พระชายาคือแพทย์อัจฉริยะ นิยาย บท 282

สือจิ่วได้ยินแล้วก็ได้แต่นิ่งอึ้ง คนที่องค์หญิงเก้าพูดถึงนั้น เป็นพี่สาวสมองเสื่อมที่เอาแต่ร้องไห้โวยวายจริงๆหรือ

“นางยังคงก่อเรื่องเดือดร้อนได้เหมือนเดิม”

ความกังวลที่อยู่ในใจของอวิ๋นหลังค่อยๆคลายลง น้องเล็กยังคงมีอารมณ์ก่อเรื่อง แสดงว่าสำหรับนางแล้วสถานการณ์ไม่ยากเกินการควบคุม

ตี้หวู่เหยาแลบลิ้นออกมา “พี่สะใภ้เป็นคนที่มีนิสัยไม่กลัวฟ้ากลัวดิน นางเคยบอกว่าบนโลกใบนี้สิ่งที่จะทำให้นางกลัว มีเพียงศิษย์พี่ของนางทั้งสามคนเท่านั้น โดยเฉพาะพระชายา”

เมื่อพูดจบ นางก็อดไม่ได้ที่จะแอบวิเคราะห์อวิ๋นหลิงแวบหนึ่ง

ชวีเสวียนจีเคยบอกว่า ศิษย์พี่สามของนางดูแล้วเหมือนแพทย์ทหารที่ไม่ได้ดูน่าเกรงขามแต่อย่างใด หน้าตาสวยงามอีกทั้งยังมีนิสัยดี แท้จริงแล้วเชี่ยวชาญด้านพิษ ปัจจัยอันตรายสูงมาก

นางไม่เคยสร้างเรื่องเดือดร้อนต่อหน้าฝ่ายตรงข้าม ไม่เช่นนั้นแม้แต่ตายอย่างไรก็ไม่มีทางรู้จริงๆ

อวิ๋นหลิงส่ายหน้าในใจ หลงเย่ฉลาดแทบจะใกล้เคียงกับปีศาจ น้องเล็กที่มีสติปัญญาติดลบไม่มีทางสู้ได้เลย หลิวฉิงแต่ไหนแต่ไรไม่พูดมากแต่ลงมือทำเลย เวลาที่น้องเล็กก่อปัญหา จะถูกนางสั่งสอนอย่างเจ็บปวด

ตอนนี้พวกนางต่างก็ไม่ได้อยู่ข้างกายน้องเล็ก คาดว่านางตัวดีคงจะกลายเป็นปีศาจที่สิงอยู่ในร่างมนุษย์ไปแล้ว

“ตอนนี้เสวียนจีไม่มีคนคอยควบคุม ต้องลำบากพี่ชายรัชทายาทและราชครูของเจ้าแล้ว รบกวนพวกเขาให้อภัยนางด้วย”

อวิ๋นหลิงรู้สึกว่าตอนนี้ตนเองเป็นเหมือนแม่คนหนึ่ง จำเป็นต้องหน้าด้านหน้าทนในการวิงวอนขอร้องเพื่อนบ้าน ตอนที่ตนเองไม่อยู่สามารถช่วยดูแลลูกๆในบ้านของนางได้

ตี้หวู่เหยาพยักหน้า “พระชายาโปรดวางใจ พี่สะใภ้มีนิสัยไม่ยอมเสียเปรียบ ถ้าหากจะบอกว่ามีอะไรที่น่าเป็นห่วง ก็คงจะเป็นหลังจากที่นางกลับคืนสู่สภาวะปกติแล้ว มักจะชอบนอนกว่าคนปกติ เวลาส่วนมากในแต่ละวันจะใช้ไปกับการนอน”

อวิ๋นหลิงพยักหน้า หากวิเคราะห์จากอาการที่เกิดขึ้น อีกฝ่ายน่าจะกระตุ้นพลังจิตขึ้นมาอีกครั้ง

