เมื่อบรรยากาศตกอยู่ในความเงียบสงัด ก็มีเสียงเซียวปี้เฉิงดังขึ้นมาจากหน้าเรือน
“พวกเจ้าทำอะไรกัน?”
วันนี้เป็นวันพักผ่อนของเขา เมื่อครู่ขณะกำลังจัดการเอกสารในห้องตำรา เฉียวเย่ก็เข้ามารายงานว่าเฟิงจิ่งเหวยเอาของขวัญมาขอโทษอวิ๋นหลิงถึงจวน
มีบทเรียนจากเฟิงเหยียนที่ส่งของขวัญมาครั้งก่อน เซียวปี้เฉิงก็อยู่ไม่สุข จึงอยากมาดูที่เรือนหลันชิงสักหน่อย
เฟิงจิ่งเหวยหันมองตามเสียง เมื่อได้เห็นใบหน้าหล่อเหลา ดวงตานางก็เป็นประกายขึ้นมาทันที พูดขึ้นด้วยเสียงอ่อนเสียงหวานโดยไม่รู้ตัว
“เป็นจิ้งอ๋องนี่เอง ไม่พบกันนาน ท่านสบายดีหรือไม่?”
เซียวปี้เฉิงแววตาว่างเปล่า “เจ้าเป็นใครกัน?”
พูดราวสนิทสนมกับเขาเป็นอย่างดี
อวิ๋นหลิงหรี่ตามองนาง พร้อมเผยรอยยิ้มอ่อนๆบนใบหน้า “คุณหนูเฟิงเคยรู้จักกับท่านอ๋องด้วยหรือ?”
หรงฉานยืนตัวสั่นอยู่ข้างๆ เห็นๆอยู่ว่าพี่อวิ๋นหลิงยิ้มอย่างงดงาม ทว่านางกลับรู้สึกกลัวๆรอยยิ้มนี้อย่างบอกไม่ถูก
คาดไม่ถึงว่าเซียวปี้เฉิงจะไม่ประทับใจในตัวนางเลยแม้แต่น้อย เฟิงจิ่งเหวยหน้าเจื่อน กัดริมฝีปากแน่น
ต่อมาก็ปั้นหน้าแสดงรอยยิ้มที่อ่อนหวาน “ก็ไม่นับว่าเคยรู้จักดอก เคยพบกันเพียงคราเดียว ตอนนั้นโชคดีที่มีท่านอ๋องช่วยชีวิตจิ่งเหวยเอาไว้”
อวิ๋นหลิงเลิกคิ้ว อุทานด้วยความสงสัย “โอ๋?”
ทั้งๆที่อากาศก็ไม่ได้ร้อนจัด แต่ดซียวปี้เฉิงกลับมีเหงื่อผุดขึ้นมาเต็มหน้าผาก และรีบพูดโพล่งออกมาโดยสัญชาตญาณ
“เจ้าอย่ามาพูดไร้สาระ ข้าเคยช่วยชีวิตเจ้าตั้งแต่เมื่อใดกัน เจ้าคงจำคนผิดไปเองน่ะสิ!”
