ตำหนักชุ่ยเหวย เปลวเทียนสว่างบ้างริบหรี่บ้าง
นี่เป็นที่พำนักของเหล่านางกำนัลขั้นหนึ่งแห่งวังหลวง และเวลานี้งานเลี้ยงยังไม่เลิกรา เหล่านางในยังต้องไปรับใช้ตามจุดต่าง ๆ ตำหนักชุ่ยเหวยจึงถือว่าปลอดคน
“ทำดีมาก นี่คือรางวัล”
ในขณะที่กำลังสะลึมสะลือ องค์ชายห้าแว่วยินเสียงหวานของหญิงผู้หนึ่ง ซึ่งฟังแล้วเหมือนจะคุ้นหู
เขารู้สึกว่าตัวเองถูกวางลง แผ่นหลังสัมผัสถูกที่นอนอันอ่อนนุ่ม และร่างกายเกิดความร้อนที่ผิดปกติ
เฟิงจิ่งเหวยหรี่ตาเล็กน้อย นิ้วเรียวงามลูบไล้ใบหน้าคมสันของชายหนุ่มเบา ๆ น้ำเสียงอ่อนหวาน
“ปากคอคิ้วคางนี้ ดูไปก็คล้ายกับจิ้งอ๋องอยู่ไม่น้อย...”
เอ่ยถึงชายผู้นี้ แววตาของเฟิ่งจิ่งเหวยก็กลายเป็นว้าวุ่น ประกายตามีแววแห่งความลุ่มหลง แต่ไม่นานก็ถูกความโกรธแค้นมาแทนที่
เสียงอื้ออึงของหญิงสาวทำให้สติขององค์ชายห้ากลับคืนมา หนังตาหนักจนแทบลืมไม่ขึ้น แต่กลับมีส่วนอื่นที่อ่อนไหวยิ่งกว่า!
มีกลิ่นหอมจาง ๆ และกลิ่นเครื่องประทินโฉมลอยมาแตะจมูก นี่มันเป็นกลิ่นของ...ห้องนอนผู้หญิงนี่นา!
ทันทีที่เกิดความคิดนี้ องค์ชายห้าก็รู้สึกตกใจ สีหน้าซีดเผือดและลืมตาขึ้น
“เจ้าเองหรอกหรือ?”
หญิงสาวที่อยู่เบื้องหน้ารู้สึกคุ้นตายิ่งนัก นางคือหลานสาวของเสนาบดีเฟิงชื่อว่าเฟิงจิ่งเหวย
เมื่อครู่ในงานเลี้ยงหยวนเซียว นางยังได้ร่ายรำอยู่เพลงหนึ่ง จนทำให้ชายหนุ่มผู้มีชาติตระกูลในงานหลายคนชื่นชมเป็นอย่างมาก แต่สายตาและรอยยิ้มของนางกลับทำให้เขาไม่สบายใจ
“องค์ชายห้าตื่นแล้วหรือเพคะ?” เฟิงจิ่งเหวยยิ้มอย่างเย้ายวน น้ำเสียงแฝงด้วยความหมาย “ในเมื่อตื่นมา เราก็เริ่มทำงานกันเถอะ”
ไม่ทันรอให้องค์ชายห้าได้ตอบ ฝ่ายหญิงก็รีบขึ้นมาคร่อมร่างทันที ทำให้เขารู้ว่าความผิดปกติที่เกิดขึ้นเป็นเพราะอะไร
เขาเป็นคนดื่มเหล้าน้อยมาก และไม่ชอบการดื่มด้วย จึงเป็นไปไม่ได้ที่จะดื่มเพียงเล็กน้อยก็เมามาย
องค์ชายห้าทั้งตกใจและโกรธ ทนฝืนความไม่สบายใจเอาไว้ รีบตะครุบมือที่อีกฝ่ายกำลังจะถอดเสื้อนอกของตนออก
“บังอาจ! เจ้ากล้าใช้คนอื่นมาวางยาข้าเชียวหรือ!”
เฟิงจิ่งเหวยแย้มยิ้มเล็กน้อย กล่าวเสียงออดอ้อนว่า “องค์ชายห้าอย่าเพิ่งกริ้วนัก เพราะข้าชื่นชมท่านมานาน ได้ยินว่าแต่ก่อนท่านก็นิยมไปยังหอคณิกาบ่อย แล้วทำไมเดี๋ยวนี้กลับเปลี่ยนใจ แม้แต่ข้าก็ไม่เข้าตาท่านอย่างงั้นหรือ?”
