พระชายาคือแพทย์อัจฉริยะ นิยาย บท 371

บาดแผลที่บริเวณท้องของหรงฉานได้ถูกฆ่าเชื้ออย่างทันท่วงที ทาด้วยโสมหิมะน้ำค้างหยก ทำให้ไร้ปัญหาใหญ่ไปชั่วขณะ

แขนและหัวไหล่ของรุ่ยอ๋องมีบาดแผลที่เป็นหลุมเลือดทั้งลึกตื้นอยู่หลายแห่ง ยังไม่ทันได้จัดการ

เมื่อพบว่าอวิ๋นหลิงกำลังมองตนเองอย่างวิเคราะห์ รุ่ยอ๋องก็ก้าวถอยหลังไปด้วยสีหน้าไม่สบายใจ มองนางอย่างตื่นเต้น “เจ้า เจ้าคิดจะทำอะไร......”

อวิ๋นหลิงยิ้มเย็น เอ่ยอย่างเย็นชาว่า “คนสมองหมูอย่างท่านทำไมจึงไม่ถูกแทงตายซะนะ”

แม้ว่าจักรพรรดิจาวเหรินจะไม่ฉลาดสักเท่าไหร่ แต่ก็ไม่ได้โง่เท่ากับรุ่ยอ๋อง เห็นได้ชัดว่าเขาได้รับการถ่ายทอดมาจากฮองเฮาเฟิง

สีหน้าของรุ่ยอ๋องสลดลง ยื่นอยู่ใต้ชายตาเงียบๆ รู้ตัวว่าไม่มีเหตุผลที่จะตอบโต้แม้แต่น้อย

“เสี่ยวฉานถูกจับให้แต่งงานกับท่านนับว่าซวยไปทั้งชีวิต นางตั้งครรภ์ห้าเดือน ท่านไม่ดูแลนางก็แล้วไปเถอะ กลับใส่อารมณ์กับนาง ทำไมท่านถึงได้ไร้ยางอายเช่นนี้”

“ท่านเป็นคนแต่งงานกับนางเอง ความทุกข์ก็เป็นท่านที่หามาเอง ท่านรนหาที่ตายเองก็แล้วไปเถอะ ยังลากคนอื่นมาทรมานด้วย”

“ท่านคงยังไม่ลืมเรื่องของเสด็จพี่สะใภ้รองกระมัง ถ้าหากเกิดอะไรขึ้นกับเสี่ยวฉานจริงๆ ท่านรับผิดชอบไหวหรือไม่”

เมื่อได้ยินคำพูดเหล่านี้รุ่ยอ๋องก็สีหน้าซีดขาว ก่อนจะนึกถึงเสิ่นชิ่นที่ตอนนี้ต้องกลายเป็นคนที่ไม่สามารถตั้งครรภ์ได้ตลอดชีวิตขึ้นมา

หวนนึกถึงเหตุการณ์ต่างๆตอนที่อยู่ในคุกก่อนหน้านี้ เขาก็รู้สึกกลัวมาก หน้าผากมีเหงื่อเย็นผุดออกมา

ต้องรู้ว่าที่นี่เป็นคุกหลวงซึ่งเป็นสถานที่สำคัญ รอบๆนั้นกักขังนักโทษที่มีพฤติกรรมชั่วร้ายไว้มากมาย คนปกติล้วนไม่มีใครยอมให้คนท้องเข้าใกล้สถานที่เช่นนี้ได้ง่ายๆ เกรงว่าจะกระทบต่อลูกในครรภ์

วันนี้เขาสติเลอะเลือนไปจริงๆ โวยวายเพื่อจะมาที่หอต้าหลี่ให้ได้

รุ่ยอ๋องอดทนต่อความเจ็บปวดของร่างกาย ดวงตาแดงก่ำเอ่ยเสียงต่ำว่า “เป็นความผิดของข้า ข้าไม่ควรเชื่อฉู่อวิ๋นหานง่ายๆ ยิ่งไม่ควรพาฉานเอ๋อร์มาในสถานที่เช่นนี้”

“ท่านยอมรับผิดจริงหรือ”

รุ่ยอ๋องสูดจมูกที่เป็นสีแดงของตนเอง พยักหน้าหนักๆอย่างไม่สบายใจ ยืนอยู่หน้าประตูด้วยท่าทีเชื่อฟังและยอมรับผิด

