พระชายาคือแพทย์อัจฉริยะ นิยาย บท 4

อวิ๋นหลิงฟื้นขึ้นมาอีกครั้งก็รู้สึกเจ็บจนต้องสูดลมหายใจเข้าลึกๆ

ไอ้คนตาบอด เด็กน้อยน้ำเต้ากลับชาติมาเกิดหรือไง ทำไมคางแข็งขนาดนี้!

แม้นคันฉ่องจะไม่ค่อยชัดนัก แต่นางก็เห็นหน้าผากของตัวเองบวมโตมาก

ตอนแรกก็มีกระที่เกิดจากพิษบนหน้าข้างขวาแล้ว ตอนนี้หน้าผากยังบวมอีก ดูไม่ได้เลย

“คุณหนู ฟื้นได้สักทีนะเจ้าคะ”

ทันใดนั้นก็มีสาวใช้โผเข้ามาข้างเตียง หน้ารูปไข่เต็มไปด้วยน้ำตา

อวิ๋นหลิงตบหน้าอันวิงเวียน เจ้าของร่างเดิมเอาหัวไปชนเสา ส่วนนางก็ไปชนคนหัวเหล็กเข้า เลือดจะคั่งสมองนางไหมน่ะ?

ผ่านไปสักพักใหญ่ๆ นางถึงรู้ว่าเป็นสาวใช้ที่ปรนนิบัตินางในจวนเหวินกั๋วกงมาหลายปี

“ตงชิง?”

“คุณหนูอย่าตบตัวเองสิ หน้าผากมีแผลนะเจ้าคะ”

ตงชิงรีบดึงมืออวิ๋นหลิงไว้ เกรงนางจะไปโดนแผลบนหน้าผากเข้า

“ไยเมื่อคืนถึงไม่เห็นเจ้า?”

คืนสมรส สาวใช้ที่ติดตามมาอย่างตงชิงไม่ได้อยู่ข้างกาย ได้ยินแต่เสียงด่าชองชิวซวงหน้าประตูเท่านั้น

ได้ยินดังนั้น แววตาตงชิงก็ซับซ้อน ท่าทางกระอิดกระเอื้อน

นางขบฟันกล่าว “คุณหนู เมื่อคืนคุณชายใหญ่ส่งคนมาแจ้งว่าเพราะเรื่องของท่านกับจิ้งอ๋องกลายเป็นขี้ปากชาวบ้าน นายท่านจึงโทษฮูหยินที่ไม่รู้จักสั่นสอนลูกสาว จึงพยายามยกให้ฮูหยินเหลียนเป็นภรรยาเอกเจ้าค่ะ”

อวิ๋นหลิงเลิกคิ้ว “เข้ากล้าจังนะ”

ความทรงจำของร่างกายบอกว่าจวนเหวินกั๋วกงมีกฎของบรรพบุรุษที่สืบทอดกันมาหลายชั่วอายุคน ยกเว้นบุตรชายตระกูลฉู่อายุเกินสี่สิบแล้วยังไม่มีลูกชาย ไม่งั้นจะมีอนุภรรยาไม่ได้

แต่บิดาท่านนี้กลับเป็นกรณียกเว้น

ฮูหยินเหลียนคืออนุภรรยาหนึ่งเดียวในจวนเหวินกั๋วกง และฉู่อวิ๋นหานก็เป็นลูกอนุภรรยาเพียงหนึ่งเดียวเท่านั้น

“คุณหนูอย่าไปตำหนินายท่านเลยเจ้าค่ะ เรื่องที่ท่านทำถึงจะ...เห้อ”

ตงชิงปาดน้ำตา รู้สึกกังวลและจนหนทางยิ่ง

“คุณชายใหญ่สั่งให้บ่าวมาบอกท่านว่า เมื่อแต่งเข้าจวนจิ้งอ๋องแล้วก็ให้ทำตัวดีๆ อย่าก่อเรื่องอีก จะได้ไม่ทำให้ฮูหยินและจวนกั๋วกงพลอยเดือดร้อนไปด้วย แต่ใครจะไปรู้ว่าท่านจะ...”

