พระชายาคือแพทย์อัจฉริยะ นิยาย บท 254

แค่ชั่วพริบตาเดียวก็ถึงงานเลี้ยงวันเกิดครบร้อยวันของต้าเป่ากับเอ้อร์เป่าแล้ว ทารกน้อยที่วัน ๆ เอาแต่กิน ๆ นอน ๆ จ้ำม่ำขึ้นเป็นกอง

เด็กทารกน้อยสามเดือนสามารถยิ้มเพราะการหยอกล้อของผู้อื่นแล้ว มักจะได้ยินเสียงหัวเราะอันสดใสและดังกังวานของต้าเป่าทั่วเรือนหลันชิง

มารดาอวิ๋นหลิงปลื้มใจเป็นล้นพ้น ถึงแม้ต้าเป่ายังครองตำแหน่งคนเสียงดัง ทว่าเมื่อเทียบกับเสียงร้องไห้เมื่อก่อน ถือว่าตอนนี้ดีกว่าเยอะ

“คิก ตัวแค่นี้รู้จักทำหน้าบึ้งแล้ว ไม่รู้ว่าได้ใคร?”

ระหว่างเข้าวัง เซียวปี้เฉิงหยอกเอ้อร์เป่าเล่นครึ่งค่อนวัน แต่ก็ไม่เห็นบุตรชายแย้มยิ้มเลย ทั้งยังรู้สึกถูกบุตรชายกลอกตาใส่ด้วย

“ย่อมเหมือนท่านอยู่แล้ว”

เพราะนางเป็นคนสดใส ร่าเริง เป็นที่รักใคร่ของผู้คน

อวิ๋นหลิงยื่นมือไปจิ้มหน้าเอ้อร์เป่า อ่อนนุ่มเหมือนขนมสายไหม

“ตอนรู้จักท่านใหม่ ท่านก็ทำหน้าบึ้งเหมือนท่อนไม้ทุกวัน เหมือนมีคนติดหนี้ท่านอย่างนั้นเลย ยากนักที่จะเห็นท่านยิ้มสักครั้ง”

เฉียวเย่ที่ร่วมเดินทางมาด้วยได้ยินก็ยิ้มเอ่ย “นิสัยคุณชายรองเหมือนท่านอ๋องจริงๆพ่ะย่ะค่ะ เรียกได้ว่าถอดแบบมาเลย”

เมื่อก่อนเซียวปี้เฉิงจะชอบทำหน้าเข้มขรึมตลอด ไม่ชอบพูดและไม่ชอบยิ้ม เฉียวเย่ติดตามเขาหลายปี แต่ก็ไม่เคยเห็นเขาหัวเราะเสียงดังมาก่อน

ตอนนั้นเซียวปี้เฉิงยังไม่ตาบอด แต่นัยน์ตาเขาหม่นแสง ถึงแม้ตอนนั้นจะมีฉู่อวิ๋นหานอยู่ข้างกาย เขาก็แค่พูดเสียงเบาลง แต่ใบหน้าไม่ได้เผยความอ่อนโยนที่ถ่ายทอดมาจากใจ

เซียวปี้เฉิงเลิกคิ้ว มองเอ้อร์เป่าด้วยความหดหู่ใจ “นิสัยของข้าไม่ได้แย่อย่างที่พวกเจ้าพูดเสียหน่อย”

เฉียวเย่หัวเราะคิกคัก “หลังจากพระชายาแต่งเข้ามา นิสัยของท่านอ๋องก็เปลี่ยนไปเยอะมากจริงๆ”

ถึงแม้ตอนแรกจะโมโหเพราะคำพูดของอวิ๋นหลิงเป็นประจำ แต่ก็เริ่มมีชีวิตชีวาขึ้น ไม่ใช่ท่อนไม้อีกต่อไป

เมื่อหวนนึกถึงช่วงแรกที่พวกเขาสองคนเจอกัน ตอนนั้นพวกเขาจะถกเถียงกันทุกวี่ทุกวัน ใบหน้าหล่อของเซียวปี้เฉิงเผยสีหน้าถวิลหาขึ้น

นับจากวันที่เขามีลูกเมีย เขาถึงรู้สึกว่าตัวเองเหมือนคนทั่วไป มีชีวิตอยู่บนโลกใบนี้จริง ๆ

รถม้าจอดหน้าประตูท้องพระโรง สองสามีภรรยาแบ่งกันอุ้มลูกคนละคน พวกเขาเดินฝ่าสายลมและหิมะเข้าไปยังท้องพระโรง

อากาศหนาวขึ้นทุกวัน ช่วงนี้มีหิมะตกด้วย โชคดีที่ถุงร้อนที่อวิ๋นหลิงคิดค้นขึ้นเริ่มใช้กันอย่างแพร่หลายแล้ว บัดนี้คนในเมืองหลวงจะพกติดตัวตอนออกจากจวน ซึ่งสะดวกกว่าเตาอุ่นมือเยอะ และได้เตรียมให้ต้าเป่ากับเอ้อร์เป่าด้วย ใส่ถุงร้อนสองอันในเสื้อกันหนาวด้วย

“อุแว้ๆ”

อาจเป็นเพราะอากาศรอบกายหนาวเล็กน้อย ต้าเป่าจึงแบะปาก ส่งเสียงร้องอย่างไม่พอใจสองครั้ง เซียวปี้เฉิงได้ยินก็รีบกระชับเสื้อของเขา

“คิก”

ส่วนเอ้อร์เป่ากลับหัวเราะอย่างหาได้ยาก เอื้อมมือไปจับเกล็ดหิมะที่โปรยปรายกลางอากาศ

“หัวแก้วหัวแหวนของทวด ทวดคิดถึงจะตายอยู่แล้ว รีบให้ทวดอุ้มเร็ว” พระเจ้าหลงยืนมองเด็กทั้งสองคนแต่ไกล รีบสาวเท้าพุ่งเข้ามา ท่าทางคล่องแคล่วมาก ไม่เหมือนคนอายุเจ็ดสิบกว่าเลย

งานเลี้ยงครบเดือนครั้งก่อนถูกซ่งเชว่อวี่ทำพัง ครั้งนี้พระเจ้าหลวงจึงสั่งให้จัดในวัง และยังจัดอย่างอลังการอีกด้วย แม้แต่จี้ซูเฟยที่ไม่เคยเข้าร่วมงานเลี้ยงในวังก็มาร่วมด้วย

นางสวมอาภรณ์แบบฉบับวังหลวงสีฟ้า ไม่ได้จืดชืดเกินไป แต่ก็ไม่ได้สะดุดตามากนัก ทว่าทันทีที่ปรากฏตัวก็เป็นที่ดึงดูดสายตาคนไม่น้อย

อวิ๋นหลิงกับเซียวปี้เฉิงหัวร่อต่อกระซิก “สมกับที่จี้ซูเฟยเคยเป็นหญิงงามอันดับหนึ่งในเมื่อหลวง ท่านดูสิ เสด็จพ่อมองจนเคลิ้มไปเลย”

นี่ต่างหากถึงเรียกว่าหญิงงาม งามเหมือนบัวหิมะกลางเทือกเขาหิมะ ถึงแม้อายุจะสามสิบกว่าปีแล้ว แต่ก็สูสีกับฉู่อวิ๋นหานที่เหมือนน้ำอุ่นอันจืดจาง

เซียวปี้เฉิงมองจี้ซูเฟยแล้วมองอวิ๋นหลิง ยิ้มกระซิบว่า “คิกคิก ข้ายังคงรู้สึกว่าเมียข้าสวยที่สุด”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พระชายาคือแพทย์อัจฉริยะ