มองดูท่าทีไม่รู้หนาวรู้ร้อนและความขี้ขลาดตาขาวของเขา อวิ๋นหลิงก็เกิดความรู้สึกอยากจะต่อยเขาหนักๆสักสองหมัดขึ้นมา

“ในเมื่อรู้ว่าทำผิด เช่นนั้นก็ดี” นางสูดลมหายใจลึกๆเฮือกหนึ่ง สะกดกลั้นอารมณ์ที่ปรารถนาจะสั่งสอนคนเอาไว้ ถามเซียวปี้เฉิงด้วยเสียงขรึมว่า “ฉู่อวิ๋นหานเล่า”

เซียวปี้เฉิงตอบ “ยังมีชีวิตอยู่ คุมขังเอาอยู่ในคุกใต้ดิน”

คุกใต้ดินเป็นคุกที่มีการคุ้มกันสูงสุด ข้างในล้วนเป็นห้องขังเดี่ยว ใช้สำหรับคุมขังนักโทษร้ายแรง

“พาข้าไปที่คุกใต้ดิน” อวิ๋นหลิงเม้มปาก ดวงตาที่เย็นชามองไปทางรุ่ยอ๋อง น้ำเสียงไม่เด็ดขาด “เอาเจ้าโง่คนนี้ไปขังด้วย”

แม้จะรู้สึกสงสัย แต่เซียวปี้เฉิงก็ยังคงส่งสายตาให้กับเฉียวเย่ในทันที

“ท่านอ๋องรุ่ย ล่วงเกินแล้ว”

เฉียวเย่รับคำสั่งทันที เดินเข้าไปจับตัวรุ่ยอ๋องตรงไปยังคุกใต้ดิน อีกฝ่ายรู้สึกตื่นเต้นขึ้นมาทันที “เดี๋ยวก่อน เจ้าจะพาข้าไปคุกใต้ดินทำไม”

อวิ๋นหลิงไม่ตอบ เพียงแต่เดินตามหลังเฉียวเย่โดยเว้นระยะห่างไม่ใกล้ไม่ไกล

หรงจั้นเห็นดังนั้น ก็รีบสั่งการบ่าวรับใช้ให้ดูแลหรงฉานให้ดี เดินตามไปด้วยอีกคน กดเสียงต่ำพลางถามนาง

“พระชายาจิ้งอ๋องนี่หมายความว่าอย่างไร”

ดวงตาไร้ซึ่งคลื่นอารมณ์ของอวิ๋นหลิงมองไปยังร่างที่เดินโซเซของรุ่ยอ๋อง เอ่ยเสียงเรียบว่า “ท่าทีของเขาในตอนนี้ ไม่ให้ยาแรงคงไม่ได้ แต่ก็รอดูพฤติกรรมของเขาหลังจากนี้เถอะ ถ้าหากอดทนไม่ไหว เช่นนั้นชาตินี้เขาคงไร้ประโยชน์แล้ว แนะนำว่าให้ไปเกิดใหม่เลย”

นางเกลียดความโง่เขลาของรุ่ยอ๋องมาก แต่หากพูดด้วยความยุติธรรม เจ้าโง่นั่นก็ไม่ได้มีจิตใจเลวร้ายอะไร

จำได้ว่าในความทรงจำของเจ้าของร่างเดิมฉู่อวิ๋นหลิง สิบกว่าปีที่ผ่านมาถูกผู้คนรอบข้างมองด้วยสายตาผิดปกติ มีเพียงรุ่ยอ๋องที่อบอุ่นและเป็นห่วงนาง ปฏิบัติต่อนางเหมือนคนทั่วไปคนหนึ่ง

นี่จึงเป็นเหตุผลว่าทำไมที่เจ้าของร่างเดิมจึงได้มีความรู้สึกลึกซึ้งกับรุ่ยอ๋องมาก

สีหน้าของเซียวปี้เฉิงเปลี่ยนไปเล็กน้อย เหมือนจะรับรู้ได้อย่างเลือนรางว่าอวิ๋นหลิงจะทำอะไร จึงถอนหายใจออกมาเบาๆ

“หลิงเอ๋อร์ ลำบากเจ้าแล้ว”

หรงจั้นพยายามวิเคราะห์ความหมายในบทสนทนาของพวกเขาสองคน มองไปทางอวิ๋นหลิงด้วยสายตาคาดไม่ถึงอยู่บ้าง

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พระชายาคือแพทย์อัจฉริยะ