พระชายาคือแพทย์อัจฉริยะ นิยาย บท 396

องค์ชายห้ามองเซียวปี้เฉิงอย่างอนาทรร้อนใจ เขารู้ว่าตอนแรกจักรพรรดิจาวเหรินอยากให้เวินหวยหยูเป็นพระชายารองของเซียวปี้เฉิง แต่ต่อมาจักรพรรดิจาวเหรินก็เปลี่ยนใจ ทั้งยังอนุญาตให้ผู้เป็นพี่ชายมีอวิ๋นหลิงได้เพียงคนเดียว

พี่สามคือรัชทายาทในใจของเสด็จปู่ ขนาดพี่สามยังโน้มน้าวจักรพรรดิจาวเหรินได้ งั้นเขาก็ต้องทำได้แน่ เพราะเขาไม่ใช่ตัวเลือกที่จะแต่งตั้งเป็นรัชทายาท

เซียวปีเฉิงย้อนระลึกเหตุการณ์อันไม่น่าจดจำ ก็มององค์ชายห้าด้วยสีหน้าซับซ้อน

“หากเจ้ายอมสู้สุดใจ ย่อมโน้มน้าวจิตใจเสด็จพ่อได้แน่นอน”

องค์ชายห้าได้ยินเขาพูดด้วยความเคร่งเครียดก็ทำหน้าจริงจังขึ้นมา “เพื่อเถาเอ๋อร์ ข้ายินดีบุกน้ำลุยไฟ”

ต่อให้งดอาหารเขาเจ็ดวัน หรือเฆี่ยนเขาห้าสิบครั้ง เขาก็ไม่ล้มเลิกความคิดและไม่กลัว

เซียวปี้เฉิงหยุดนิ่ง ก่อนจะพูดว่า “ไม่ต้องบุกน้ำลุยไฟหรอก เจ้าแค่ไปนอนหน้าประตำหนักทองหลวงตอนที่พวกขุนนางมาประชุมทุกเช้าก็พอ”

องค์ชายห้าอึ้ง คิดว่าตัวเองฟังผิดไป พูดทวนอย่างไม่แน่ใจ “ห้ะ...นอนหน้าประตูตำหนักทองหลวงหรือ?”

“เสด็จพ่อหวงหน้าตา ไม่อยากขายหน้า หากเขารู้สึกหงุดหงิดก็จะยอมเจ้าเอง” เซียวปี้เฉิงกล่าวด้วยน้ำเสียงนิ่งเฉย ทำหน้าถ่ายทอดประสบการณ์ให้น้องชายรับรู้ “นอนหนึ่งวันไม่ได้ผลก็ไปนอนติดต่อกันสามวัน สามวันไม่ได้ก็สิบวัน ขอแค่น้องห้าสู้สุดใจ เสด็จพ่อต้องประนีประนอมสักวันแน่”

วิธีนี้เรียกว่าต้องเสียกำลังไปแปดร้อยนายกว่าจะปลิดชีพศัตรูได้หนึ่งพันคน แต่ตอนนั้นเพื่ออยากร่วมชีวิตกับอวิ๋นหลิง ต่อให้เอาชีวิตเข้าแลกเขาก็ยอม แค่ชื่อเสียงจะไปสำคัญอะไร?

ผ่านไปเนิ่นนานองค์ชายห้าถึงได้สติกลับมา ทำหน้าเข้าใจในบัดดล

“ที่แท้...ที่แท้ที่พี่สามเคยไปนอนหน้าประตูตำหนักทองหลวงโดยไม่ทราบสาเหตุ...ก็เพราะเรื่องนี้หรือ?”

