พระชายาคือแพทย์อัจฉริยะ นิยาย บท 243

ก่อนหน้านี้หมอหลวงเคยบอกว่าหลังคลอดบุตรสองเดือนก็สามารถหลับนอนได้แล้ว

ซึ่งก็ผ่านสองเดือนนั้นมาแล้ว แต่เป็นเพราะเซียวปี้เฉิงมัวแต่ยุ่งกับการตั้งค่ายที่หมู่บ้านน้ำพุร้อน จึงไม่มีเวลาปฏิบัติภารกิจนี้

บัดนี้ไม่ง่ายเลยกว่าจะมีเวลาว่าง...

อวิ๋นหลิงชะงักงัน สบตาอันแปลกประหลาดให้เขา

เซียวปี้เฉิงกดเสียงเบาแล้วถามหยั่งเชิงว่า “คืนนี้ให้แม่นมเฉินเลี้ยงลูกไหม?”

อวิ๋นหลิงลังเล “ลูกสองคนนี้ไม่เบาเลย แม่นมเฉินอายุมากแล้ว จะไหวหรือ?”

ส่วนมากต้าเป่ากับเอ้อร์เป่าจะนอนห้องเดียวกับพวกเขา บุตรของพวกเขาชอบร้องไห้กลางดึก ต้องอุ้มกล่อมถึงจะได้

และที่สำคัญ คนอื่นอุ้มจะไม่หยุดร้อง ต้องให้นางอุ้มเท่านั้น

การเลี้ยงลูกไม่ใช่เรื่องง่ายเลย หากนางไม่ใช่นางมีพลังจิต ร่างกายจึงต้องการพักผ่อนน้อยกว่าคนทั่วไป คนอื่นคงเหนื่อยล้าตั้งนานแล้ว

“ช่วงนี้ลูกๆไม่ค่อยงอแงแล้วนี่ ไม่มีปัญหาหรอก”

เซียวปี้เฉิงร้อนใจ เขาอดอยากมานาน จะปล่อยให้รอถึงวันที่ลูกโตก็คงไม่ไหวกระมัง?

เพราะคำนึกถึงสุขภาพอวิ๋นหลิง เขาจึงเก็บกลั้นไฟราคะตัวเองไว้ ในแต่ละวันเขานั่งนับนิ้วตลอด ยิ่งใกล้ครบสองเดือน เขายิ่งรู้สึกทรมาน

เขาก็เป็นหนุ่มไฟแรงทั่วไป จะเอาแต่ช่วยตัวเองก็ไม่ใช่ทางออกที่ดีที่สุด

ถึงแม้บางครั้งอวิ๋นหลิงเห็นว่าเขาทรมาน จึงเอามือเข้าช่วยด้วย

ทว่าสิ่งที่ได้แต่มอง ทว่าแตะต้องไม่ได้คือความทรมานอย่างหนึ่ง ไม่สู้ช่วยตัวเองจะดีกว่า

อวิ๋นหลิงเห็นเขาน่าสงสาร จึงพยักหน้าตอบ “งั้นคืนนี้ข้าจะให้แม่นมเฉินช่วยดูแลพวกเขาสองคน”

เมื่อเซียวปี้เฉิงสมใจอยากก็รีบสั่งให้คนไปเชิญแม่นมเฉินทันที

แม่นมเฉินพูดด้วยความลำบากใจ “ไม่ใช่บ่าวไม่อยากดูแลคุณชายทั้งสองท่าน แต่พวกคุณชายติดพระชายามาก ถ้าไม่ได้อยู่กับพระชายาจะได้หรือเพคะ?”

ตอนคลอดออกมาใหม่ ๆ นางเห็นอวิ๋นหลิงกับเซียวปี้เฉิงเลี้ยงลูกลำบาก จึงลองช่วยเลี้ยงดู แต่ก็อยู่กับนางได้มากสุดหนึ่งชั่วยามเท่านั้น หาไม่แล้วทั่วทั้งเรือนจะเต็มไปด้วยเสียงร้องไห้หนวกหูแน่ ผู้ใดก็อย่าคิดจะได้นอนเลย

อวิ๋นหลิงใช้สมอง จากนั้นความคิดดีๆก็บังเกิด “เช่นนั้นข้าลองจุดธูปหอมคลายอารมณ์ดู เผื่อจะได้ผล?”

ไฉนนางถึงลืมกลิ่นสลายวิญญาณไปได้!

ของสิ่งที่หากไปปรุงกับวัตถุดิบอื่นจะกลายเป็นยาพิษ แต่ถ้าใช้งานทั่วไปจะเป็นกลิ่นกล่อมนอนได้ดีเยี่ยมเลย และไม่มีผลข้างเคียงต่อร่างกายด้วย

ภายใต้กลิ่นหอมฟุ้งกระจาย เด็กทารกทั้งสองคนหลับสนิทเหมือนลูกสุกร

เซียวปี้เฉิงเห็นว่าได้ผล ความกังวลใจก็เลือนหาย ก้นบึ้งนัยน์ตาเผยความดีใจ เวลานี้รู้สึกชอบหน้าฮูหยินเหลียนขึ้นเล็กน้อย

อวิ๋นหลิงก็โล่งอก ต้องขอบคุณที่ฮูหยินเหลียนมองกลิ่นสลายวิญญาณให้ เป็นตัวช่วยเส้นทางเติมเต็มความรักระหว่างนางกับเซียวปี้เฉินได้ดีเลย

เซียวปี้เฉิงกระแอมเสียง เอ่ยหน้าจริงจังว่า “ใช่แล้วแม่นม คืนนี้ข้ากับอวิ๋นหลิงไม่นอนที่เรือนหลันชิงนะ พวกเราจะไปนอนที่เรือนซู่สือ”

แม่นมเฉินไม่เข้าใจ “ไยอยู่ดีๆถึงไปนอนที่เรือนซู่สือเพคะ?”

อวิ๋นหลิงรู้ว่าเซียวปี้เฉิงสามารถสื่อใจกันได้ นางเข้าใจความหมายของเขาทันที จึงตอบตามตรงว่า “ที่เรือนหลันชิงคนเยอะ แล้วเก็บเสียงไม่ดีด้วย”

แม่นมเฉินยิ่งมึนงงขึ้นไปอีก

เซียวปี้เฉิงหน้าแดงก่ำ “แค่กๆ”

อวิ๋นหลิงชะงักงัน อธิบายด้วยท่าทางเข้มขรึม “แม่นม ข้ากับท่านอ๋องมีเรื่องต้องปรึกษากัน ข้าวาดภาพรถทหารไว้ จะหารือวิธีการพัฒนากับท่านอ๋อง ดูสิว่าทำอย่างไรจะขับได้เร็วและแรงขึ้น”

แม่นมเฉินเข้าใจทันที มิน่าล่ะวันนี้ถึงเรียกนางมาช่วยเลี้ยงลูกพวกเขา

“เรื่องสำคัญเช่นนี้ให้คนอื่นได้ยินไม่ได้จริงๆ”

ชีวิตท่านอ๋องลำบากยิ่งนัก ช่วงก่อนยุ่งจนไม่ได้นั่งกินข้าวดีๆแม้แต่มื้อเดียว ยามนี้เริ่มมีเวลาพักผ่อนก็ต้องหารือการพัฒนารถทหารกับพระชายายามราตรีอีก ช่างเป็นท่านอ๋องที่เสียสละ คำนึกถึงประชาราษฎร์จริง

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พระชายาคือแพทย์อัจฉริยะ