พระชายาคือแพทย์อัจฉริยะ นิยาย บท 208

กลับถึงวังหลวง อวิ๋นหลิงกับเซียวปี้เฉิงทูลเรื่องรุ่ยอ๋องให้ฟังโดยสรุป และไม่ได้ปิดบังเรื่องที่ฉู่อวิ๋นหานใช้ยากับเขาด้วย

พระเจ้าหลวงทำพักตร์บึ้งตึงพร้อมรับสั่งเสียงฮึ “เป็นไส้ศึกของเผ่าทูเจวีย ยังคิดให้กำเนิดทายาทของราชวงศ์ต้าโจวอีก ช่างเหิมเกริมยิ่งนัก”

ถ้านางคลอดลูกจริง อีกหน่อยแม้ไม่ใช้เป็นเครื่องมือต่อรองสำหรับรุ่ยอ๋อง ก็อาจกลายเป็นมีดที่จะทิ่มแทงราชวงศ์ต้าโจวได้

จักรพรรดิจาวเหรินยังทรงประชวรอยู่ ทรงไอเล็กน้อย รับสั่งอย่างกังวลว่า “อาการเจ้าใหญ่เป็นยังไงบ้าง ในวังมีพร้อมทุกอย่าง ถ้าจำเป็นต้องใช้หยูกยาชนิดไหน ก็ให้สำนักหมอหลวงส่งไปให้ แล้วพรุ่งนี้ข้าจะไปเยี่ยมเขา”

อวิ๋นหลิงแอบถอนหายใจ พ่อที่ลำเอียงพบเจอมาเยอะ แต่ยังไม่เคยเห็นลำเอียงถึงขั้นนี้

รุ่ยอ๋องแค่ไม่กินไม่นอนสองสามวัน จักรพรรดิจาวเหรินก็ร้อนพระทัยถึงเพียงนี้แล้ว แม้ทรงประชวรก็จะไปเยี่ยมเขาให้ได้ ทั้งที่หลายเดือนก่อนเกิดเหตุลอบสังหาร จวนจิ้งอ๋องประกาศว่าเซียวปี้เฉิงได้รับบาดเจ็บสาหัส จักรพรรดิจาวเหรินก็แค่ประทานยามา โดยไม่ได้เสด็จจวนจิ้งอ๋องแม้แต่ก้าวเดียว

พอนึกถึงว่าฮ่องเต้ยังรับสั่งให้นางไปดูอาการคนโง่อย่างรุ่ยอ๋องอีก อวิ๋นหลิงก็ให้หงุดหงิดในใจนัก

เห็นจักรพรรดิจาวเหรินทรงไอรุนแรง เซียวปี้เฉิงก็รีบลุกขึ้นรินน้ำชาร้อนไปถวาย พลางทูลปลอบว่า “เสด็จพ่อทรงวางพระทัย พี่ใหญ่ได้ออกจากโรงหมอมาแล้ว เขารับปากจะดูแลตัวเองให้ดี เสด็จพ่อก็เหมือนกัน พระอนามัยสำคัญกว่า หากพี่ใหญ่รู้ว่าทรงประชวรยังคิดออกจากวังไปเยี่ยมเขา คงจะเป็นห่วงเสด็จพ่อมาก”

หลังได้ฟังคำพูดของอวิ๋นหลิง รุ่ยอ๋องไม่กล้าที่จะละเลยตัวเองอีก

จักรพรรดิจาวเหรินยังคงไม่วางพระทัย “ยานั่นจะมีผลอะไรต่อเขาหรือเปล่า?”