ตอนนั้นเขายังไม่ค่อยสนิทกับเซียวปี้เฉิงและอวิ๋นหลิงมากนัก ยังสงสัยว่าเหตุใดเซียวปี้เฉิงถึงทำเรื่องขายหน้าเพียงนั้น

ตอนนั้นคนในพระราชวังซุบซิบนินทากันหลายวัน บ้างก็ว่าเขาเป็นลมชัก บ้างก็สงสัยว่าโดนผีสิงร่าง

เซียวปี้เฉิงพยักหน้า “จากนั้นเสด็จปู่ก็ยอมถอยหนึ่งก้าว เสนอให้ข้ากับอวิ๋นหลิงคลอดลูกชายสามคนภายในห้าปี เช่นนั้นจะไม่บังคับให้ข้าแต่งชายารองเข้าจวนอีก”

ไม่รอให้องค์ชายห้าตอบสนอง อวิ๋นหลิงก็หรี่ตาพูดก่อนว่า

“อะไรน่ะ? ยังมีเงื่อนไขแบบนี้ด้วยหรือ? ทำไมตอนนั้นท่านไม่บอกข้า?”

เซียวปี้เฉิงเผลอไผลพูดเงื่อนไขออกมา จึงได้แต่สารภาพตามความเป็นจริง “ตอนนั้นเจ้ากำลังท้อง ข้ากลัวเจ้ากดดัน เลยไม่ได้บอก...”

ประเด็นสำคัญคือไม่ได้แก้ที่ต้นเหตุ เขากลัวอวิ๋นหลิงรับเงื่อนไขนี้ไม่ได้ จึงไม่กล้าบอก

เซียวปี้เฉิงรีบเสริมว่า “แต่เจ้าไม่ต้องกังวลใจ ปีแรกพวกเราก็ปฏิบัติภารกิจมาครึ่งทางแล้ว อีกสี่ปีที่เหลือต้องมีลูกอีกสองคนได้แน่ ไม่มีปัญหาหรอก”

“น้อย ๆ หน่อย ท่านคิดว่าข้าเป็นหัวหน้าแผนกคลอดลูหรือไง?” อวิ๋นหลิงทำหน้าปวดหัว “สี่ปีคลอดลูกสองคนหรือ? ถ้าจะมี ท่านก็คลอดเองเถอะ ข้าเพิ่งคลอดลูกสองคนนี้ออกมา ภายในสองปีนี้ข้าไม่คิดจะตั้งท้องใหม่อีก”

นางทะลุมิติมายังโลกนี้ได้หนึ่งปีกับอีกหนึ่งเดือน ซึ่งในสิบสามเดือนนี้ มีแปดเดือนที่นางต้องอยู่ในคุก ไม่ง่ายเลยกว่าจะได้ใช้ชีวิตเฉกเช่นคนทั่วไปได้

ยิ่งไปกว่านั้น ร่างกายนี้เพิ่งจะสิบแปดปี ยังไม่ได้โตเป็นสาวเต็มที่

ยิ่งมีต้าเป่ากับเอ้อร์เป่าจอมป่วนด้วยแล้ว หากมีเพิ่มมีอีกคน อวิ๋นหลิงต้องเป็นบ้าแน่

ไม่เคยได้ยินหรือ ขนาดสุนัขสามถึงสี่ปียังรังเกียจเรื่องแบบนี้เลย หากมีลูกจอมงอแงเพิ่มอีกคน นางต้องเป็นโรคซึมเศร้าหลังคลอดบุตรแน่

นางอยากได้ลูกสาวสักคน น่ารักน่าเอ็นดูเหมือนั่วเอ๋อร์ แต่จะไม่ตั้งครรภ์ที่สองช่วงนี้แน่

เซียวปี้เฉิงมองนางด้วยแววตาอ่อนโยน “แล้วแต่เจ้า ตอนนี้หากเจ้ายังไม่อยากคลอด พวกเราค่อยว่ากันทีหลังก็ได้”

องค์ชายห้าได้ยินสามีภรรยาคู่นี้หารือเรื่องลูกก็หน้าแดงก่ำ

“แค่ก...แต่ถ้าพี่สามทำตามเงื่อนไขไม่ได้ ถึงเวลานั้นจะทำยังไง?”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พระชายาคือแพทย์อัจฉริยะ