เมื่อรุ่ยอ๋องได้ยินประโยคนี้ก็หลบสายตา และหลบเลี่ยงที่จะพูดถึงเรื่องนี้ เขาเห็นเซียวปี้เฉิงกลับมาแล้วก็รีบลุกขึ้นปัดฝุ่นบนกายทิ้ง ใบหน้าของเขาร้อนแผ่ว เพราะน้องชายดันมาเห็นภาพอันขายหน้าของตัวเองเข้า
เซียวปี้เฉิงไม่รู้ว่าเหตุใดอวิ๋นหลิงจึงทะเลาะกับรุ่ยอ๋องด้วยเรื่องงานเลี้ยงบนเรือสำราญอีก ทั้ง ๆ ที่ผ่านมานานแล้ว จึงเอ่ยปากถามพวกเขา
“ทำไมจู่ๆถึงเอาเรื่องอดีตมาพูด?”
อวิ๋นหลิงชำเลืองมองรุ่ยอ๋องด้วยดวงตาเย็นเยียบ “เรื่องนั้นยังไม่จบ ไม่ใช่หรือ?”
ตอนที่หรงฉานตกน้ำ รุ่ยอ๋องปกป้องฉู่อวิ๋นหานสุดชีวิต ทั้งยังกล่าวหาว่านางเป็นคนผลักหรงฉานตกน้ำอย่างไม่มีปี่มีขลุ่ย
“ปี้เฉิงบอกว่าท่านรู้ดีทุกอย่าง แค่ทำเป็นไม่รู้ ตอนนี้เห็นทีคงจะเป็นเยี่ยงนั้น หาไม่แล้ว ไยเมื่อครู่ท่านไม่กล้าแก้ต่างให้ฉู่อวิ่นหานเล่า?”
นางนึกถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นบนเรือก็โมโหยิ่ง
ถ้ารุ่ยอ๋องโง่จริงๆ ด้วยความที่ไม่มีหลักฐาน จึงถูกหญิงมารยาสาไถยหลอก นางก็แค่ด่าในความโง่ของเขาไม่กี่ประโยคเท่านั้น
แต่เขารู้ดีแก่ใจว่าฉู่อวิ๋นหานสวยแต่รูป จูบไม่หอม ทว่ายังผลักความผิดมาให้นางอีก อวิ๋นหลิงย่อมทนไม่ได้อยู่แล้ว
“ข้าไม่ได้เอาความเพื่อเห็นแก่ชื่อเสียงจวนเหวินกั๋วกง แต่ไม่หมายความว่าข้าลืมเรื่องนี้ไปแล้ว”
นางพูดเสียจนอีกฝ่ายใบ้กิน เพลิงโทสะในใจพลันดับสิ้น
รุ่ยอ๋องรู้ตัวว่าผิด จึงหลบสายตาอวิ๋นหลิงแล้วเอ่ยเสียงเบา “เรื่องนี้ผ่านไปตั้งนานแล้ว...ไยเจ้ายังเอามาพูดอีก”
อวิ๋นหลิงแย้มยิ้ม ไม่อยากโมโหอีก “ออ ความหมายของท่านก็คือเรื่องมันผ่านไปตั้งนานแล้ว ความจริงในตอนนั้นก็ไม่สำคัญอีกต่อไป”
“ข้าไม่ได้หมายความเช่นนั้น...แล้วอีกอย่างตอนนั้นปี้เฉิงก็เชื่อเจ้าด้วยไม่ใช่หรือ?”
เซียวปี้เฉิงเลิกคิ้วแล้วเอ่ยเสียงเรียบ “แต่พี่ใหญ่ ถ้าเกิดตอนนั้นข้าไม่เชื่ออวิ๋นหลิงล่ะ?”
รุ่ยอ๋องมองไปยังเซียวปี้เฉิง ไม่เข้าใจว่าน้องชายกำลังสื่อถึงสิ่งใด
เซียวปี้เฉิงมองเขาด้วยใบหน้าเคร่งขรึม กล่าวทีละคำว่า “พี่ใหญ่เคยคิดบ้างไหม หากอวิ๋นหลิงไม่บังเอิญรู้จักสองพี่น้องตระกูลหรงมาก่อน และหากพวกเขาสองคนเชื่อว่าอวิ๋นหลิงคือผู้ร้าย ส่วนข้าก็ไม่เชื่ออวิ๋นหลิงด้วย ตอนนั้นพี่ใหญ่ยืนกรานว่านางเป็นผู้บงการอยู่เบื้องหลัง เรื่องเอิกเกริกปานนั้น นางจะมีจุดจบเช่นไร?”
