อวิ๋นหลิงถามด้วยความสงสัย “นางทำงานเป็นช่างไม้ได้ด้วยหรือ?”
ชนชั้นในต้าโจว ในขุนนาง ชาวนา พ่อค้า ช่างฝีมือมีความสำคัญพอๆ กับขุนนาง แต่งานด้านฝีมือประเภทนี้ส่วนใหญ่จะเป็นพวกผู้ชายสืบทอด ผู้หญิงจะเห็นน้อยมาก
ฉู่อวิ๋นเจ๋อพยักหน้า “ใช่ เดิมทีพ่อของนางเป็นช่างไม้ที่เก่งที่สุดคนหนึ่งในเมืองหลวง มิฉะนั้นนางจะไม่ได้รับสนใจจากตระกูลเฟิงเพื่อจ้างทำงาน ในฐานะลูกสาวคนเดียวในครอบครัว ผู้หญิงคนนี้ได้รับการถ่ายทอดจากพ่อของนางมาหลายส่วน”
ขณะที่พูด ฉู่อวิ๋นเจ๋อสั่งให้คนรับใช้นำงานฝีมือแกะสลักมาให้อวิ๋นหลิง ซึ่งดูมีเอกลักษณ์มากกว่างานแกะสลักไม้ทั่วไป
“ฝีมือไม่เลว งั้นก็ให้นางแล้วกัน” อวิ๋นหลิงหยิบไม้แกะสลักนกกระจอกที่ประณีตขึ้นมาและเล่นกับมันสักพัก นางก็คิดอะไรออก “จริงสิ ตอนนี้จื่อเถาเป็นอย่างไรบ้าง?”
“พ่อของนางตายแล้ว ในครอบครัวก็ไม่มีญาติ ตอนนี้นางอยู่คนเดียว คราวที่แล้วที่นางไปฟ้องก็นางก็โดยโบยไปยี่สิบไม้ เพิ่งจะรักษาให้หายดีเมื่อไม่นานมานี้”
เมื่อพูดถึงเรื่องนี้ ฉู่อวิ๋นเจ๋อก็เอ่ยขึ้นมาอีกครั้ง
“จริงสิ แม่นางจื่อเถาขอให้ข้าถามเจ้าเรื่องหนึ่ง ที่จวนของจิ้งอ๋องขาดแคลนสาวใช้หรือไม่? หากมีตำแหน่งว่าง นางอยากจะมาทำงานหาเรื่องชีพที่จวนจิ้งอ๋อง”
จื่อเถาไม่มีใครเลยตอนนี้ แม้ว่านางจะเป็นช่างไม้ฝีมือดี แต่เพราะเป็นหญิงเลยถูกกีดกัน ไม่เพียงแต่ไม่ได้งาน แต่งานไม้ที่ทำออกมายังมักจะถูกกดราคา
อวิ๋นหลิงคิดอยู่ครู่หนึ่งก็ตอบตกลง “ไม่มีปัญหา ถ้าอย่างนั้นให้นางมาทำงานที่เรือนหลันชิงก็ได้ รวมค่าอยู่ค่ากินเงินเดือนเดือนละหนึ่งตำลึง บางครั้งข้าอาจจะมีงานไม้ให้นางบ้าง เงินของงานพวกนี้ข้าจะแยกให้นางต่างห่าง
เงื่อนไขที่อวิ๋นหลิงเสนอนั้นค่อนข้างใจกว้าง ตอนนี้นางมีแหล่งรายได้จากการขายยาในโรงหมอ เงินเดือนที่จ่ายให้กับคนรับใช้ในจวนจิ้งอ๋องก็ไม่น้อย
เซียวปี้เฉิงมองนางแล้วถามอย่างลังเล “เจ้าขาดแคลนคนใช้หรือ?”
