ภายในตำหนักทองหลวง บรรดาขุนนางใหญ่ตะลึงพรึงเพริดกับการกระทำของอวิ๋นหลิง ยังไม่ได้ดึงสติกลับคืนมา ก็ได้ยินรายงานนี้กะทันหัน จึงทำให้ยิ่งตกตะลึงมากขึ้น
“เมื่อครู่เขาพูดอะไรน่ะ ทูตแคว้นเป่ยฉิน...กองทัพสกุลฟง?”
“เกิดอะไรขึ้น ข้าไม่ได้ฟังผิดใช่ไหม?”
“ตามแหล่งข้อมูลที่น่าเชื่อถือ บอกว่าตระกูลฟงถูกเนรเทศเพราะทรยศต่อแว่นแคว้นหรือ?”
พวกขุนนางในท้องพระโรงสบตากัน รู้สึกแตกตื่นกันระนาว แต่จักรพรรดิจาวเหรินกลับโล่งออก เอ่ยปากพูดด้วยความดีใจ
“ยังไม่รีบเชิญเข้ามาอีก”
อันชินอ๋องเห็นเหตุการณ์ตาลปัตรกะทันหันก็หน้าถอดสี จ้องประตูตำหนักด้วยแววตาเคร่งขรึม และขมวดคิ้วมุ่นโดยไม่รู้ตัว
เกิดอะไรขึ้น? ข่าวที่เขาได้รับผิดพลาดหรือ? กองทัพสกุลฟงโดนจักรพรรดิของแคว้นเป่ยฉินเนรเทศออกไปแล้วมิใช่รึ?
ช่วงครึ่งปีแรก เขาอยู่แถวชายแดนตลอด รู้สถานการณ์ตรงนั้นดีกว่าคนในเมืองหลวงเสียอีก
อวิ๋นหลิงกวาดสายตามองอาลักษณ์กรมพิธีการ “เสด็จพ่อเพคะ ก่อนที่พระองค์จะเข้าพบทูตของแคว้นเป่ยฉิน ควรสั่งคนยกอาลักษณ์กรมพิธีการออกไปก่อนเพคะ”
“ใช่ ใช่ ทหาร รีบแบกอาลักษณ์กรมพิธีการออกไป นอนอยู่ตรงนี้ดูไม่ดีเลย”
เดี๋ยวคนอื่นจะหัวเราะเยาะเอา
เมื่อจักรพรรดิจาวเหรินสั่งการ ทหารเฝ้าหน้าประตูก็รีบแบกอาลักษณ์กรมพิธีการเหมือนกับแบกสุกรออกไปอย่างเร็วที่สุด
ไม่นาน ฝูกงกงก็เชิญทูตแคว้นเป่ยฉินกับสองพี่น้องสกุลฟงเข้ามายังตำหนักทองหลวง
“ถวายบังคับฝ่าบาท ทรงมีพระชนมายุหมื่น ๆ ปี”
ทูตของแคว้นเป่ยฉินคือบุรุษอายุประมาณสี่สิบปี ยามบุคคลนี้ยังหนุ่มก็รับผิดชอบเป็นทูตไปยังซีโจว ยามนี้ทำมายี่สิบกว่าปีแล้ว
ภายในท้องพระโรงเงียบกริบ เมื่อพวกขุนนางเห็นใบหน้าที่คุ้นเคยเล็กน้อยก็ได้สติกลับคืนมา
“รีบลุกขึ้นเถิด”
จักรพรรดิจาวเหรินนั่งบนบัลลังก์แล้วโบกมือตามพิธี จากนั้นก็มองผู้มาเยือน พร้อมทั้งถามทั้งที่รู้อยู่แล้ว
“ขุนนางทั้งสามเอย ปกติพวกเจ้าจะมาร่วมงานเลี้ยงที่เมืองหลวงช่วงตรุษจีน เหตุใดปีนี้จึงมาก่อนหนึ่งเดือนเล่า?”
วันตรุษจีนของทุกปี คณะทูตกับพ่อลูกสกุลฟงจะผลักกันเข้าวังมาร่วมงานเลี้ยง คือความจริงที่เหล่าขุนนางของแคว้นต้าโจวรู้ดี
เดิมทีอวิ๋นหลิงคิดว่าสามารถปิดเรื่องกองทัพสกุลฟงจนถึงหลังตรุษจีน แต่ไม่คิดว่าฮูหยินเหลียนจะรู้เสียก่อน
ทูตทำความเคารพอีกครั้ง ยิ้มเอ่ยอย่างมีสัมมาคารวะ “ทูลฝ่าบาท กระหม่อมรับคำสั่งจากจักรพรรดิของกระหม่อมและท่านอ๋องผู้สำเร็จราชการ มาแสดงความยินดีเนื่องในวันครบกำเนิดเกิดหนึ่งร้อยวันของโอรสของจิ้งอ๋อง ดังนั้นปีนี้จึงมาเร็วกว่าปกติพ่ะย่ะค่ะ”
ขุนนางที่รู้สึกข้องใจทนไม่ไหวถามว่า “ท่านแม่ทัพน้อยฟง ช่วงก่อนราชสำนักข้าได้ข่าวมาว่าจักรพรรดิฉินสั่งเนรเทศกองทัพสกุลฟง ตกลงเรื่องเป็นเช่นไรกันแน่?”
เมื่อได้ยินดังนั้น ฟงจื่ออั๋งกับอวิ๋นหลิงสบตากันอย่างรู้ใจ
“ฝ่าบาท ใต้เท้าทุกท่าน ระหว่างทางที่พวกกระหม่อมเดินมาก็รู้ต้นสายปลายเหตุของเรื่องนี้แล้ว ทุกอย่างเป็นการเข้าใจผิดพ่ะย่ะค่ะ”
“เข้าใจผิด?”
“ใช่พ่ะย่ะค่ะ เพราะแคว้นเป่ยฉินสืบได้ว่ามีไส้ศึกแฝงกายอยู่ในเมืองหลวง ทำให้ราชสำนักหวาดระแวง จักรพรรดิของกระหม่อมต้องการหาหนอนบ่อนไส้ที่ร่วมมือกับชาวทูเจวีย จึงจำต้องใช้วิธีนี้ ประกาศออกไปว่ากองทัพสกุลฟงโดนเนรเทศเพราะทรยศต่อชาติพ่ะย่ะค่ะ”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พระชายาคือแพทย์อัจฉริยะ
นึกว่าจะอัพจนจบเสียอีกค่ะ กำลังสนุกเข้มข้นเชียว...
รบกวนแอดช่วยอับต่อไปให้จบเรื่องได้ไหมคะ รออ่านอยู่น้า...
ตอนต่อไปอ่านที่ไหนคะ...
ตอนต่อไป อัพช่วงไหนคะ 😭😭😭...
อัพต่อเถอะนะคะ...กำลังสนุกเลยค่ะ😅😄😊😘...
สนุกมากค่ะ..เดินเรื่องเร็ว..พระเอกไม่โง่..นางเอกฟาดแรงสะใจ...อ่านแล้วบันเทิงมาก55555......
ขอบคุณค่ะ...
รีบมาต่อนะคะ กำลังสนุกเลย...
ขอบคุณน้าค้า ที่ลงทุกวันเลยสนุกมากค่ะ...
ชอบมากเลยค่ะ นางเอกเก่ง❤...