พระชายาคือแพทย์อัจฉริยะ นิยาย บท 373

หลังจากเกิดเรื่องเมื่อคืน หรงฉานก็ไม่ได้กลับจวนรุ่ยอ๋องอีก แต่ออกจากหอต้าหลี่กลับไปยังจวนเจิ้นกั๋วกง

นิ่งเงียบมาตลอดทาง เมื่อถึงบ้านแล้วก็เอ่ยเรื่องนี้กับหรงจั้น

หรงจั้นขมวดคิ้วดกดำไว้แน่น “เมื่อคืนเสี่ยวฉานบอกว่าอยากจะหย่ากับรุ่ยอ๋อง แต่ว่าตอนนี้นางตั้งครรภ์ได้ห้าเดือนแล้ว เรื่องนี้เกรงว่าจะไม่สามารถจัดการได้ง่ายขนาดนั้น”

น้องสาวถูกพระราชทานงานแต่งงานโดยฮ่องเต้ ปกติแล้วการแต่งงานโดยได้รับพระราชทานเช่นนี้นอกเสียจากว่าเกิดสถานการณ์พิเศษขึ้นมา ไม่เช่นนั้นทั้งสองคนที่ได้รับพระราชทานการแต่งงานไม่มีทางหย่ากันได้ เพราะนั่นเท่ากับเป็นการไม่ให้เกียรติฮ่องเต้

ดังนั้นตั้งแต่สมัยโบราณจนถึงตอนนี้มีคู่เวรคู่กรรมที่ถูกพระราชทานการแต่งงานไม่น้อย แม้จะพยายามประคองชีวิตคู่ให้ดูปรองดองรักกันดี ที่สุดแล้วก็เลือกที่จะปิดบังความวุ่นวายทำให้ดูสงบสุข ต่างคนต่างก็อดทนกับอีกฝ่าย

ยิ่งไม่กว่านั้นหรงฉานยังตั้งครรภ์ตั้งห้าเดือน แคว้นต้าโจวยังไม่เคยมีกรณีที่หญิงกำลังตั้งครรภ์หย่าสามี หรือว่าถูกสามีหย่าขาดมาก่อน

เพราะกฎหมายไม่อนุญาต

อวิ๋นหลิงพยักหน้าเบาๆ “เรื่องที่เสี่ยวฉานอยากจะหย่า ไม่ทราบว่าตระกูลหรงของพวกท่านคิดเห็นอย่างไร”

คนในยุคสมัยนี้มีความคิดคร่ำครึ นางแค่มีลางสังหรณ์ ผู้อาวุโสของหรงฉานคงไม่เห็นด้วยกับเรื่องนี้

“เกี่ยวกับความคิดที่จะหย่า ตอนนี้มีเพียงข้ากับท่านแม่ที่รู้ พวกเราย่อมหวังว่าเสี่ยวฉานจะมีชีวิตที่มีความสุข อย่าว่าแต่นางอยากหย่าเลย แม้นางจะถูกบ้านสามีทอดทิ้ง พวกเราก็มีความมั่นใจว่าจะสามารถทำให้นางมีความสุขไปชั่วชีวิต ไร้ซึ่งความกังวลใดๆทั้งสิ้น”

พูดไปได้ครึ่งเดียว สีหน้าของหรงจั้นก็ปรากฏความกังวลใจขึ้นมาอย่างที่คาดไว้

“แต่ทางด้านท่านพ่อกับท่านปู่......บางทีอาจจะลำบากอยู่บ้าง”

อวิ๋นหลิงไม่ประหลาดใจเลยสักนิด เรื่องการหย่า ผู้ชายส่วนใหญ่ก็มีท่าทีเช่นนี้กันทั้งนั้น นอกเสียจากว่าพวกเขาจะกลายเป็นเหยื่อเสียเอง

แม้ว่าจะเป็นท่านพ่อกับท่านปู่ของหรงฉานก็ตาม ก็เลือกที่จะปกป้องอำนาจและตำแหน่งของคนที่เป็นผู้ชายเป็นอันดับแรก

บนโลกใบนี้ผู้ที่รักลูกมากที่สุดก็คือแม่ ฮูหยินหรงเป็นผู้หญิง ย่อมต้องหวังให้ลูกสาวมีความสุขอย่างเต็มหัวใจ