ท่าทางไม่สบอารมณ์และพยายามตีตัวออกห่างของเขาทำให้เฟิงจิ่งเหวยลอบกำผ้าเช็ดหน้าในมือแน่น
นางพูดขึ้นพร้อมรอยยิ้มและเสียงอ่อนหวานเช่นเคย “จิ้งอ๋องคงจะยุ่งราชกิจมากมายจนลืมไปแล้วกระมัง วันก่อนพิธีอภิเษกสมรสของรุ่ยอ๋องพี่ชายลูกพี่ลูกน้องของข้า วันนั้นในจวนรุ่ยอ๋องข้าพลัดตกจากต้นไม้ แต่โชคดีที่ท่านอ๋องเข้ามารับข้าไว้ได้ทัน…”
เซียวปี้เฉิงมึนงงไปชั่วขณะ นึกขึ้นได้รางๆ ดูเหมือนเรื่องที่นางเล่าจะเคยเกิดขึ้นจริง
อวิ๋นหลิงเหลือบมองท่าทางของนางด้วยหางตา รู้ว่าเรื่องที่เฟิงจิ่งเหวยพูดนั้นเป็นความจริง จึงพูดขึ้นด้วยรอยยิ้มเช่นเดิม “ที่แท้ก็เป็นเช่นนี้นี่เอง”
เฟิงจิ่งเหวยเมื่อเห็นว่าเซียวปี้เฉิงเริ่มจำตนเองได้ ใบหน้านางก็อิ่มเอมขึ้นเล็กน้อย
“วันนั้นข้าตกใจมาก ไม่ทันได้กล่าวขอบคุณท่านอ๋อง วันนี้จิ่งเหวยขอขอบพระคุณท่านอ๋องที่เคยช่วยชีวิตข้าไว้”
นางก้มคำนับเซียวปี้เฉิงอย่างอ่อนน้อม
เซียวปีเฉิงลอบมองสีหน้าของอวิ๋นหลิง หน้าผากของเขาเต็มไปด้วยหยาดเหงื่อ “ข้าก็เพียงพลั้งมือเข้าไปช่วย ไม่นับว่าเป็นพระคุณอย่างที่เจ้าว่า แม้เจ้าจะตกจากต้นไม้จริงๆก็ไม่มีทางตายได้ง่ายๆดอก”
เขารู้สึกเสียใจภายหลัง การช่วยเหลือคนนั้นไม่เป็นปัญหาแต่อย่างใด แต่สิ่งที่เป็นปัญหาคือเขาไม่ควรหน้ามืดตามัวเห็นใครก็ช่วยไปเสียหมด
เฟิงจิ่งเหวยได้ฟังก็ทำตัวไม่ถูก จึงฝืนพูดยิ้มๆ “ท่านอ๋องทรงเกรงใจเกินไปแล้ว”
ใครเกรงใจเจ้ากัน?
เซียวปี้เฉิงที่กำลังจะพูดโพล่งออกไป แต่หรงฉานอยู่ที่นี่ด้วยจึงข่มอารมณ์เอาไว้ และพูดขึ้นด้วยเสียงเรียบแทน
“จะว่าไปแล้ว คนที่สร้างความวุ่นวายหน้าโรงยาเมื่อไม่กี่วันก่อนคือเจ้าเองสินะ?”
เฟิงจิ่งเหวยใจกระตุก รีบพูดแก้ต่างด้วยคำพูดก่อนหน้าอย่างรวดเร็ว
“จิ่งเหวยสาบาน ว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องเข้าใจผิด ท่านอ๋องเคยช่วยชีวิตข้าไว้ เช่นนั้นหาจะไปสร้างความวุ่นวายให้โรงยาด้วยเหตุใดกันเล่า? วันนี้ที่ข้านำของขวัญมา เพราะอยากมาขอโทษจากใจจริง”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พระชายาคือแพทย์อัจฉริยะ
จะมีอัพต่อจนจบไหมค่ะแอด...
นึกว่าจะอัพจนจบเสียอีกค่ะ กำลังสนุกเข้มข้นเชียว...
รบกวนแอดช่วยอับต่อไปให้จบเรื่องได้ไหมคะ รออ่านอยู่น้า...
ตอนต่อไปอ่านที่ไหนคะ...
ตอนต่อไป อัพช่วงไหนคะ 😭😭😭...
อัพต่อเถอะนะคะ...กำลังสนุกเลยค่ะ😅😄😊😘...
สนุกมากค่ะ..เดินเรื่องเร็ว..พระเอกไม่โง่..นางเอกฟาดแรงสะใจ...อ่านแล้วบันเทิงมาก55555......
ขอบคุณค่ะ...
รีบมาต่อนะคะ กำลังสนุกเลย...
ขอบคุณน้าค้า ที่ลงทุกวันเลยสนุกมากค่ะ...