ตงชิงพูดต่อไปไม่ได้แล้ว

แม้แต่ในความฝันนางก็ไม่คิดว่าฉู่อวิ๋นหลิงจะไปทำลูกชายของหวงกุ้ยเฟยแตก

เมื่อคืนนางกลับมาถึงก็ได้ยินข่าวนี้ นางตกใจจนขวัญกระเจิงกันเลยทีเดียว

“บ่าวเข้าใจว่าคุณหนูโดนคนใส่ร้ายในคืนหยวนเซียว รู้ว่าต้องแบกรับความไม่ยุติธรรม แต่ต่อให้ท่านจะโกรธแค่ไหนก็ไม่ควรทำแบบนี้เจ้าค่ะ”

ระหว่างที่พูด น้ำตาบนแก้มของชิงตงที่เพิ่งจะเช็ดแห้งก็คลอเบ้าอีกครั้ง

“ยามนี้เยียนอ๋องยังหมดสติไม่ฟื้นเลยเจ้าค่ะ ท่านอ๋องโกรธจัด บอกว่าหากเยียนอ๋องเป็นอะไรไป ท่านอ่องจะพาศพของท่านไปขอขมากับหวงกุ้ยเฟยเจ้าค่ะ”

“ตอนนี้ควรทำอย่างไรดีเจ้าคะ”

ตงชิงร้อนรุ่มกลุ้มใจยิ่งนัก หากฉู่อวิ๋นหลิงโดนลงทัณฑ์ สาวใช้เช่นนางก็ต้องมีจุดจบที่เหมือนกันแน่

แต่ไม่คิดว่าเมื่ออวิ๋นหลิงได้ยินแล้ว กลับนวดไหล่อย่างขี้คร้าน ไม่มีความกลัวเลยสักนิด

“วางใจเถอะ ไอ้เด็กนั่นสบายดี”

แค่พลังจิตเข้าสู่ร่างกายครั้งแรก จึงทำให้หมดสติไป สลบครึ่งวันแล้วก็จะฟื้นขึ้นมาอีก

เมื่อนางไปโดนรอยเฆี่ยนก็ต้องขมวดคิ้วร้องด้วยความเจ็บปวด

“ตงชิง ไปเอาน้ำมาล้างให้ข้า จากนั้นก็ทายาให้ข้าที”

อวิ๋นหลิงเอายาสมานแผลที่หยิบมาจากห้องเยียนอ๋องออกมาให้นาง “แล้วเอาของกินมาด้วย ข้าหิว”

ตงชิงรับยาสมานแผลมา น้ำตาไหลพรากไม่หยุด ตอนนี้นางเกือบพูดอะไรไม่ออกแล้ว

“บ่าวอยากมาทำแผลให้ท่านนานแล้ว แต่ไอ้พวกวางอำนาจบาตรใหญ่...บอกว่าท่านอ๋องไม่ได้สั่ง จะส่งอาหารและน้ำร้อนให้ท่านไม่ได้”

อวิ๋นหลิงถอนหายใจ “ไปเอาน้ำเย็นมาให้ข้าก็ได้”

นางรับกลิ่นบนกายไม่ไหวจริง มีทั้งกลิ่นเหงื่อ น้ำฝนและคราบเลือด

ตงชิงพยักหน้าหงึกๆ ไปเอาน้ำเย็นสะอาดๆมาหนึ่งกะละมังตามคำสั่งของอวิ๋นหลิง และตอนที่เดินผ่านห้องครัวยังแอบขโมยหมั่นโถวมาสองอันด้วย

สาวใช้คนนี้มีไหวพริบดีใช้ได้เลย

อวิ๋นหลิงรับหมั่นโถวมากัดกิน นางนอนคว่ำโดยไม่ได้ใส่เสื้อผ้า ปล่อยให้ตงชิงเช็ดทำความสะอาดแล้วทายาให้

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พระชายาคือแพทย์อัจฉริยะ