นับแต่พี่ชายเสียชีวิตไป เสนาบดีเฟิงก็แทบไม่เหลียวแลนางอีก ดีที่ได้ผูกสัมพันธ์กับซ่งเชว่อวี่ไว้ เสนาเฟิงเห็นนางยังพอมีประโยชน์บ้าง จึงค่อย ๆ ปรับเปลี่ยนท่าทีใหม่
กว่าจะได้โอกาสนี้มาก็แสนยาก นางต้องรีบฟื้นตัวโดยเร็ว
รุ่ยอ๋องเป็นญาติผู้พี่ของนาง ส่วนเสียนอ๋องก็น้ำนิ่งไหลลึก จิ้งอ๋องคิดจะฆ่านางให้ได้ เยี่ยนอ๋องจะไปเป็นราชบุตรเขยของแคว้นตงฉู่...
เมื่อเหลือเพียงองค์ชายห้ากับองค์ชายหก นางย่อมจะเลือกองค์ชายห้า ที่งามสง่ามากกว่าอีกทั้งยังมีอนาคตไกลกว่าด้วย
องค์ชายห้าแววตาดูเครียด แต่เนื้อตัวกลับร้อนผ่าวจนแก้มแดงและมีเหงื่อผุด ได้แต่พูดอย่างกัดฟันกรอด
“ถ้ากล้าทำส่งเดช เชื่อมั้ยว่าข้าจะฆ่าเจ้าซะ”
เฟิงจิ่งเหวยเริ่มถอดเสื้อของตัวเองบ้าง พลางทอดสายตาให้เขาอย่างเย้ายวน
“คิดจะฆ่าข้าจริง ก็ต้องดูว่าอีกซักพักท่านจะมีแรงแค่ไหน”
ลำคอขาวผ่องและทรวดทรงองค์เอวของหญิงสาวปะทะเข้าสู่สายตา องค์ชายห้าแทบจะหลับตาลง ขณะที่ในใจเกิดความรู้สึกหวาดกลัวและคลื่นเหียนอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน
เนื้อตัวร้อนรุ่มดังไฟสุม แต่ใบหน้ากลับถอดสี สมองที่มึนงงเกิดความเจ็บแปลบ ความทรงจำที่ถูกเก็บไว้นาน ไม่อยากไปคิดถึงอีก กลับท่วมทะลักราวกับเขื่อนแตก
ตอนนั้นอายุสิบสามปี...และเช่นเดียวกับวันนี้ที่มีงานเลี้ยงในวัง
เขาดื่มมากไปหน่อย ถูกนางกำนัลหลอกให้ไปเปลี่ยนชุดใหม่ จากนั้นด้วยความที่ขาดสติ เขาถูกพาไปตำหนักที่ใดก็ไม่รู้
ท่ามกลางแสงเทียนริบหรี่ กลิ่นเครื่องหอมที่ฉุนแรง เรือนร่างอันขาวโพลน เสียงออดอ้อนใส่จริตของหญิงสาว และมือที่สัมผัสมายังร่างกายของเขา...
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พระชายาคือแพทย์อัจฉริยะ
นึกว่าจะอัพจนจบเสียอีกค่ะ กำลังสนุกเข้มข้นเชียว...
รบกวนแอดช่วยอับต่อไปให้จบเรื่องได้ไหมคะ รออ่านอยู่น้า...
ตอนต่อไปอ่านที่ไหนคะ...
ตอนต่อไป อัพช่วงไหนคะ 😭😭😭...
อัพต่อเถอะนะคะ...กำลังสนุกเลยค่ะ😅😄😊😘...
สนุกมากค่ะ..เดินเรื่องเร็ว..พระเอกไม่โง่..นางเอกฟาดแรงสะใจ...อ่านแล้วบันเทิงมาก55555......
ขอบคุณค่ะ...
รีบมาต่อนะคะ กำลังสนุกเลย...
ขอบคุณน้าค้า ที่ลงทุกวันเลยสนุกมากค่ะ...
ชอบมากเลยค่ะ นางเอกเก่ง❤...