อวิ๋นหลิงหุบมุมปากลงเล็กน้อย ทูลเสียงเรียบว่า “ครั้งนี้เขาเพียงต้องพักฟื้นซักหลายวัน เพราะไม่ได้เจ็บถึงภายใน นั่นเพราะหม่อมฉันแกล้งพูดเพื่อจะขู่เขาเท่านั้น บอกว่าในสามเดือนนี้ห้ามมีกิจกรรมบนเตียง อย่างน้อยในระหว่างนี้ ฉู่อวิ๋นหานคงไม่อาจทำอะไรตุกติกได้”

พอรู้ว่าคนที่วางยาก็คือฉู่อวิ๋นหาน อวิ๋นหลิงก็รู้ทันความคิดของนาง เดิมทีจะบอกว่าห้ามมีการเข้าหอในครึ่งปี แต่เกรงว่าจะนานเกินไป คนอื่นอาจไม่เชื่อก็เป็นได้

พระเนตรของพระเจ้าหลวงส่อแววชื่นชม “นังหนูหลิงเป็นเด็กหัวไว รู้จักรับมือ”

หลานสะใภ้คนนี้ ดูยังไงก็ถูกชะตานัก

จักรพรรดิจาวเหรินกลับเห็นท่าทีของอวิ๋นหลิง ทรงเลิกพระขนงและถามว่า “สะใภ้สาม ทำไมมองข้าด้วยสีหน้าบูดบึ้งอย่างงั้นล่ะ? ไม่พอใจอะไรข้าอย่างงั้นหรือ?

อวิ๋นหลิงเม้มปากเล็กน้อย ทูลตามตรงว่า “ในเมื่อทรงดูออก หม่อมฉันก็ไม่อยากปิดบังอีก หม่อมฉันไม่พอใจต่อฝ่าบาทจริง ๆ”

เมื่อพูดจบ เซียวปี้เฉิงกับพระเจ้าหลวงก็มองไปที่นางทันที

อาจเพราะเคยชินต่อพฤติกรรม “ลบหลู่เบื้องสูง” ของอวิ๋นหลิงมาบ้างแล้ว จักรพรรดิจาวเหรินจึงไม่ได้ทรงกริ้ว เพียงแต่ทรงขมวดพระขนงและตรัสว่า “ไหนลองพูดให้ฟังหน่อยซิ เจ้าไม่พอใจข้ายังไงบ้าง?”

“หม่อมฉันเห็นว่า บางครั้งฝ่าบาทก็ทรงลำเอียง ครั้งนี้เหตุใดรุ่ยอ๋องจึงเล่นแง่ไม่กินไม่นอน ฝ่าบาทก็ทรงทราบดี นั่นเพราะเขาหาเรื่องใส่ตัวเอง ฝ่าบาทก็ช่างกระไร รู้อยู่ว่าหม่อมฉันไม่ถูกชะตากับเขา ในวังก็มีหมอหลวงตั้งเยอะ ยังจะรับสั่งให้หม่อมฉันไปรักษาเขาอีก”

อวิ๋นหลิงทำเสียงฮึเบา ๆ พร้อมกับบ่นต่ออีก

“ตรงข้ามกับปี้เฉิง ก่อนหน้านี้จะทรงให้เขาแต่งงานกับหวยหยู เขาไม่ยินยอม ไปนอนอยู่บนพื้นแผ่นหินหน้าพระตำหนักบำรุงฤทัยสามวันสามคืน ร่างกายคนไม่ใช่เหล็กไหลนะเพคะ ฝ่าบาทยังไม่เห็นจะทรงห่วงใยซักนิด”

ในตอนนั้นแง่งอนส่วนแง่งอน เห็นสภาพทรุดโทรมหนวดเครารุงรังของเซียวปี้เฉิงแล้ว นางก็รู้สึกปวดใจยิ่งนัก

เซียวปี้เฉิงรู้สึกอึ้งเล็กน้อย เขารู้ว่าอวิ๋นหลิงไม่อยากพบรุ่ยอ๋อง ไม่อยากรักษาให้เขา จึงอดที่จะบ่นโน่นบ่นนี่ไม่ได้

แต่ไม่คาดคิดว่า ความไม่พอใจนั้นส่วนหนึ่งคือออกหน้าแทนเขาด้วย

จักรพรรดิจาวเหรินพระพักตร์บึ้งตึง “นั่นเพราะเจ้าสามขัดคำสั่งข้า ยังหวังให้ปรานีปราศรัยอะไรอีก หากทำอย่างงั้นจริงแล้วต่อไปใครจะมานับถือข้า?”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พระชายาคือแพทย์อัจฉริยะ