตนเองคงเป็นเรื่องปกติกระมัง

เฟิงจิ่งเหวยข่มอารมณ์โกรธ ตอบกลับเสียงแข็ง “จิ่งเหวยมิกล้าเจ้าค่ะ ทว่าหากพระชายาจะตัดสินโทษข้าเพียงเพราะคำพูดไม่กี่คำ ทั้งยังไม่มีแม้แต่หลักฐาน เช่นนี้ก็ย่อมยากที่ข้าจะยอมรับ”

ว่าตามกฎระเบียบแล้ว อวิ๋นหลิงเป็นถึงพระชายาจิ้งอ๋อง ย่อมมีเกียรติศักดิ์สูงกว่าบุตรีเสนาบดีเยี่ยงนาง เมื่ออยู่ด้านนอกก็ต้องให้ความเคารพตามมารยาท

เพราะถึงอย่างไรก็ตามกฎเกณฑ์นี่ก็ไม่ได้ตามติดนางไปทุกที่ การมียศถาบรรดาศักดิ์ไม่ได้หมายความว่าจะมีอำนาจเสมอไป เหล่าขุนนางมียศมีตำแหน่งถูกจับกุมถูกลงโทษก็มีให้เห็นอยู่โถมไป

จวนเฟิงคือบ้านของเสนาบดีซ้ายเฟิง และฮองเฮาในปัจจุบันก็เป็นบุตรีภรรยาเอกในจวนเฟิง ดังนั้นในราชสำนักเหล่าลูกๆหลานๆในตระกูลเฟิงต่างก็มีตำแหน่งเล็กใหญ่

ซึ่งก็นับว่าเป็นตระกูลที่มีรากฐานมั่นคงตระกูลหนึ่งเลยก็ว่าได้ อย่ามองว่าเฟิงจิ่งเหวยเป็นเพียงบุตรีภรรยาเอกในจวน แต่เหล่าสตรีสูงศักดิ์ในจวนอื่นๆต่างก็ให้ความเคารพเอาอกเอาใจนางเป็นอย่างดี ขนาดองค์หญิงหกที่หยิ่งยโสเอาแต่ใจตัวเอง ก็ไม่กล้าทำตัวโอหังต่อหน้านางเช่นกัน

“ที่คุณหนูเฟิงพูดก็ถูก แต่เรื่องที่ท่านสร้างความวุ่นวายในวันนี้ แม้มันจะกระทบถึงชื่อเสียงของข้าก็ไม่เป็นไร ทว่ามันกระทบถึงชื่อเสียงของอู๋อันกงข้าย่อมยอมรับไม่ได้”

อวิ๋นหลิงมองนางด้วยรอยยิ้มราวดอกชบาสีสดที่แทบจะทิ่มแทงดวงตาของเฟิงจิ่งเหวย

“ดังนั้นก็ไปหอต้าหลี่เสียก่อนเถิด หากมีสิ่งไม่ชอบมาพากลจากเรื่องนี้ ย่อมต้องสืบดูให้แน่ชัดก่อนถึงจะคืนความยุติธรรมให้ท่านได้ คุณหนูเฟิงเห็นด้วยหรือไม่?”

เฟิงจิ่งเหวยลอบกำหมัดแน่น มองอวิ๋นหลิงที่อยู่ไม่ไกล กดเสียงพูดด้วยความเยือกเย็น

“วันนี้พระชายาจงใจจะทำให้ข้าอับอาย ไม่เกรงกลัวตระกูลเฟิงของข้าเลยงั้นหรือ?”

นางหงุดหงิดในใจ เหตุใดจึงมีคนไม่รู้กฎระเบียบอย่างอวิ๋นหลิงอยู่ด้วยนะ หากอวิ๋นหลิงเป็นคนฉลาดย่อมรู้ดีว่าไม่ควรมายุ่งกับตระกูลเฟิงของนาง

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พระชายาคือแพทย์อัจฉริยะ