ในเมื่อคลายความเข้าใจผิดได้หมด เมื่อครู่ยังตั้งเงื่อนไขกับกงจื่อโยวไว้แล้ว อวิ๋นหลิงจึงไม่มีเหตุผลที่จะปฏิเสธ
รักษาหนึ่งคนก็คือรักษา รักษาสองคนก็ยังคงต้องรักษาอยู่ดี ไม่ได้ต่างกันมากนัก
ทว่าอวิ๋นหลิงครุ่นคิดดูแล้วจึงพูดเสียงจริงจังว่า “แต่ข้าต้องขอบอกก่อนว่า พิษเย็นในตัวของกงจื่อโยวร้ายแรงกว่าเสด็จแม่ลี่ ข้ามั่นใจเพียงห้าส่วนเท่านั้น พวกท่านอย่าคาดหวังสูงเกินไปแล้วกัน”
หากผู้เข้ารับการรักษาคือลี่ผิน อวิ๋นหลิงจะมีความมั่นใจเจ็ดส่วนว่าจะรักษาให้หายขาดได้ ทว่าอาการของกงจื่อโยวนั้นไม่ง่ายเลย
ไม่ว่าจะมีโอกาสสำเร็จห้าส่วนหรือเจ็ดส่วน สำหรับอวิ๋นหลิงแล้วล้วนไม่แน่ไม่นอน ทว่าสำหรับพวกหลิงซูแล้วถือเป็นเรื่องปาฏิหาริย์เลย
พวกสำนักทิงเสวี่ยสบตากัน ล้วนคุกเข่าล้อมรอบอวิ๋นหลิงด้วยความตื้นตันใจ
“พระชายาจิ้งอ๋อง ท่านเป็นเทพธิดาที่สวรรค์ส่งมาจริง ๆ ท่านเป็นคนจิตใจดี อย่าได้ถือสาเรื่องที่ผ่านมาเลย โปรดยื่นมือช่วยเหลือเจ้าสำนักน้อยด้วยเถิด”
กระทั่งจั่นอิ่งก็คุกเข่าอย่างไม่อิดออด ทั้งยังโขกหัวให้อวิ๋นหลิงสามครั้ง
“พระชายาโปรดช่วยเจ้าสำนักน้อยด้วย”
อวิ๋นหลิงเห็นมีคนรุมคุกเข่าอ้อนวอนแล้วก็ได้แต่ตอบอย่างจนปัญญา “พวกเจ้าลุกขึ้นเถิด ข้ารับปาก”
ทุกคนสบตากันด้วยความดีใจ
กงจื่อโยวกล่าวคำขอบคุณอวิ๋นหลิงจากใจจริง แล้วพูดคุยกับลี่ผินและองค์ชายหกอยู่นาน พวกอวิ๋นหลิงย้ายไปอยู่ในห้องโถงเล็กอย่างรู้ความ
เซียวปี้เฉิงกระซิบเสียงเบา “ข้ารู้ว่ากงจื่อโยวกับเสด็จแม่ลี่มีความสัมพันธ์ทางสายเลือด แต่ไม่คิดว่าเขาจะเป็นหลานชาย แบบนี้ก็เท่ากับกงจื่อโยวต้องเรียกเสด็จพ่อว่าน้าเขยล่ะสิ?”
โลกใบนี้ช่างอัศจรรย์ยิ่งนัก
วินาทีก่อนยังรู้สึกว่าสำนักทิงเสวี่ยลี้ลับซับซ้อน แต่วินาทีต่อมา เขากลับรู้ว่าสำนักนี้เกี่ยวพันกับราชวงศ์ต้าโจว
อวิ๋นหลิงก็อดยกริมฝีปากขึ้นมาพูดไม่ได้ “ถ้าเสด็จพ่อรู้ว่าเขามีหลานชายเก่งขนาดนี้ จะรู้สึกอย่างไรบ้าง?”