เซียวปี้เฉิงยังมีปมฝังใจหลังจากผ่านประสบการณ์ของชิวซวง คุณหนูลูกพี่ลูกน้องและเฟิงจิ่งเหวย
ปกติตอนเดินบนถนน เขาอยากจะอยู่ห่างจากสตรีเหล่านั้นให้ไกลแปดจั้ง แต่ตอนนี้พอได้ยินว่าอวิ๋นหลิงอยากจ้างสาวใช้คนใหม่มาปรนนิบัติเขา เขาจึงระแวดระวังและต่อต้านโดยสัญชาตญาณ
อวิ๋นหลิงอธิบายว่า “ก่อนหน้านี้ ข้าก็รู้สึกมีตงชิงและแม่นมเฉินก็เพียงพอแล้ว แต่ตอนนี้พอมีต้าเป่าเอ้อร์เป่า ก็มักจะรู้สึกว่างานยุ่งตลอด”
มีสาวใช้เด็กรับใช้ไม่มากนักในจวนจิ้งอ๋อง อย่างแรกสามีและภรรยาไม่คุ้นเคยกับการมีคนมาปรนนิบัติมากเกินไป สองเพื่อประหยัดเงิน และหลีกเลี่ยงการมีคนมากเกินไป
ดังนั้นหลังจากไล่ชิวซวงสาวใช้ที่มีความคิดไม่ดีออกไป เซียวปี้เฉิงจึงทำความสะอาดจวนเป็นพิเศษ ในเรือนด้านในไม่มีสาวใช้เหลืออยู่เลย
ยกเว้นลู่ฉี เซียวปี้เฉิงจะถูกรายล้อมด้วยพวกบุรุษในฐานะผู้คุ้มกัน ส่วนเรือนหลันชิงของอวิ๋นหลิงมีตงชิงเป็นสาวใช้เท่านั้น
“แม่นางคนนั้นมีไหวพริบและกล้าหาญ ข้าต้องการให้นางทำงานที่เรือนหลันชิง ถ้าข้ามีอะไรต้องทำในภายหลัง ข้าจะได้ไม่ยุ่งจนถูกคนเจาะช่องโหว่ได้”
เซียวปี้เฉิงอดไม่ได้ที่จะนึกถึงเหตุการณ์เข็มพิษในงานเลี้ยงครบเดือนก่อนหน้านี้ ถ้าตอนนั้นพวกเขามีคนใช้มากกว่านี้ บางทีพวกเขาอาจจะเจอสิ่งผิดปกติได้ทันเวลา
เขาพยักหน้า “ถ้าอย่างนั้น ก็แล้วแต่เจ้า”
เรื่องเข้าจวนของจื่อเถาก็ถูกตัดสินเช่นนี้ และในวันต่อมา ฉู่อวิ๋นเจ๋อก็ส่งคนพานางไปที่จวนจิ้งอ๋อง และกลายเป็นสาวใช้ส่วนตัวของอวิ๋นหลิง
อวิ๋นหลิงสังเกตจื่อเถาอยู่สองสามวัน พบว่านางมักจะหลีกเลี่ยงการติดต่อกับบุรุษในจวนเสมอ นางไม่ได้พูดคุยกับพวกลู่ฉีมากนัก
ยกเว้นสือจิ่วบ่าวจากแคว้นฉู่ที่อวิ๋นหลิงช่วยมาจากตระกูลเฟิงคนเดียว อาจเป็นเพราะอีกฝ่ายยังเป็นเด็กมากและถูกพี่น้องตระกูลเฟิงทรมานมามาก จื่อเถาจึงมีทัศนคติกับเขาต่างจากคนอื่นไปบ้าง นางมีความเห็นอกเห็นใจต่อเขามาก
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พระชายาคือแพทย์อัจฉริยะ
นึกว่าจะอัพจนจบเสียอีกค่ะ กำลังสนุกเข้มข้นเชียว...
รบกวนแอดช่วยอับต่อไปให้จบเรื่องได้ไหมคะ รออ่านอยู่น้า...
ตอนต่อไปอ่านที่ไหนคะ...
ตอนต่อไป อัพช่วงไหนคะ 😭😭😭...
อัพต่อเถอะนะคะ...กำลังสนุกเลยค่ะ😅😄😊😘...
สนุกมากค่ะ..เดินเรื่องเร็ว..พระเอกไม่โง่..นางเอกฟาดแรงสะใจ...อ่านแล้วบันเทิงมาก55555......
ขอบคุณค่ะ...
รีบมาต่อนะคะ กำลังสนุกเลย...
ขอบคุณน้าค้า ที่ลงทุกวันเลยสนุกมากค่ะ...
ชอบมากเลยค่ะ นางเอกเก่ง❤...