พระชายาคือแพทย์อัจฉริยะ นิยาย บท 253

จักรพรรดิจาวเหรินลูบเครา ถามในขณะที่ใช้ความคิด “แล้วพวกนางอีกสองคนอยู่ที่ใด เจ้าเคยเจอพวกนางไหม?”

“อาจเป็นเพราะวาสนายังไม่ถึง ถึงแม้ข้าจะรู้หน้าตาของศิษย์พี่ใหญ่กับศิษย์น้อง แต่ไม่รู้ว่าพวกนางอยู่ที่ใด และมีสถานะอะไรบ้าง แต่ท่านอาจารย์เคยบอกข้าในความฝันว่า ยามนี้ศิษย์พี่ใหญ่อยู่ที่แคว้นถังใต้ ศิษย์น้องอยู่ที่แคว้นตงฉู่เพคะ”

ตอนแรกอวิ๋นหลิงจะวาดรูปภาพพวกนางออกมาให้จักรพรรดิจาวเหรินช่วยตามหาพี่ใหญ่กับน้องเล็ก

แต่พอมาคิดดูอีกที พวกนางสองคนอาจไม่รู้เรื่องที่นางกับหลิวฉิงแต่งเรื่องขึ้นมา หากจักรพรรดิจาวเหรินตามหาจนเจอแล้วถามถึงเรื่องลูกศิษย์ของเทวดา อาจเสี่ยงที่จะโดนเปิดโปง

หลังจากครุ่นคิดดูแล้ว นางกับเซียวปี้เฉิงไปตามหากันเองจะเหมาะสมกว่า

“แคว้นถังใต้...แคว้นตงฉู่”

พระเจ้าหลวงพูดซ้ำช้า ๆ หนึ่งรอบ สายตาที่เขามองจักรพรรดิจาวเหรินยิ่งลุ่มลึก ยากถึงหยั่งถึงกว่าเดิม

“ตอนนี้ไม่มีอะไรแล้ว ช่วงนี้พวกเจ้าสองคนลำบากแล้ว กลับไปพักผ่อนเถิด วันมะรืนก็จะถึงงานเลี้ยงครบร้อยวันของต้าเป่ากับเอ้อร์เป่าแล้ว”

เซียวปี้เฉิงกับอวิ๋นหลิงพยักหน้า ตอบรับเสร็จแล้วก็เดินเคียงไหล่กันออกไป

หลังจากพวกเขาสองคนออกไป สีหน้าแห่งความตื่นเต้นดีใจที่พระเจ้าหลวงเก็บกลั้นไว้ก็ปล่อยออกมา

“เจ้าได้ยินสิ่งที่นังหนูหลิงพูดเมื่อครู่ไหม? คาดว่าพวกนางที่เป็นพี่น้องร่วมสำนักเดียวกันคงเป็นดาวทั้งสี่ดวงที่จุติมายังโลกมนุษย์ดั่งเช่นหวู๋ซินไต้ซือกล่าวแน่”

จักรพรรดิจาวเหรินก็ถอนหายใจกล่าว “มิน่าล่ะคำทำนายประโยคสุดท้ายถึงบอกว่า ไปทั่วปฐพี มาพร้อมกัน กลับพร้อมกัน ที่แท้ก็หมายถึงแบบนี้นี่เอง”

ก่อนหน้านี้พวกเขาคิดอย่างไรก็หาคำตอบไม่ได้ ไม่รู้ว่าเทพธิดาของทั้งสี่แคว้นมีความสัมพันธ์เช่นไร เหตุใดต้องมาพร้อมกันกลับพร้อมกันด้วย ที่แท้ล้วนเป็นลูกศิษย์ของเทวดากลับชาติมาเกิดนี่เอง

“เจ้าให้คนจับตาความเคลื่อนไหวของแคว้นถังใต้กับแคว้นตงฉู่ให้ดี หากมีข่าวอะไรที่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ก็ให้รีบรายงานทันที”