ช่วงพลบค่ำลี่ผินกับองค์ชายหกถึงออกจากห้องโถง สีหน้าพวกเขากลับมาเรียบเฉย แต่บรรยากาศกลับยังคงอบอุ่นไม่เจือจาง
“ค่ำแล้วข้าต้องกลับวังก่อน เรื่องวันนี้ข้าจะกราบทูลฝ่าบาทเอง”
กงจื่อโยวพยักหน้า พูดเสียงอ่อนโยน “อีกสองสามวันข้าจะถวายของขวัญไปเข้าพบท่านน้ากับท่านน้าเขยที่วังอย่างเป็นทางการ”
อวิ๋นหลิงกับสามีก็มาส่งด้วย ลี่ผินมอบรองเท้าที่เย็บเองให้เด็ก ๆแล้วก็พาองค์ชายหกกลับพระราชวังอย่างอาลัยอาวรณ์
แลดูกงจื่อโยวอารมณ์ดีไม่น้อย กลับมามีสีหน้าขี้คร้านดังเดิม ยิ้มเรื่อยเฉื่อยว่า “เหมือนดั่งคำที่กล่าวไว้จริง ๆ เมื่อเจอทางตันก็ย่อมมีทางออกอีกทางหนึ่ง...พี่สะใภ้ ท่านเป็นดาวนำโชคของข้าจริงๆ”
อวิ๋นหลิงเห็นเขามองตน หางตาก็อดกระตุกไม่ได้ “เมื่อครู่เจ้าเรียกข้ายังไงน่ะ?”
กงจื่อโยวหรี่ตากล่าว “อวี้เหอเป็นน้องชายข้า ส่วนท่านจิ้งอ๋องก็โตกว่าข้าหนึ่งปี เช่นนั้นข้าก็ต้องเรียกเขาว่าพี่ชาย พระชายาจึงเป็นพี่สะใภ้ข้าอย่างไรเล่า”
เซียวปี้เฉิง “...”
คนนี้หน้าด้านเสียจริง รู้สึกนับญาติเกินไปหน่อยแล้ว?
อวิ๋นหลิงยังไม่ทันโต้เถียง กงจื่อโยวก็ไปหาหลิวฉิงด้วยความกระตือรือร้น “พระสนมฟงเป็นศิษย์พี่รองของพี่สะใภ้ เช่นนั้นข้าน้อยก็เรียกท่านเหมือนนางว่าศิษย์พี่รองนะ”
กู้ฉางเซิน “...”
หลิวฉิงได้ยินก็มองกงจื่อโยวอย่างรังเกียจรังงอน “น้อย ๆ หน่อย ข้าไม่สนิทกับเจ้า ไม่กระทืบเจ้าก็บุญแล้ว อย่าเที่ยวนับญาติไปเรื่อยสิ”
กงจื่อโยวหน้าด้าน ไม่รู้สึกเสียหน้า หรี่ตายิ้มเอ่ยว่า “ตอนนี้ไม่สนิท สักพักก็สนิทเองแหละ”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พระชายาคือแพทย์อัจฉริยะ
จะมีอัพต่อจนจบไหมค่ะแอด...
นึกว่าจะอัพจนจบเสียอีกค่ะ กำลังสนุกเข้มข้นเชียว...
รบกวนแอดช่วยอับต่อไปให้จบเรื่องได้ไหมคะ รออ่านอยู่น้า...
ตอนต่อไปอ่านที่ไหนคะ...
ตอนต่อไป อัพช่วงไหนคะ 😭😭😭...
อัพต่อเถอะนะคะ...กำลังสนุกเลยค่ะ😅😄😊😘...
สนุกมากค่ะ..เดินเรื่องเร็ว..พระเอกไม่โง่..นางเอกฟาดแรงสะใจ...อ่านแล้วบันเทิงมาก55555......
ขอบคุณค่ะ...
รีบมาต่อนะคะ กำลังสนุกเลย...
ขอบคุณน้าค้า ที่ลงทุกวันเลยสนุกมากค่ะ...