ทุกคนต่างก็มีอาการไม่เหมือนกัน แต่ส่วนใหญ่แล้วคนที่มีพลังจิต หลังจากที่ตื่นขึ้นมา จะรู้สึกต้องการการนอนหลับน้อยลง

เช่นนางกับเซียวปี้เฉิง ตอนนี้แค่นอนวันละสี่ห้าชั่วโมงก็สามารถเติมเต็มพลังจิตได้แล้ว

แต่บางทีอาจเป็นเพราะการมีสมองใหญ่มาก น้องเล็กจึงต้องการการนอนหลับพักผ่อนที่มากกว่าคนปกติ ชาติที่แล้วนางต้องนอนอย่างน้อยวันละสิบสี่ชั่วโมง

ด้วยเหตุนี้อวิ๋นหลิงเคยคิดค้นยามากมายเพื่อควบคุมอาการนี้โดยเฉพาะ เพื่อให้แน่ใจว่าสามารถควบคุมเวลานอนของน้องเล็กให้อยู่ประมาณแปดชั่วโมงได้

“นี่เป็นปัญหาเก่าของนาง รออีกสองสามวันข้าจะทำยาเม็ดให้ สามารถแก้ไขอาการของนางให้ดีขึ้น”

การพูดคุยเข้าสู่หัวข้อที่จริงจัง ตี้หวู่เหยาจ้องมองสือจิ่วด้วยสีหน้าซับซ้อน “ชวียวี่เหิง อีกครึ่งเดือนข้าจะเดินทางกลับแคว้นตงฉู่ เจ้าก็กลับไปพร้อมกับข้าเถอะ”

เรื่องแต่งงานที่ถูกกำหนดเอาไว้ ก็ให้ดำเนินไปตามขั้นตอนต่อไป ต้องกลับไปรอกำหนดวันแต่งงานที่แคว้นตงฉู่

ถึงเวลาเยี่ยนอ๋องจะพาขบวนไปรับเจ้าสาวที่เมืองหลวงของแคว้นตงฉู่ด้วยตนเอง หลังจากที่แต่งงานแล้ว ตี้หวู่เหยาจะติดตามเยี่ยนอ๋องกลับไปที่แคว้นต้าโจว

การทำเช่นนี้เห็นได้ชัดว่าเป็นการแสดงความจริงใจของราชวงศ์แห่งแคว้นต้าโจวอย่างเต็มที่ และเป็นหนึ่งในเหตุผลที่ตี้หวู่เหยาพยักหน้ายอมรับในที่สุด

แต่เมื่อเซียวปี้เฉิงได้ยินแล้ว กลับขมวดคิ้วเอ่ยปฏิเสธว่า “ไม่เหมาะสม”

เมื่อพูดจบ ทุกคนต่างก็มองไปที่เขา

“ก่อนที่คดีของสือจิ่วยังหาหลักฐานที่หนักแน่นไม่ได้ จู่ๆเจ้าจะพาเขากลับไปเช่นนี้มีแต่จะเป็นการแหวกหญ้าให้งูตื่น ทำให้คนเหล่านั้นกลัว”

เซียวปี้เฉิงมองพวกเขา แยกแยะให้ฟังอย่างไม่รีบร้อน

“องค์หญิงเก้าคงไม่รู้ แม้การซื้อขายทาสจะเป็นเรื่องปกติ แต่ถ้าอยากจะขายทาสต่อไปยังแคว้นอื่นไม่ใช่เรื่องง่าย ระหว่างนั้นมีด่านมากมาย ยิ่งไปกว่านั้นต้องให้กรมคลังดำเนินการ และต้องใช้หนังสือผ่านด่านเหมือนกัน”

มันเกี่ยวพันไปถึงกฎหมายการค้าและกฎข้อบังคับของแคว้นต่างๆ เซียวปี้เฉิงรู้เรื่องเหล่านี้ดีที่สุด แต่อวิ๋นหลิงกับตี้หวู่เหยาไม่เคยคลุกคลีกับเรื่องพวกนี้มาก่อน

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พระชายาคือแพทย์อัจฉริยะ