พระชายาคือแพทย์อัจฉริยะ นิยาย บท 242

ตอนที่หรงฉานเดินมาถึงประตูจวนจิ้งอ๋องก็เห็นคนคุ้นเคยอย่างไม่ทันตั้งตัว

“ท่านอ๋อง ไยท่านถึงมาได้?”

นางเอ่ยปากถามด้วยความตกตะลึง แววตาเผยความดีใจที่แม้แต่นางเองก็ยังไม่รู้ตัว

รุ่ยอ๋องปรับอารมณ์ของตัวเองแล้ว ยกมุมปากตอบนางว่า “เอ่อ...เรื่องนั้นของเจ้า ข้ารู้แล้ว...ข้ามารับเจ้ากลับจวน”

“เรื่องของข้า เรื่องอันใด?”

เขาพูดไม่ชัดเจน หรงฉานทำหน้าฉงนสนเท่ห์ ยังไม่ทันตอบสนองก็ถูกรุ่ยอ๋องดึงขึ้นรถม้าแล้ว

“ด้านนอกหนาว เข้าไปในรถม้าก่อนแล้วค่อยคุยกัน...เมื่อครู่ข้าบอกว่าข้ารู้เรื่องที่เจ้าท้องสองเดือนแล้ว”

หรงฉานนั่งนิ่งในรถม้า ร่างกายแข็งทื่อ มองรุ่ยอ๋องแล้วรวบรวมความกล้าเอ่ยว่า

“เช่นนั้น...ท่านมารับข้าโดยเฉพาะหรือ?”

มีประกายแสงกระอักกระอ่วนแวบผ่านดวงตารุ่ยอ๋อง แต่เขาก็ยังคงพยักหน้าเบาๆ

ดวงตาหรงฉานสว่างไสว พูดตรง ๆ ว่า “ข้าคิดว่าท่านจะไม่ก้าวเข้าจวนจิ้งอ๋องทุกกรณีเสียอีก”

อคติที่รุ่ยอ๋องมีต่ออวิ๋นหลิง...ไม่ถูกสิ ต้องบอกว่าความกลัวถึงจะเหมาะสม

นางรู้ว่ารุ่ยอ๋องกลัวอวิ๋นหลิงมาโดยตลอด เวลาออกไปไหนมักจะเลี่ยงใช้เส้นทางที่ผ่านจวนจิ้งอ๋อง แต่ไม่นึกเลยว่าพอเขาทราบเรื่องนางท้องก็มารับนางที่จวนจิ้งอ๋องด้วยตัวเอง

แสดงว่าในใจรุ่ยอ๋อง นางก็เป็นบุคคลสำคัญเหมือนกัน?

รุ่ยอ๋องกระแอมเสียง เพราะละอายแก่ใจจึงเหม่อลอยเล็กน้อย “เรื่องใหญ่ขนาดนี้ ข้าย่อมต้องมารับด้วยตัวเองอยู่แล้ว”

หรงฉานได้ยินก็ยิ้มหน้าซื่อให้เขา

“ขอบคุณท่านมาก ท่านรุ่ยอ๋อง”

ไม่ว่าอย่างไร เมื่อมีคนเห็นความสำคัญของนาง นางต้องดีใจอยู่แล้ว

จะว่าไปรุ่ยอ๋องก็ดีต่อนางเสมอมา ไม่เคยทำให้นางต้องช้ำใจ ถึงแม้พวกเขาสองคนยังไม่ปฏิพัทธ์มีใจให้กัน แต่หรงฉานรู้สึกว่า ถ้าเป็นแบบนี้ตลอดไปก็ไม่ต้องกังวลสิ่งใดอีก

พี่ชายมักบอกนางเสมอว่าใต้หล้านี้ยากจะหาสามีภรรยารักใคร่กันเฉกเช่นบิดามารดา สามีภรรยาทั่วไป ขอแค่ให้เกียรติและเคารพซึ่งกันและกันไปจนวันตาย เช่นนี้ก็เป็นความสุขที่หายากแล้ว

หรงฉานถูกเลี้ยงดูอย่างดีตั้งแต่เด็ก มีนิสัยไร้เดียงสาและมองโลกในแง่ดี เมื่อรู้สึกปลงกับเรื่องนี้แล้ว ความตึงเครียดและทำตัวไม่ถูกหลังทราบว่าตั้งท้องก็เลือนหายไป

รุ่ยอ๋องมองใบหน้าแย้มยิ้มของนางอยู่นาน ผ่านไปสักพักจึงละสายตา พูดช้าๆว่า “อันที่จริง...พวกเราแต่งงานกันนานแล้ว เจ้าไม่ต้องเรียกห่างเหินเช่นนี้ก็ได้”

เขาเองก็เพิ่งสังเกตว่าแต่งงานมาครึ่งปีแล้ว แต่หรงฉานยังเรียกเขาว่าท่านอ๋องรุ่ยดุจเดิม

“ออ” หรงฉานขานรับ เอียงหน้าครุ่นคิด “งั้นข้าเรียกท่านว่าเสี่ยวอวี้ก็แล้วกัน”

เรียกสามีก็ไม่เหมาะ แต่จะให้เรียกท่านพี่ก็พูดไม่เต็มปาก เพราะนางมีพี่ชายอยู่แล้ว

รุ่ยอ๋องรู้สึกว่าคำเรียกนี้แปลกๆ แต่เมื่อหรงฉานเป็นคนเสอน จึงไม่ได้ทักท้วงสิ่งใด

ภายในรถม้า พวกเขาสองคนคุยกันอย่างลื่นไหลบ้าง ติดขัดบ้าง แต่รุ่ยอ๋องก็รู้สึกผ่อนคลายโดยไม่รู้ตัว

เขารู้สึกว่าเวลาอยู่กับหรงฉานแล้วสบายกายสบายใจยิ่ง ไม่ได้รู้สึกกดดันจนเกือบหายใจไม่ออกเหมือนตอนอยู่กับอวิ๋นหลิง และไม่เหมือนตอนอยู่กับฉู่อวิ๋นหาน เพราะมักจะรู้สึกว่าเข้าไปไม่ถึงหัวใจของฉู่อวิ๋นหาน

หรงฉานไม่มีเล่เหลี่ยม คุยกับเขาอย่างเปิดเผย แต่ไม่โอหังเหมือนองค์หญิงหก และไม่ขี้อายมากเหมือนเวินหวยหยูจวิ้นจู่

ยิ่งไปกว่านั้น เขาพบว่าเวลาแม่นางผู้นี้คลี่ยิ้ม สองแก้มมีลักยิ้มปรากฏออกมา น่ารักเหลือเกิน

เมื่อมาถึงหน้าประตูจวนรุ่ยอ๋อง รุ่ยอ๋องแหวกม่านรถม้าออกก็เห็นฉู่อวิ๋นหานยืนอยู่แต่ไกล

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พระชายาคือแพทย์อัจฉริยะ