เสียนอ๋องเห็นทุกอย่างตรงหน้าแล้วรู้สึกร่างกายไร้เรี่ยวแรง ทรุดตัวลงคุกเข่าบนพื้น
เส้นผมเขายุ่งเหยิง พลิ้วไหวตามแรงลม ตกอยู่ในอาการหมดอาลัยตายอยากและสับสนกับชีวิต
“เสด็จแม่”
ตลอดยี่สิบกว่าปีมานี้ อันชินอ๋องจมปลักกับความรักและความแค้นที่มีต่อจี้ซูเฟย เมื่อหญิงในดวงตาอำลาโลก ความรักความแค้นของเขาก็อันตรธานหายไป ไร้เป้าหมายในการดำรงชีวิต
ส่วนเสียนอ๋อง ความแค้นคือทุกสิ่งของเขา และต้นเหตุของความแค้นก็คือเขาอยากทวงความยุติธรรมให้แก่ตนและเสด็จแม่
ทว่าเมื่อวันที่เขารอคอยมาถึง ความจริงกลับพลิกผัน บุคคลที่เขาคิดว่าเจอความไม่ยุติธรรมคือผู้ร้ายตัวจริง
เสียนอ๋องนึกถึงภรรยาพร้อมบุตรีที่ต้องเจออันตรายในจวน ใบหน้าพลันซีดขาว ร่างกายสั่นสะท้านไม่หยุด
เขาเชื่อผิดคน และเกลียดผิดคนแล้ว
คนที่เขาควรปกป้องจริง ๆ กลับต้องตกอยู่ในขุมนรกเพราะการกระทำของเขา...
จักรพรรดิจาวเหรินเป็นคนแรกที่ดึงตัวเองออกจากความตะลึงและความทุกข์ใจ เขาสูดลมหายใจด้วยความเจ็บปวด กล่าวเสียงเครียด
“ทหาร นำตัวกลุ่มก่อกบฏของเสียนอ๋องไปขังในคุกหลวง”
เสียนอ๋องปล่อยให้ทหารจับตัวโดยไม่พูดสิ่งใด สีหน้างวยงงและว่างเปล่า ราวกับท่อนไม้ไร้วิญญาณ
เขามองรอบกายด้วยความอึ้ง ราวกับที่ผ่านมาเป็นเพียงความฝันเท่านั้น
เซียวปี้เฉิงมองอ๋องทูเจวียผู้เฒ่าที่หายในรวยรินและดิ้นดุกดิกบนพื้นแล้วถามเสียงขรึม “เสด็จปู่ ควรจัดการคนนี้เยี่ยงไร?”
แววตาซับซ้อนของพระเจ้าหลวงมองไปยังอ๋องทูเจวียผู้เฒ่า ก่อนจะเห็นร่างกายเขาโดนลูกกระสุนหกถึงเจ็ดจุดเป็นอย่างต่ำ ถึงแม้จะยิงจุดบอดไม่ได้ แต่ก็บาดเจ็บสาหัสเช่นกัน
เขาถอนหายใจแล้วพูดอย่างเหนื่อยล้า “ถึงแม้จะมีสายสัมพันธ์สิบกว่าปี แต่ตอนนี้คือศัตรูถาวรที่ต้องตายไปข้าง คงเก็บเจ้าไว้ไม่ได้แล้ว”
อ๋องทูเจวียผู้เฒ่าก็ไม่หวาดกลัว หัวเราะในลำคอแล้วพูดด้วยความเสียดาย “เห้อ ชาตินี้ไม่เคยชนะพี่ใหญ่เลยสักครั้ง”
พระเจ้าหลวงเห็นใบหน้าเหี่ยวย่นเต็มไปด้วยบาดแผล ก็ขยับมุมปาก “ช่างเถอะ ให้เขาตายเร็ว ๆ อย่าทรมานให้มาก”
หลิวฉิงได้ยินดังนั้นก็รีบชักกระบี่แล้วฟาดฟันใส่อ๋องทูเจวียผู้เฒ่า คอของอีกฝ่ายเลือดไหลทะลัก ดวงตาล่องลอย ไร้ลมหายใจ
พระเจ้าหลวง “...”
อ้าว! เขายังพูดไม่จบเลย
พระเจ้าหลวงกระตุกมุมปาก มองหลิวฉิงแล้วอยากจะพูดอะไรบางอย่าง แต่นึกขึ้นได้ว่านางเป็นกำลังสมทบที่อวิ๋นหลิงเชิญมา จึงไม่ได้ตำหนิสิ่งใด
หลิวฉิงมองอวิ๋นหลิงด้วยแววตาสับสน ทำไมเหรอ? นางทำไม่ถูกหรือ?
พระเจ้าหลวงกวาดสายตามองรอบทิศแล้วสั่งการเสียงขรึม “เก็บกวาดภายในวังให้สะอาด เอาศพของอันชินอ๋องกับจี้ซูเฟยไว้ที่ศาลบรรพชนชั่วคราวก่อน”
สิ้นเสียงเขาก็กวาดสายตามองพวกอวิ๋นหลิง
“พวกเจ้าตามข้ามา”
......
ยามพลบค่ำ ท่ามกลางแสงอาทิตย์รำไร กองกำลังสมทบจากเมืองหยวนมาถึงเมืองหลวงอย่างรวดเร็ว สามารถทำให้ทหารของเสียนอ๋องยอมจำนน ส่วนทหารชาวทูเจวียโดนสังหารและจับตัวเป็นเชลยจนหมด
เมื่อท้องฟ้ามืดสนิท การต่อสู้อันดุเดือดในเมืองหลวงเป็นอันจบสิ้น กลับมาเงียบสงบอีกครั้ง
ทหารในวังจัดการซากศพ ส่วนเหล่าขันทีกับนางกำนัลก็ทำความสะอาดทุกซอกทุกมุม
น้ำใสบรรจุในกะละมังแล้วสาดลงพื้นไม่หยุด ราวกับฝนตกหนักในพระราชวัง แม้นจะกำจัดคราบเลือดได้แล้ว ทว่ากลิ่นคาวเลือดยังไม่จางหาย
บรรดาพระสนมน้อยใหญ่ที่ขวัญเสียไปตาม ๆ กันถูกสั่งให้กลับตำหนักตัวเอง สภาพจิตใจของพวกนางนั้นยังไม่หายจากความหวาดกลัว
ภายใต้การอารักขาของพลปืนไฟ พวกพระสนม องค์ชาย องค์หญิงทุกคนสามารถรอดจากอันตรายครั้งนี้ได้ มีเพียงองค์ชายห้าที่มีรอยเฆี่ยนเต็มตัว
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พระชายาคือแพทย์อัจฉริยะ
จะมีอัพต่อจนจบไหมค่ะแอด...
นึกว่าจะอัพจนจบเสียอีกค่ะ กำลังสนุกเข้มข้นเชียว...
รบกวนแอดช่วยอับต่อไปให้จบเรื่องได้ไหมคะ รออ่านอยู่น้า...
ตอนต่อไปอ่านที่ไหนคะ...
ตอนต่อไป อัพช่วงไหนคะ 😭😭😭...
อัพต่อเถอะนะคะ...กำลังสนุกเลยค่ะ😅😄😊😘...
สนุกมากค่ะ..เดินเรื่องเร็ว..พระเอกไม่โง่..นางเอกฟาดแรงสะใจ...อ่านแล้วบันเทิงมาก55555......
ขอบคุณค่ะ...
รีบมาต่อนะคะ กำลังสนุกเลย...
ขอบคุณน้าค้า ที่ลงทุกวันเลยสนุกมากค่ะ...