รุ่ยอ๋องชะงักงัน ราวกับคิดอะไรได้ ใบหน้าเริ่มซีดขาวเล็กน้อย
“เสด็จพ่อจะปล่อยให้ผู้ที่ทำร้ายพระชายารุ่ยที่พระองค์แต่งตั้งเองหรือไม่? เจิ้นกั๋วกงจะปล่อยนางไปไหม?”
ไม่ว่าจะเรื่องปองร้ายพระชายารุ่ย หรือจะทำร้ายน้องสาวต่างมารดา หากตัดสินโทษแล้ว อวิ๋นหลิงก็ต้องโดนเล่นงานหนักแน่
ดวงตารุ่ยอ๋องค่อย ๆ มืดครึ้ม หัวใจปวดร้าวเหมือนโดนแผดเผาในกองเพลิง
ตลอดเวลาที่ผ่านมา สาเหตุที่อวิ๋นหลิงกลั่นแกล้งเขา หาเรื่องเขา ล้วนมีเหตุผลทั้งสิ้น
“ข้ายอมรับว่าตอนนั้นข้ามีความลำเอียง เพราะข้าเห็นอวิ๋นหานตกน้ำจึงร้อนใจเกินไป” เขากล่าวเสียงแหบแห้ง มองอวิ๋นหลิงด้วยดวงตาแดงก่ำ “ข้ารู้ว่าเจ้าไม่เกี่ยวข้องกับเรื่องที่เสี่ยงฉานตกน้ำ แต่เจ้าต้องเป็นคนทำให้อวิ๋นหานตกน้ำแน่ เรื่องนี้ทำให้ชื่อเสียงนางป่นปี้หมดแล้ว”
ตอนนั้นเรื่องนี้น่าสงสัยหลายจุด แต่เพราะไม่ทันตั้งสติแล้วไตร่ตรอง เพราะอารมณ์สงสารและเกรี้ยวกราดที่เห็นฉู่อวิ๋นหานตกอยู่ในสภาพนั้น จึงกลบเกลื่อนความรู้สึกอื่นทิ้ง
อวิ๋นหลิงพูดโดยไม่กระพริบตา “รุ่ยอ๋อง ท่านคิดว่าข้าทำเกินไปหรือ? สิ่งที่ข้าทำไม่เท่าเสี้ยวหนึ่งของนางด้วยซ้ำ”
แม้นเรื่องนี้จะผ่านไปนานแล้ว แต่เซียวปี้เฉิงคิดว่าควรมีบทสรุปของเรื่องนี้ได้แล้ว หลังจากที่เขาชั่งใจดูแล้วก็เลือกที่จะบอกความจริงทั้งหมดแก่รุ่ยอ๋อง
“พี่ใหญ่ไม่เข้าใจว่าเหตุใดตอนนั้นข้าถึงเชื่ออวิ๋นหลิงอย่างไม่ลังเลใช่ไหม? เพราะข้าเห็นฉู่อวิ๋นหานสร้างหลักฐานปลอม โดยการเอากระดาษข้อความยัดใส่แจกันดอกไม้ เพื่อใส่ร้ายอวิ๋นหลิง”
รุ่ยอ๋องได้ยินประโยคนี้ก็มองเซียวปี้เฉิงด้วยความตกตะลึง ริมฝีปากซีดขาว
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พระชายาคือแพทย์อัจฉริยะ
นึกว่าจะอัพจนจบเสียอีกค่ะ กำลังสนุกเข้มข้นเชียว...
รบกวนแอดช่วยอับต่อไปให้จบเรื่องได้ไหมคะ รออ่านอยู่น้า...
ตอนต่อไปอ่านที่ไหนคะ...
ตอนต่อไป อัพช่วงไหนคะ 😭😭😭...
อัพต่อเถอะนะคะ...กำลังสนุกเลยค่ะ😅😄😊😘...
สนุกมากค่ะ..เดินเรื่องเร็ว..พระเอกไม่โง่..นางเอกฟาดแรงสะใจ...อ่านแล้วบันเทิงมาก55555......
ขอบคุณค่ะ...
รีบมาต่อนะคะ กำลังสนุกเลย...
ขอบคุณน้าค้า ที่ลงทุกวันเลยสนุกมากค่ะ...
ชอบมากเลยค่ะ นางเอกเก่ง❤...