หรงจั้นเป็นกรณีพิเศษ แม้ว่าเขาจะเป็นชาย แต่กลับเฉยชาต่อแนวคิดเรื่องการแต่งงาน

เขาเคยคิดว่าตนเองจะมีชีวิตอยู่ได้ไม่นาน จึงไม่เคยคิดเรื่องในด้านนี้มาก่อน แม้ว่าอวิ๋นหลิงจะเข้ามาทำให้จิตใจหวั่นไหว ความชอบของเขาก็หยุดอยู่ที่ความชื่นชม ไม่เคยเพ้อฝันว่าจะแต่งงานเป็นสามีภรรยากัน

เมื่อเป็นเช่นนี้ จึงรู้สึกว่าการที่น้องสาวอยากจะหย่าก็ไม่ใช่เรื่องที่รับไม่ได้

อวิ่นหลิงพยักหน้า “ทางด้านเสด็จพ่อท่านไม่ต้องเป็นห่วง ข้าสามารถจัดการได้ แต่ทางด้านตระกูลหรงก็ต้องดูฝีมือพวกท่านแล้ว”

คนอื่นไม่เห็นด้วย นางก็ไม่สามารถจะบุกเข้าไปในจวนเจิ้นกั๋วกงกดหัวให้พวกเขาเห็นด้วยได้

หรงจั้นรู้สึกโล่งอกไปเปลาะหนึ่ง เอ่ยด้วยสีหน้าขอบคุณว่า “รบกวนท่านต้องลำบากวิ่งเต้นเพื่อเสี่ยวฉานแล้ว”

ขอเพียงผ่านด่านของจักรพรรดิจาวเหรินได้ จวนเจิ้นกั๋วกงย่อมมีทางเกลี้ยกล่อมได้

หรงจั้นเอ่ยขอบคุณเสร็จแล้ว ก็คุยกับอวิ๋นหลิงอีกสักครู่ก่อนจะกล่าวลา เพื่อเป็นการหลีกเลี่ยงคำครหา เขาไม่ได้อยู่ในห้องตามลำพังกับอวิ๋นหลิงนานนัก

อวิ๋นหลิงส่งแขก เห็นกู้ฉางเซินกับหลิวฉิงกำลังฝึกดาบกันอยู่ในลานบ้านพอดี กู้ฉางเซินกำลังสอนกระบวนท่าเฉพาะของแคว้นเป่ยฉินให้กับหลิวฉิง

สมองอันชาญฉลาดของนางเกิดความคิดขึ้นมา ยิ้มสดใสเดินเข้าไปใกล้พวกเขาสองคน

“พี่ฉิง ท่านเห็นคนเมื่อครู่หรือไม่ เขาคือรัฐทายาทหรงแห่งจวนเจิ้นกั๋วกง ถูกขนานนามมาตลอดว่าเป็นชายรูปงามที่สุดของแค้วนต้าโจว ท่านคิดว่าหน้าตาเขาเป็นอย่างไร”

เมื่อได้ยินคำพูดประโยคนี้ กู้ฉางเซินสีหน้าเปลี่ยนไปเล็กน้อย สายตามองไปที่ใบหน้าของหลิวฉิงอย่างไม่ทันสังเกตเห็น สีหน้ายังคงปกติเหมือนเดิม

หลิวฉิงเก็บดาบ หวนคิดถึงใบหน้าของหรงจั้นอย่างละเอียดครู่หนึ่ง ให้การประเมินอย่างจริงจัง

“เรียกได้ว่าไม่มีใครเทียบได้ในยุคนี้ เพียงแต่ดูอ่อนแออยู่บ้าง”

ลักษณะของคนคนนั้นที่แยกไม่ออกว่าเป็นบุรุษหรือสตรี ทำให้นางรู้สึกเหมือนเป็นลูกแก้วใสลูกหนึ่งที่พร้อมจะตกแตกได้เสมอ สวยงามแต่ก็เปราะบาง

อวิ๋นหลิงยังคงพูดยิ้มๆว่า “เช่นนั้นเจ้าชอบคนประเภทรัฐทายาทหรงหรือไม่ จนตอนนี้เขาก็ยังโสดไม่แต่งงานนะ”

ถามประโยคนี้จบ นางก็แอบเหลือบมองไปทางกู้ฉางเซินด้วยใบหน้าเรียบเฉย เห็นเพียงคิ้วของเขาที่ขมวดแน่นขึ้นอย่างรวดเร็วครู่หนึ่ง

หลิวฉิงส่ายหน้าอย่างซื่อสัตย์ “ไม่ชอบ ให้ความรู้สึกเหมือนต่อยไปทีหนึ่งจะร้องไห้นานมาก”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พระชายาคือแพทย์อัจฉริยะ