พระเจ้าหลวงมองจักรพรรดิจาวเหรินแล้วแนะนำด้วยสีหน้าจริงจัง

“ตอนนั้นหวู๋ซินไต้ซือบอกว่า หากใต้หล้าวุ่นวาย ถ้าคิดจะยุติความขัดแย้ง สร้างความสันติสุข ดวงดาวทั้งสี่นี้ จะขาดดวงใดดวงหนึ่งไม่ได้”

ถ้าดูจากรายงานทางทหารช่วงนี้ ถึงแม้ช่วงนี้แคว้นเป่ยฉินจะไม่มีศัตรูภายนอก แต่ภายในก็วุ่นวายยิ่ง ส่วนทางด้านแคว้นตงฉู่ปะทะกับชาวญี่ปุ่นบ่อยครั้ง อนาคตทั้งสองฝ่ายต้องทำศึกบนทะเลแน่”

ยิ่งแคว้นถังใต้ยิ่งไม่ต้องพูดถึง พวกเขารบกับแคว้นเหมียวเจียงไม่หยุด และไม่ได้ติดต่อแคว้นอื่นมาสามปีแล้ว

“เสด็จพ่อ ถึงแม้พี่ใหญ่จะไปมาหาสู่กับชาวทูเจวีย แต่ตอนนี้ทุกอย่างยังอยู่ในการควบคุม ยังรับมือได้สบาย เสด็จพ่อไม่ต้องกังวลหรอก แล้วยิ่งมีปืนคาบศิลาของนังหนูหลิงแล้ว ถ้าจะต้องรบกันจริง ๆ พวกเราก็ไม่กลัว”

จักรพรรดิจาวเหรินไม่อยากให้บิดาที่แก่ชราจนหนวดเคราขาวโพลนแล้ว ต้องมากังวลใจชีวิตความเป็นอยู่ของบ่าวไพร่ประชาราษฎร์ จึงปลอบใจเขา

“เรื่องมันไม่ง่ายขนาดนั้นหรอก หากนังหนูหลิงสามารถคลี่คลายได้อย่างง่ายดาย หวู๋ซินไต้ซือคงไม่บอกว่าจะขาดดาวดวงใดดวงหนึ่งไม่ได้” พระเจ้าหลวงส่ายหน้าด้วยแววตาหนักอึ้ง “ข้าคิดว่าความวุ่นวายอันแท้จริงของใต้หล้ายังไม่เกิดขึ้น”

จักรพรรดิจาวเหรินชะงักงัน เข้าใจความหมายของบิดาทันที “เสด็จพ่อ ท่านคิดว่าไส้ศึกที่ชาวทูเจวียส่งมาไม่ใช่วิฤกตของแคว้นต้าโจวหรือ?”

พระเจ้าหลวงพยักหน้าเบา ๆ “เมื่อครู่ข้ากำลังคิดว่าต้องตกอยู่ในสถานการณ์เช่นไร แคว้นต้าโจวของพวกเราถึงต้องพึ่งกองกำลังภายนอกมาช่วยเหลือ”

จักรพรรดิจาวเหรินย่นคิ้วตรึกตรองอยู่นาน จากนั้นนัยน์ตาที่มองพระเจ้าหลวงเผยประกายแสงตกใจและระวังตัวขึ้นมา

“หรือท่านพ่อกำลังพูดถึงชาวทูเจวียทางตะวันออก?”

“ใช่ ข้ากำลังกลุ้มใจเรื่องนี้อยู่” พระเจ้าหลวงถอนหายใจ เอามือไพล่หลังแล้วเอ่ยเสียงเข้มขรึม “แคว้นต้าโจวกับแคว้นเป่ยฉินจับมือเป็นพันธมิตรต่อกัน แล้วชาวทูเจวียทางตะวันตกกับชาวทูเจวียทางตะวันออกจะร่วมมือกันไม่ได้หรือ?”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พระชายาคือแพทย์อัจฉริยะ