พระชายาคือแพทย์อัจฉริยะ นิยาย บท 210

เมื่อได้ยิน เซียวปี้เฉิงไม่ได้สนใจกล่องไม้นั่นมากนัก กลับถามอย่างหน้าเคร่งว่า "อาการของเจ๋อเฟิงหนักมากหรือเปล่า?"

"องครักษ์เยี่ยถูกฟันที่แขนซ้าย แผลไม่ลึกมาก อาจารย์หลินซินพอรู้ข่าวก็รีบมาทำแผลให้ทันที"

เซียวปี้เฉิงพยักหน้า สีหน้าค่อยผ่อนคลายหน่อย เยี่ยเจ๋อเฟิงปลอดภัยเขาก็เบาใจขึ้น

เฉียวเย่เห็นเขาไม่รู้สึกอะไรทั้งที่ถูกขโมยของ อดไม่ได้ที่จะถามว่า "ท่านอ๋อง คนร้ายเอากล่องไม้ที่ใส่กุญแจไป ข้างในมีของสำคัญอะไรหรือเปล่า?"

เซียวปี้เฉิงยิ้มจาง ๆ "กล่องไม้นั่นเดิมทีก็ไว้เบี่ยงเบนความสนใจอยู่แล้ว ข้างในไม่มีอะไรหรอก"

หากเดาไม่ผิด อีกฝ่ายน่าจะมาเพราะภาพต้นแบบของหน้าไม้ พักก่อนเขากับอวิ๋นหลิงตั้งใจโพนทะนาความพิเศษและประสิทธิภาพของหน้าไม้ ก็เพื่อหวังให้ชาวทูเจวียหันเหความสนใจมาทางนี้ เปิดทางให้พวกเขาได้ผลิตปืนคาบศิลาได้สะดวกขึ้น

เล่นละครก็ต้องให้สมจริง เซียวปี้เฉิงจึงวางกล่องไม้ที่ใส่กุญแจไว้ในห้องหนังสือ อีกทั้งให้ทหารคอยเฝ้าอย่างเข้มงวด

ส่วนในกล่องจะมีอะไรกันแน่ เรื่องนี้คงต้องถามอวิ๋นหลิง

เฉียวเย่ค่อยถอนใจโล่งอกหน่อย และยิ้มออกมา "ท่านอ๋องคิดการรอบคอบนัก แต่ท่านจงใจปิดบังพวกเรา เจ้าลู่ฉีร้อนใจจนจะแย่ คิดว่าตัวเองบกพร่องต่อหน้าที่ จนป่านนี้ยังร้องไห้ไม่หยุดเลย"

เซียวปี้เฉิงพยักหน้า "งั้นวันนี้เราจะกลับจวนกัน ไว้ค่ำ ๆ ค่อยออกเดินทาง"

พวกเขามาอยู่ในวังได้เกือบครึ่งเดือนแล้ว บัดนี้เรื่องของตระกูลฟงก็จัดการเรียบร้อย สมุนไพรของอู่อันกงก็ปลูกขึ้น ถึงเวลาที่ต้องกลับจวนจัดงานครบเดือนให้กับสองตัวเล็กเหมือนกัน

ในรถม้าที่โยกไปมา เซียวปี้เฉิงโอบอวิ๋นหลิงแล้วแอบพูดเบา ๆ

"น้ำมือชาวทูเจวียเหนือกว่าที่ข้าคิดไว้มากนัก ขนาดจวนจิ้งอ๋องที่คุ้มกันหนาแน่น พอเห็นเราสองคนไม่อยู่ พวกมันก็ยังกล้ารุกล้ำ ซ้ำยังออกไปได้อย่างปลอดภัยอีก"

"ชั่วดียังไงพวกเขาก็แฝงกายอยู่ในต้าโจวถึงยี่สิบกว่าปี คาดว่าไส้ศึกระดับอย่างเหลียนฮูหยินที่สามารถแอบแฝงอยู่ในหมู่ขุนนางผู้ใหญ่ อาจมีมากกว่าหนึ่งด้วยซ้ำ จนแม้แต่อันชินอ๋องก็อาจเป็นหนอนบ่อนไส้ด้วย"

อวิ๋นหลิงหลุบตาลง ถ้านางคิดจะกำจัดเหลียนฮูหยินคนนี้ บอกได้เลยว่าง่ายกว่าบี้มดตายตัวหนึ่งซะอีก

แต่นางมารเฒ่าคนนี้ยังต้องละเว้นไว้ก่อน เพราะพระเจ้าหลวงหวังใช้นางเป็นเหยื่อล่อ หลอกให้ไส้ศึกอื่นที่แฝงกายอยู่ในราชสำนักออกมาให้หมด

อวิ๋นหลิงปวดหัวจนต้องนวดขมับ นางไม่ชอบอะไรที่อ้อมค้อมแบบนี้เลยจริง ๆ

พี่ใหญ่เคยบอกว่า นางเป็นคนฉลาดแต่เกียจคร้านนัก ไม่ชอบใช้ความคิดมากมาย หวังแต่อยู่สงบเงียบ ๆ แต่บัดนี้เพื่อเห็นแก่อนาคตแล้ว นางอาจต้องใส่ใจเรื่องพวกนี้ซะบ้าง

"จริงสิ จี้ดวงดาวสีเพลิงของเจ้าต้องเก็บไว้ให้ดีล่ะ อย่าสะเพร่าจนถูกคนขโมยไปอีก"

อวิ๋นหลิงกระตุกริมฝีปากเล็กน้อย ยิ้มจนตาหยีพลางกล่าวว่า "ข้อนี้วางใจได้ เพราะข้าเก็บไว้ในที่ ๆ พวกเขาคาดคิดไม่ถึงแน่นอน"

เซียวปี้เฉิงเลิกคิ้ว ถามด้วยความอยากรู้ว่า "งั้นหรือ? ซ่อนไว้ที่ไหนน่ะ?"

"ดั่งคำว่า ที่ ๆ อันตรายคือที่ปลอดภัยที่สุด อยู่ในที่สะดุดตา กลับไม่มีใครพบเห็นได้ง่าย..."

"เอาน่า อย่ามัวเฉไฉอีกเลย" เซียวปี้เฉิงยิ้มพลางโอบเอวนางเบา ๆ "ไปเก็บไว้ไหนกันแน่?"

อวิ๋นหลิงกล่าวว่าลับ ๆ ล่อ ๆ ว่า "อยู่ในกระโถนใต้เตียงของเรา"

เซียวปี้เฉิน "..."

นั่นเป็นสิ่งที่เสด็จพ่อทรงถือเป็นมรดกตกทอดแห่งราชวงศ์เชียวนะ ถ้าทรงทราบเรื่องเข้า คงต้องฆ่าคนเป็นแน่แท้

สีหน้าเซียวปี้เฉิงดูเหยเกชอบกล อวิ๋นหลิงจึงรีบร้อนอธิบาย "เป็นกระโถนที่สะอาดน่ะ ข้าตั้งใจซื้อมาเพื่อจะเก็บหินอุกกาบาต!"

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พระชายาคือแพทย์อัจฉริยะ